**ก็น่าเห็นใจอยู่นะสำหรับ... คุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง...ในฐานะ “แม่ทัพใหญ่”...ในทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล...เพราะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ซบเซา...ตอนนี้พยายามจะเข็นมาตรการต่างๆออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งในฐานะรมว.คลัง..ในฐานะกรรมการบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ...แม่งานหลักในการบริหารจัดการงบ 1.57 แสนล้านบาท เพื่อรับมือผลกระทบจาก “ทรัมป์ 2.0”...เรื่องของปัจจัยภายนอกที่เกิดจากภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซาจากสงครามการค้า...และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์...ที่ขยายวงออกไปเรื่อยๆ...นอกจากในพื้นที่ฉนวนกาซ่า...รัสเซีย&ยูเครน...ตอนนี้ก็เจอกับประเด็น...อิหร่าน & อิสราเอล...เข้าไปอีก (แล้วก็ยังต้องลุ้น ไทย&กัมพูชาอีก)...ส่วนปัจจัยภายใน ประเด็นปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขได้ดีพอ..ทั้งหนี้ครัวเรือนสูง....รายได้ต่อหัวประชาชนยังต่ำ ภาคการผลิตยังชะลอตัว การท่องเที่ยวยังไม่ดีดังหวัง ส่งออกก็กำลังจะแย่จากสงครามการค้า...!! และที่สำคัญที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้คือ..ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดลง เพราะเกิดความไม่แน่นอนทางการเมือง...สะท้อนออกมาจาก 2 พรรคการเมืองใหญ่ในรัฐบาลที่กำลังฮึ่มๆใส่กันอยู่เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี...นอกจากนั้นนักลงทุนก็ยังกังวลประเด็นเฉพาะตัวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี....ไอ้เรื่องความรู้ความสามารถนั้นรู้ๆกันอยู่ ไม่ต้องพูดอีก...ส่วนเรื่องภาวะการผู้นำ ก็สะท้อนออกมาแล้วจากกรณีของข้อขัดแย้งในดินแดนทับซ้อนระหว่างไทย&กัมพูชา (งานนี้นายกฯเสียคะแนนไปมาก)....(เรื่องทะเลาะสื่อประจำทำเนียบอันนี้ข้ามๆไปก็ได้)...ล่าสุดก็เรื่องคดีความของ “ผู้เป็นพ่อท่านนายกฯ”...เรื่องนี้หนักเลย...นักลงทุน นักธุรกิจ เขากังวลมากๆ ไม่รู้ว่านายกฯยังจะพอมีสมาธิในการบริหารประเทศได้อีกหรือเปล่า...!! ดังนั้นพ่อแม่พี่น้องไม่ต้องแปลกใจ ทำไมดัชนีตลาดหุ้นไทยต่ำเตี้ยเรี่ยดินได้ขนาดนี้....ทั้งๆที่บริษัทจดทะเบียนของไทยมากกว่า 50%  ก็ยังเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีพื้นฐานทางธุรกิจที่ดี ยังทำกำไรได้ และยังมีความสามารถในการจ่ายปันผล....!! คำตอบเดียวสำหรับเรืองนี้คือ...นักลงทุนไม่มีความเชื่อมั่นในรัฐบาลและตัวนายกรัฐมนตรี...นั่นเอง...**

**อนันตเดช พงษ์พันธุ์**