บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัท ราช กรุ๊ป หรือ RATCH จากการประชุมนักวิเคราะห์ของ RATCH ประเด็นหลักๆ ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับงบ 3Q65, กลยุทธ์ และการอัปเดตโครงการต่างๆ เป้าหมายระยะยาวของบริษัทยังคงเหมือนเดิมที่ 10,000MWe (จากปัจจุบันที่ 9,976MWe) หรือคิดเป็นมูลค่า enterprise value ที่ 2 แสนล้านบาท (จาก 1.52 แสนล้านบาท) ในปี 2568 กำลังการผลิตรวม 3,645MW ของโรงไฟฟ้า RATCHGEN (RG) จะทยอยหมดอายุลงในปี 2568 ในส่วนของ Unit 1-2 (1,400MWe) และในปี 2570 ในส่วนของ Unit 3-5 (2,245 MWe) ภายในปี 2578 บริษัทคาดว่าสัดส่วนของโครงการพลังงานหมุนเวียน (RE) จะอยู่ที่ 40% ของกำลังการผลิตรวม (จาก 19% ในปัจจุบัน และ 25% ในปี 2568F) ก่อนที่จะเข้าสู่ภาวะ carbon neutrality ในปี 2593F RATCH ตั้งเป้าหมายที่จะซื้อโครงการโรงไฟฟ้า 700MWe ต่อปี (75% fossil vs. 25% RE) สำหรับโครงการ RE 5.2GWh ในประเทศไทย RATCH จะเน้นที่โครงการ solar (400MW)และ solar + battery (100MW) ขณะที่มองว่าผลตอบแทนของโครงการพลังงานลม และชีวมวลอาจจะอยู่ในระดับที่ต่ำเกินกว่าจะรับได้
หลังเพิ่มทุน ผู้บริหารคาดว่า ROE ในปี 2566F จะเพิ่มเป็นสองหลัก (จาก 8.98% ในงวด 9M65 ขณะที่เราคาดว่า ROE ปี 2566F จะอยู่ที่ 9.4%) จากการเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ Paiton และNEJV ตั้งแต่ปลาย 1Q66F นอกจากนี้ RATCH ยังคาดว่าราคาก๊าซของโครงการ SPP จะอยู่ในช่วง 480 บาท/mmbtu ในปี 2566F (เราใช้สมมติฐานที่ 470 บาท/mmbtu) เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักในปี 2566F จะเพิ่มขึ้นถึง 43% YoY จากโครงการ Paiton และ NEJV ขณะที่คาดว่า EPS จะยังคงได้รับผลกระทบจาก dilution effect นอกจากนี้ RATCH ยังอยู่ระหว่างศึกษาโครงการใหม่ๆ (โดยเฉพาะ RE) และมีแผนจะออกหุ้นกู้เพื่อชำระหนี้ด้วย ถึงแม้ว่าต้นทุนดอกเบี้ยของบริษัทจะอยู่ในสถานะที่แข่งขันได้ แต่เรามองว่าการลดต้นทุนดอกเบี้ยน่าจะทำได้ยากในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น
เราคาดว่ากำไรใน 4Q65F จะลดลง QoQ เพราะเป็นช่วง low season ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำและพลังงานลมในออสเตรเลีย ขณะที่โรงไฟฟ้าIPP ของ RATCH (RG และหงสา) มีซ่อมบำรุง แม้ว่าราคาก๊าซ SPP จะลดลง 16-18% QoQ และจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจาก Ecowin, RATCH Cogen อาจจะรวมถึง Paiton ด้วยอย่างไรก็ตามกำไรสุทธิยังขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน USD/AUD และ USD/JPY ด้วย
เราคงคำแนะนำถือด้วยราคาเป้าหมาย ปี 2566 ที่ 43 บาท จากแนวโน้มการเติบโต และปันผลระดับปานกลาง เราจึงมองว่าราคาหุ้นดูเหมาะสมแล้ว แต่ภาวะของราคาหุ้นอาจจะได้แรงหนุนจากความคาดหวังว่าหุ้น RATCH จะได้เข้าไปอยู่ใน SET50 ใน 1H66 โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566
ปัจจัยเสี่ยงจากการการปิดโรงไฟฟ้านอกแผน, ปัญหา cost overruns, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี