ในช่วงการระบาดโควิด-19 เริ่มผ่อนคลายลง หลายๆ ประเทศรวมถึงประเทศไทยได้ออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการชักชวนชาวต่างชาติให้มาท่องเที่ยวในประเทศซึ่งเป็นมาตรการระยะสั้น และหนึ่งในมาตรการระยะยาวที่กำลังเป็นกระแสมาแรงตอนนี้ คือ นโยบายมาตรการให้นักลงทุนนำเงินมาลงทุนในประเทศ พร้อมให้สิทธิในการจัดหาที่พำนักในประเทศระยะยาว ในระหว่างการลงทุนประกอบธุรกิจ
นโยบายดังกล่าวคณะรัฐมนตรีรัฐบาลปัจจุบัน ได้มีมติอนุมัติในหลักการเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ให้ออกเป็นร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทยพ.ศ. .... ผลบังคับตามร่างกฎกระทรวงนี้จะมีระยะเวลาบังคับใช้ 5 ปี นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
บริบทเนื้อหาในร่างจะกำหนดถึงกลุ่มคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง 4 ประเภทมีศักยภาพ และสามารถทำประโยชน์ให้ประเทศไทยได้ ที่สามารถได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ได้แก่
(1)กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง
(2)กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ
(3)กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย
(4)กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ
โดยจะต้องเป็นผู้มีจำนวนเงินลงทุนในธุรกิจหรือกิจการประเภทหนึ่งประเภทใด ไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท และต้องดำรงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 3 ปี (เช่น การซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น) เงินที่นำมาลงทุนนี้หากต้องการจะถอดถอนการลงทุนในธุรกิจหรือ กิจการก่อนครบกำหนดเวลาการดำรงทุน ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ถอนการลงทุน
คนต่างด้าวกลุ่มดังกล่าวมีสิทธิเป็นเจ้าของที่ดินในประเทศไทย เพื่อการอยู่อาศัยเพื่อตนเอง ที่ดินตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล หรืออยู่ภายในบริเวณที่กำหนดเป็นเขตที่อยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง จำนวนเนื้อที่ที่ได้รับสิทธิ ไม่เกิน 1 ไร่ ตามมาตรา 96 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยที่ดินที่ถือครองตามสิทธินี้จะไม่สามารถขายต่อได้ หากขายทั้งหมดหรือแต่บางส่วนสิทธินี้จะระงับทันที สิทธินี้สามารถโอนให้แก่ทายาทที่เป็นลูกหลานได้
สิทธิประโยชน์ด้านการพำนักและการปฏิบัติงานในประเทศไทย ของชาวต่างชาติที่ถือครองที่ดินและอาศัยในประเทศไทย ตามสิทธิดังกล่าว จะมีสิทธิได้รับอนุมัติวีซ่าผู้พักอาศัยระยะยาว (Long Term Resident Visa: LTR) รวมถึงใบอนุญาตทำงานทันที ไม่ต้องรายงานตัวกับพนักงานเจ้าหน้าที่ในกรณีที่พำนักในไทยเกิน 90 วัน โดยวีซ่าจะมีอายุ 10 ปี สิทธินี้จะครอบคลุมทั้งคู่สมรสและบุตรด้วย นอกจากนี้ ยังได้รับสิทธิประโยชน์ด้านอื่นๆ อาทิ
(1) ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับรายได้ต่างประเทศ
(2) ได้รับสิทธิจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากรายได้ในประเทศไทยเช่นเดียวกับผู้ถือสัญชาติไทย
(3) ได้รับสิทธิการถือครองกรรมสิทธิห้องชุดเพิ่มขึ้นเป็น 70-80% จากเดิม 49% ตามมาตรา 19 ทวิ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ อาคารชุด (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2542 มาตรา 4 ของนโยบายเมื่อปี 2545
(4) มีสิทธิถือครองกรรมสิทธิ์เจ้าของที่ดินและบ้านจัดสรรในราคา 10-15 ล้านบาทขึ้นไป
(5) เสียภาษีอากรไวน์ สุรา และยาสูบประเภทซิการ์ครึ่งหนึ่งจากเดิม เป็นต้น
เมื่อพิจารณามาตรการในทำนองเดียวกันนี้ของประเทศอื่น เช่น
ประเทศสิงคโปร์ มีกฎหมายว่าด้วยสินทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย (the Residential Property Act) กำหนดให้ชาวต่างชาติมีสิทธิซื้อและครอบครองอสังหาริมทรัพย์ได้ โดยมีรายละเอียดข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณสมบัติของชาวต่างชาติ (ต้องไม่เป็นชาวสิงคโปร์โดยกำเนิด มีถิ่นที่อยู่ถาวรในสิงคโปร์อย่างน้อย 5 ปี มีอาชีพสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างดีมาโดยตลอด) ตลอดจนชนิดประเภทของที่อยู่อาศัย หรืออสังริมทรัพย์ที่ชาวต่างชาติ
มีสิทธิซื้อ และถือครองไว้ในกฎหมายดังกล่าว
ประเทศมาเลเซีย กำหนดนโยบายไว้ในประมวลกฎหมายว่าด้วย ที่ดินแห่งชาติ 1965 (the National Land Code 1965 : NLC 1965) รองรับด้วยแนวปฏิบัติว่าด้วยการจัดการทรัพย์สินกำหนดโดยกรมแผนการเศรษฐกิจ (the Guidelines on the Acquisition of Properties issued by the Economic Planning Unit : EPU)) โดยให้ชาวต่างชาติมีสิทธิซื้อและครอบครองอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยในมาเลเซียได้ 100% โดยจะต้องมีมูลค่าอย่างต่ำ 1 ล้านริงกิตมาเลเซีย (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 8,032,974 บาท) โดยในการซื้อต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจ
ประเทศออสเตรเลีย ชาวต่างชาติสามารถลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยได้โดยต้องได้รับการ
อนุมัติจาก คณะกรรมการพิจารณาการลงทุนของต่างชาติเท่านั้น (The Foreign Investment Review Board : FIRB) โดยหลักเกณฑ์การพิจารณาจะเน้นไปที่การอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นสิ่งก่อสร้างใหม่เท่านั้น (มิใช่อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยมือสอง) โดยหากเป็นการซื้อที่ดินเปล่าเพื่อการก่อสร้างก็จะต้องทำการก่อสร้างภายใน 4 ปี นับแต่ได้รับอนุมัติและยื่นขออนุมัติต่อคณะกรรมการฯ อีกภายใน 30 วันเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ
กรณีต่างชาติซื้อที่ดิน เมื่อเปรียบเทียบระหว่างประเทศไทย กับประเทศอื่น ถือว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิดแปลก แต่เป็นเรื่อง การลงทุนที่เป็นกระแสโลกาภิวัตน์
คำว่า การขายชาติ จะเป็นคำกล่าวหาที่แรงเกินไป และเป็นเกมการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี