nn มันก็จะดีต่อใจมิใช่น้อย...สำหรับคนที่เป็นลูกค้าสินเชื่อของธนาคารอาคารสงเคราะห์...เมื่อคุณฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)...แจ้งมาว่าถึงที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565...จะมีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี หรือจาก 1.00% ต่อปี เป็น 1.25% ต่อปี...แต่ ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ยังคงพร้อมดูแลลูกค้า ทั้งกลุ่มลูกค้าปัจจุบันของธนาคาร และประชาชนทั่วไปที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง...ด้วยการตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ถึงสิ้นเดือนมกราคม 2566 เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการช่วยให้ลูกค้าเงินกู้ของธนาคารที่มีจำนวนเงินสินเชื่อคงค้างในปัจจุบัน ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2565 มากกว่า 1.6 ล้านล้านบาทได้มีเวลาปรับตัวรับกับภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นในอนาคต และช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายของลูกค้ากลุ่มที่อาจยังได้รับผลกระทบด้านรายได้จากสถานการณ์ COVID-19…!! นับตั้งแต่การประชุม กนง. เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565จนถึงปัจจุบัน กนง. ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาแล้ว 0.75% ต่อปีแต่ ธอส. ยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ในระดับเดิมมาโดยตลอด และในปี 2566 ธนาคารจะทยอยปรับขึ้นเพียง 0.15-0.25% ต่อปี.. ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อเงินงวดของลูกค้าให้ปรับเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากธนาคารได้จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มี Buffer หรือการคำนวณเงินงวดผ่อนชำระเผื่อกรณีมีการปรับอัตราดอกเบี้ยไว้ให้กับลูกค้าอยู่แล้ว...โอว์...พระเจ้าจอร์จ...มันยอดมาก...
nn ของเขาดีจริงๆ นะวิ...ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK)...ท่ามกลางความผันผวนของตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน... บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์(ประเทศไทย) จำกัด ก็ยังประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ที่ “AAA(tha)” เป็นปีที่ 17ติดต่อกัน โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ...สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในบทบาทของธนาคารที่มีหน้าที่ในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ในมิติการค้าและการลงทุน เชื่อมโยงกับการเติบโตทางสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยพัฒนาองค์กรอย่างโดดเด่นและต่อเนื่อง ควบคู่กับการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะรายย่อยที่ยังเข้าไม่ถึงบริการจากธนาคารพาณิชย์ ให้สามารถปรับตัวและแข่งขันได้ในโลกการค้ายุคใหม่ สู่เป้าหมายการสร้างนักรบเศรษฐกิจไทยในตลาดโลกและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เนื่องจากภาคการส่งออกคิดเป็น 58% ของ GDP ประเทศไทย โดย EXIM BANK มุ่งเน้นการ “เติมทุน เติมความรู้ และเติมโอกาส” ให้แก่ผู้ประกอบการ ตั้งแต่ระดับวิสาหกิจชุมชนไปจนถึงผู้ประกอบการทั่วไปตลอดทั้ง Supply Chain การส่งออก โดยสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล อีกทั้ง EXIM BANKยังเป็นธนาคารของรัฐเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ให้บริการประกันการส่งออกและประกันความเสี่ยงการลงทุน เพื่อส่งเสริมให้ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยเริ่มต้นหรือขยายการค้าการลงทุนไปยังเวทีโลกอย่างมั่นใจและเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในโลกที่เต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทายใหม่ๆ ยุค Next Normal...และผลการดำเนินงานของ EXIM BANK....ในยุคที่มี...ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ...ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ พลิกจากผลขาดทุนสุทธิเกือบ 1,340 ล้านบาทในปี 2563 เป็นกำไรสุทธิ 1,531 ล้านบาทในปี 2564 สูงสุดตั้งแต่เปิดดำเนินงานในปี 2537และในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า คาดการณ์แนวโน้มรายได้จะยังคงเติบโตในระดับที่เหมาะสมตามเป้าหมายจากการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจและปรับบทบาทใหม่“กล้าพัฒนาเพื่อคนไทย” ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการความเสี่ยงของคุณภาพสินทรัพย์อย่างเหมาะสม...nn
อนันตเดช พงษ์พันธ์ุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี