ช่วง2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาสังคมไทยหวาดผวากับสถานการณ์ความรุนแรง ที่มีการลอบวางระเบิดทั้งที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งในกทม.ที่เริ่มต้นจากถังขยะหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเดิมที่บริเวณหัวถนนราชดำเนิน เลยไปวางบึ้มที่หน้าโรงละครแห่งชาติ ก่อนจะสวมวิญญาณสัตว์นรกลอบวางบึ้มในอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 ปี หน้าห้องวงษ์สุวรรณ รพ.พระมงกุฎ จากนั้นก็มีโผล่ที่นั่นที่นี่แทบทุกวัน
พร้อมกับเสียงบึ้มป่วนเมืองก็มีเสียงสัมภเวสีโหยหวนขอส่วนบุญออกมาถล่มนายกฯลุงตู่ (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา)และคณะคสช.ที่ก่อการรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนที่มุ่งกอบโกยผลประโยชน์ของประชาชน แม้กระทั่งเกษตรกรชาวนาที่เป็นกระดูกสันหลังของประเทศจนเศรษฐกิจของประเทศชาติเกิดความเสียหาย ข้าวไทยที่เป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศชาติมาช้านานแต่ยุคบรรพบุรุษฉิบหายในตลาดโลก
อย่างล่าสุด นวลอนงค์ที่เคยถูกผลักออกมายืนหัวแถวเป็นมวยแทนให้มหาโจรมหาวายร้ายที่ทุจริตตอหน้าที่ถูกศาลพิพากษามีความผิดคามมาตรา 100 ในกฎหมาย ป.ป.ช.จำคุก 2 ปีเชิดหุ่น ผู้ต้องหาทุจริตโครงการรับจำนำข้าวทุกเม็ด และโครงการขายข้าวแบบจีทูจีเสียหายกว่า 3 หมื่นล้านนามหล่อน “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นารีขี่ม้าขาวของใครบางคน และที่โดนใครบางคนเปรียบเปรยว่า “กะหรี่แค่เร่ขายตัว แต่หญิงชั่วเร่ขายชาติ” เมื่อครั้งไปกล่าวสุนทรพจน์ที่มองโกเลียก็ออกมาหอนโหยหวนเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. อย่าทำให้ 3 ปี ของการยึดอำนาจต้องสูญเปล่า โดยระบุว่า
“วันนี้(22 พ.ค.60)เป็นวันที่ ครบรอบ 3 ปี ของ คสช.ที่เข้ามายึดอำนาจจาก รัฐบาลดิฉัน คงจะจำกันได้ว่า เหตุผลที่เข้ามายึดอำนาจนั้นเพราะมี ปัญหาจากความแตกแยกทางการเมือง ต้องแก้ไข ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ให้ประชาชนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคี เช่นเดียวกับห้วงที่ผ่านมา และต้องการที่จะมาปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมให้ดีขึ้น เกิดความเป็นธรรมกับทุกพวกทุกฝ่าย จะได้เกิดความสงบ และมีความปรองดองเกิดขึ้นในชาติ
และวันนี้ก็ครบ 3 ปี แล้วนะคะ เป็น 3 ปี ของประเทศไทย ที่รอวันนั้นด้วยความหวัง หวังจะให้บ้านเมือง เกิดความสงบ ปรองดองและเกิดหลักนิติธรรมขึ้นในบ้านเมือง เราจะได้เลิกทะเลาะกันสักที และร่วมกันปฏิรูปประเทศเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ จะได้ร่วมกันทำให้บ้านเมืองของเราดีขึ้น ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และ อยู่ในเวทีโลกด้วยความภาคภูมิใจ ตามที่สัญญาว่าจะคืนความสุขให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศ
แต่วันนี้พวกเรายังไม่เห็นการปฏิรูปอย่างเป็นรูปธรรม ถ้าไม่มีการปฏิรูปก็สูญเปล่าเพราะความเสียหายทางเศรษฐกิจมีมากจากการล้มล้างระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น "อย่าให้ เป็น 3 ปี ที่ต้องสูญเปล่าเลยค่ะ"
ดิฉันขอทวงสัญญา!!!
อ่านแล้วผมว่าผู้หญิงคนนี้สุดยอด
เธอห่วงอนาคตห่วงประเทศชาติจนน้ำตาแทบไหลเลยครับ
แต่เธอลืมไปเลยว่าต้นเหตุที่เกิดการรัฐประหารโดยพล.อ.ประยุทธ์ และ คสช.นั้นเกิดจากอะไร
ใช่เกิดการลักหลับประชาชนตอน 3.00 น.ในสภาผู้แทนราษฎรหรือป่าว
คลอด พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอยโดยไม่สนใจความรู้สึกของประชาชนไม่ฟังเสียงประชาชนที่นักเลือกตั้งมักอ้างว่าคือเสียงสวรรค์!!
ใช่หรือไม่!!
ผมไม่แปลกใจเท่าใดนักที่ สื่อโทรทัศน์วิทยุหนังสือพิมพ์หรือสื่อโซเชี่ยลจะเสนอข่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า ผลตรวจสอบ ชี้ชัด ไปป์บอมบ์” โยงเสื้อแดง ยันเหมือนที่มีนบุรี-สยาม
ไปป์บอมบ์ 3 แห่ง ที่เป็นข่าว ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์ชิ้นโบว์ของกลุ่มการเมืองที่เรียกตนเองว่า พลังประชาธิปไตยของชาติ ภายใต้ชื่อ “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(น.ป.ช.)หรือที่ภูมิใจนักหนาประกาศว่าตนคือคนเสื้อแดงได้สร้างวีรกรรมไว้เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2553 ที่นายพายัพ ปั้นเกตุ หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดงและส.ส.พรรคเพื่อไทย พาคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง บุกเข้าไปในโรงพยาบาลจุฬาฯ โดยอ้างว่ามาตรวจค้นเนื่องจากมีข่าวว่ามีทหารมาซ่องสุมกำลังอยู่ข้างใน
หลังจากเหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผย วันรุ่งขึ้น ทำให้คนไทยก็ได้เห็นภาพความทุลักทุเล เมื่อผู้บริหารโรงพยาบาลจุฬาฯ ตัดสิน ใจย้ายคนไข้จำนวนมาก ทั้งเด็ก คนแก่ ทั้งเจ็บมาก เจ็บน้อย บางคนยังอยู่ในห้องไอซียูไปรักษายังโรงพยาบาลอื่น
และภาพที่สะเทือนใจที่สุด เชื่อว่า สังคมมิอาจรับได้ เมื่อได้รับรู้ว่า สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ คชวัตร สุวฑฺฒนมหาเถร)ซึ่งอยู่ในพระอาการประชวร เป็นคนไข้รายสุดท้ายที่ย้ายออก
บึ้ม!!รพ.พระมงกุฎ ไม่ใช่เดียรฉาน ทำไม่ได้แน่
และที่แน่นอนกว่านั้นคือ เหตุลอบวางระเบิดห้องวงษ์สุวรรณ ห้องจ่ายยานายทหารสัญญาบัตร ชั้น 1 อาคารเฮลิมพระเกียรติ 80 ปี รพ.พระมงกุฎเกล้าฯ คือการเขย่าบัลลังภ์และท้าทายอำนาจคสช.
รวมทั้งทำให้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผิดหวัง ทำให้การรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 สูญเปล่า
คณะทหาร คสช. และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่สามารถทำให้บ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติ สัญญาว่าจะคืนความสุขให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศ
คงจะจำกันได้ว่า เหตุผลที่เข้ามายึดอำนาจนั้นเพราะมี ปัญหาจากความแตกแยกทางการเมือง ต้องแก้ไข ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ให้ประชาชนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคี เช่นเดียวกับห้วงที่ผ่านมา และต้องการที่จะมาปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมให้ดีขึ้น เกิดความเป็นธรรมกับทุกพวกทุกฝ่าย จะได้เกิดความสงบ และมีความปรองดองเกิดขึ้นในชาติ ประเทศไทย ที่รอวันนั้นด้วยความหวัง หวังจะให้บ้านเมือง เกิดความสงบ ปรองดองและเกิดหลักนิติธรรมขึ้นในบ้านเมือง เราจะได้เลิกทะเลาะกันสักที และร่วมกันปฏิรูปประเทศเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ จะได้ร่วมกันทำให้บ้านเมืองของเราดีขึ้น ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และ อยู่ในเวทีโลกด้วยความภาคภูมิใจ ตามที่สัญญาว่าจะคืนความสุขให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศแต่วันนี้พวกเรายังไม่เห็นการปฏิรูปอย่างเป็นรูปธรรม ถ้าไม่มีการปฏิรูปก็สูญเปล่าเพราะความเสียหายทางเศรษฐกิจมีมากจากการล้มล้างระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น
“อย่าให้ เป็น 3 ปี ที่ต้องสูญเปล่าเลยค่ะ"
ดิฉันขอทวงสัญญา!!
ลองตริตรองดูเถอะว่า
เสียงบึ้มครั้งแล้วครั้งเล่าที่เกิดขึ้น
อันธพาล??
เดียรฉานหรือ
กลุ่มการเมืองกลุ่มไหนได้ประโยชน์จากสถานการณ์แบบนี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี