“หนึ่งหนึ่ง สองหนึ่ง สองสอง” ไม่ใช่รหัสลับใดๆ แต่เป็นการสั่งเมนูอาหารเช้าที่ร้านโรตีแถวน้ำ จังหวัดภูเก็ต
ครั้งนี้ พังเดือน ลูกทีมเถ่าชิ่วสุทัศน์ คอลัมน์ตู้กับข้าว เดินสายล่องใต้ ไปจังหวัดที่เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อันมีลักษณะต่างจากจังหวัดอื่นอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นจังหวัดเดียวในประเทศที่พื้นที่ของจังหวัดทั้งหมดเป็นเกาะ อยู่ฝั่งทะเลอันดามัน คำว่า ภูเก็ต คาดว่าน่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า บูกิต (ในภาษามลายู แปลว่า ภูเขา) และคำว่า “ภูเขา” ในภาษาอุรักลาโว้ย เรียกว่า “บูเก๊ะ” หรือที่เคยรู้จักแต่โบราณในนาม เมืองถลาง (วิกิพิเดีย)
จังหวัดภูเก็ตยังมีวัฒนธรรม ประเพณี หลากหลาย ที่ผสมผสานวัฒนธรรมจีน ไทย มุสลิม และชาวเล ที่ยังคงสืบสานชื่อเสียงถึงปัจจุบัน เช่น ประเพณีถือศีลกินผัก ประเพณีลอยเรือชาวเล วัฒนธรรมการแต่งกายย่าหยา บาบ่า (ลูกครึ่งจีน-มาเลย์)
ในตัวเมืองภูเก็ตนั้น ส่วนมากจะเป็นตึกสมัยเก่า มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบยุโรป สร้างขึ้นเกือบร้อยปีมาแล้ว อาคารบางส่วนที่ได้รับอิทธิพลทางด้านสถาปัตยกรรมแบบจีนและปอร์ตุเกตุมาผสมผสาน เรียกว่า สถาปัตยกรรมแบบ “ชิโน – โปรตุกีส” (Chinois Postugess) ลักษณะตัวอาคารจะมีส่วนลึกมากกว่าส่วนกว้างและไม่สูงนัก ด้านหน้าอาคารเป็นทางเดินกว้างมีกันสาดกันแดดกันฝน สามารถหาชมได้บริเวณถนนถลาง ถนนดีบุก ถนนพังงา ถนนเยาวราช ที่ผสมผสานวัฒนธรรมที่เรียกว่าสไตล์โคโลเนียลได้อย่างลงตัว การไปเที่ยวให้สนุก ต้องเดินชมอาคารบ้านเรือนในย่านเมืองเก่า พร้อมทั้งแวะชิมและช็อป ไปด้วยพร้อมๆ กัน
นอกจากนี้ ที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต ตรงบริเวณทางวิ่งจะอยู่ติดกับหาดไม้ขาว ทำให้เวลาที่เครื่องบินลงจอดนั้น จะมีระยะประชิดกับหาดทราย สร้างความตื่นเต้นให้นักท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณนั้นอย่างมาก อีกทั้งยังมีบรรยากาศที่สวยงามแปลกตา กลายเป็นที่เที่ยวยอดนิยมของภูเก็ตไปเลยทีเดียว
การไปเยือนภูเก็ตครั้งนี้ เราไปแวะไปชิมอะไรมาบ้าง ลองติดตามกันนะคะ
ร้านโรตีแถวน้ำ
ร้านโรตีแถวน้ำ ร้านอาหารที่ชาวภูเก็ต มานั่งจิบชากาแฟคุยกัน ร้านนี้จะอยู่ตรงสี่แยกแถวน้ำ บริเวณที่ถนนเทพกระษัตรีตัดกับถนนถลาง ตรงข้ามร้าน Honda ร้านจะเปิดครึ่งวัน ตั้งแต่เช้าหกโมงครึ่งถึงเที่ยง ตามที่ได้เกริ่นไว้ทีแรก หนึ่ง:หนึ่ง คือโรตีกับไข่ดาวอย่างละ1 สอง:หนึ่ง โรตี2+ไข่ดาว1 สอง:สอง โรตีกับไข่ดาวอย่างละสอง โรตีที่นี่ทอดด้วยเตาถ่าน แป้งกรอบแต่ยังคงความนุ่ม กินคู่กับน้ำแกงไก่ มัสมั่นไก่ มัสมั่นเนื้อ โรตีหมดไปไม่รู้ตัว
โรตีเตาถ่าน
โรตี กับแกง อาหารเช้า มื้อแรก
แกงที่นี่เป็นน้ำใสๆ ไม่มีมะเขือหรือผักใดๆ มีน้ำกับเนื้อไก่เท่านั้น ส่วนตัวชอบมัสมั่นเนื้อ เนื้อนุ่มไม่เหนียว น้ำแกงมีรสหวาน มีแกงถั่วให้ชิมฟรีคล้ายน้ำซุป ถ้าร้อนกว่านี้เป็นซดหมดถ้วยแน่ นอกจากโรตีกินกับน้ำแกง เราสั่งให้ราดนมและน้ำตาลแบบที่คุ้นเคยก็ได้ สมาชิกสาว 4 คน สวาปามโรตีกันไป 7 แผ่น แกง 3 ถ้วย ไข่ดาว 5 ฟอง พยายามเรายั้งๆ กันไว้ เพราะมีภาระต้องชิมอีกหลายร้าน
Torry’s Ice cream
ร้านขายไอศกรีมของคนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่นำเมนูไอศกรีมกับขนมพื้นเมืองมาสร้างจุดขายเพิ่มเติม พร้อมตกแต่งเมนูนั้นๆ ด้วยขนมพื้นเมืองอันเลื่องชื่อ เช่นไอศกรีมอาโป๊ง (อาจอ่านว่า อาโปง หรือ อาโป้ง) เป็นขนมเลื่องชื่อของจังหวัดภูเก็ต เดิมทีขนมอาโป้งเป็นขนมพื้นเมืองของชาวมาเลเซีย ซึ่งเรียกกันว่า “ขนมเบื้อง” และต่อมาได้เข้ามาแพร่หลายในจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากชาวมาเลเซียปีนังได้ย้ายเข้ามาอยู่ภูเก็ต ขนมอาโป้งมีหน้าตาคล้ายขนมถังแตก นอกจากเรียกอาโป้งแล้ว ส่วนใหญ่รู้จักในชื่อขนมเบื้องมาเลเซีย
“ไอศกรีมโอวเอ๋ว” โอวเอ๋ว มีลักษณะเป็นวุ้นใสไม่มีสีนั้นทำมาจากกล้วยน้ำว้าสุก และเมล็ดสมุนไพรจีน เรียกว่า เจียะกอ มีฤทธิ์เย็น แก้ร้อนในได้และน้ำด่าง โดยนำกล้วยมาต้มแล้วบดให้เนื้อละเอียด นำเมล็ดสมุนไพรมาต้มกับน้ำด่าง ตั้งทิ้งไว้สักพัก แล้วผสมกับกล้วยน้ำว้าบดตั้งไฟให้เดือดทิ้งไว้แล้วกรองเอากากออก น้ำที่ได้จะค่อยๆ แข็งเป็นวุ้น
ร้านนี้เป็นตึกที่ผสมผสานสไตล์โบราณ ชิโน-โปรตุเกส และจากปากต่อปากของผู้คนในโลกโซเชียล ทำให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย
หมี่โกล้าน (ลกเทียน)
ร้านที่คนในพื้นที่แนะนำ เรา 4 คน สั่ง 3 ชาม ราดหน้า 1 หมี่ผัด 2 เป็นเส้นบะหมี่เหลือง ไม่ใช่เส้นหมี่ซั่วที่เคยกินตอนเทศกาลเจ ชนิดแห้งกับน้ำจะคล้ายๆ กัน แห้งก็จะมีน้ำขลุกขลิก เจ้าของร้านมาคุยด้วยว่าเส้นทำเอง ผัดแบบนี้ตกทอดมา 3 รุ่นแล้ว ถ้าจะกินแห้งต้องสั่งเส้นบะหมี่อร่อยค่ะ นุ่ม ไม่เหม็นหืน เพราะเส้นทำวันต่อวัน เราไปถึงร้านตอนบ่ายอ่อนๆ ลูกค้าเริ่มซา ร้านกำลังจะปิดแล้ว โก (คำใช้เรียกแทนเฮียหรือพี่ชาย) เจ้าของร้านแนะนำร้านบุญรัตน์ติ่มซำ สำหรับมื้อเช้า และขนมจีนต้องมากินเช้าๆ จะได้มีผักครบๆ ร้านเริ่มประเดิมเปิด 6โมงเช้า
หมี่แห้งน้ำขลุกขลิกคล้ายราดหน้า
หมี่ฮกเกี้ยน
จากร้านหมี่ผัด กลับไปตั้งหลักที่ที่พักจะไปชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน นอกจากที่แหลมพรหมเทพแล้ว หาดในหานก็สามารถหาวิวชมได้ มองเห็นทะเลทั้งอ่าว ระหว่างทางขับรถไปเห็นมีรถขายทุเรียนตลอดเส้นทาง เลยลองซื้อแวะชิม สรุปเป็นทุเรียนหมอนทองที่มาจากจันทบุรี กินทุเรียนแกล้มส้มตำริมชายหาดดูวิวพระอาทิตย์ตกดิน ก็แสนจะอิ่มใจไม่น้อย
เขารัง
“เขารัง” เป็นเนินเขาเตี้ยๆ อยู่ในตัวเมืองภูเก็ต มีทางรถยนต์ขึ้นไปได้โดยสะดวก ด้านบนเขารังเป็นจุดชมวิวเมืองภูเก็ต มองเห็นบ้านเรือนที่อยู่ด้านล่าง และสามารถมองไปได้ไกลถึงทะเลแม้กระทั่งเกาะเล็กๆ ใกล้ภูเก็ต เทศบาลเมืองภูเก็ตได้จัดทำสวนสุขภาพ สวนสาธารณะสำหรับเป็นที่ออกกำลังกายและพักผ่อนให้กับชาวภูเก็ต มีบรรยากาศร่มรื่น เหมาะกับการมาสูดอากาศบริสุทธิ์
นอกจากนี้บนเขารังยังเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์พระยารัษฎาณุประดิษฐ์ (คอซิมบี๊ ณ ระนอง) ผู้สำเร็จราชการกรมมณฑลภูเก็ต ปกครองหัวเมืองปักษ์ใต้ 7 เมือง ได้แก่ ภูเก็ต ตรัง พังงา กระบี่ ตะกั่วป่า ระนอง สตูล ได้ประกอบคุณประโยชน์แก่ราชการ เป็นมรรคผลดีเลิศ ทะนุบำรุงความเจริญนานัปการ เป็นรากฐานความก้าวหน้าสืบมาถึงปัจจุบัน เขารัง เดิมมีชื่อว่า “เขาหลัง” เนื่องจากอยู่ด้านหลังตัวเมืองภูเก็ต เปรียบเสมือนหลังบ้านของภูเก็ต ส่วนหน้าบ้านของภูเก็ตคือบริเวณตัวเมืองด้านสะพานหิน
อนุสาวรีย์พระยารัษฎาณุประดิษฐ์ (คอซิมบี๊ ณ ระนอง)
ทัศนียภาพตัวเมืองภูเก็ตยามค่ำ
ข้าวต้มแห้งโกเบนซ์
ร้านนี้ มาตามเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่ารอนานมาก ต่อแถวยาวเป็นกิโล เราผ่านร้านนี้ประมาณทุ่มครึ่ง เป็นร้านขนาดใหญ่มากมีกว่า 50 โต๊ะ เต็มทุกที่คนรอเข้าแถวประมาณด้วยตาแล้วมากกว่า 50 คน แต่เราตกลงกันแล้วว่านานแค่ไหนต้องขอลอง เราจึงตัดสินใจขึ้นไปชมวิวบนเขารังก่อน หลังลงมาจากเขารังประมาณ 3ทุ่ม เหมือนโชคจะเข้าข้างเราได้ที่จอดรถหน้าร้าน อีกทั้งแถวคนรอไม่มาก ระหว่างที่รอเราสั่งข้าวต้มแห้ง ก๋วยจั๊บ ข้าวต้มกระดูกหมูและเล้ง ทั้งหมด 4 ชาม อีก 3 นาทีต่อมาเราได้โต๊ะนั่ง แต่อาหารยังไม่มา มองไปรอบๆ ร้านยังเต็มทุกโต๊ะ บางโต๊ะยังไม่มีอาหาร แถมยังมีคนมาเพิ่มเรื่อยๆ ประมาณ 15 นาที กว่าจะได้อาหาร น้ำซุปหวานจากน้ำต้มกระดูก ข้าวต้มแห้ง ที่แยกน้ำซุปมาต่างหาก ก่อนสั่งทุกคนคุยกันว่า แค่อยากลองชิม สั่ง 4 ชาม จะหมดไหมหนอ แต่พอได้ชิมข้าวต้ม เราคิดถูกแล้วที่สั่ง 4 ชาม (เอ๊ะ หรือน้อยไป)
แอบคุยกับน้องชายตัวโตที่เป็นคนเก็บเงินว่า ร้านเปิดตอนเย็นๆ ไปปิดเอาตี 2 ตี 3 โน่น และคนรอกินแบบนี้มาตลอด ราคาไม่แพง ธรรมดา 60 มีพิเศษขนาดจัมโบ้ หากถ้าคืนพรุ่งนี้ยังอยู่ภูเก็ตอยากมาซ้ำอีกสักครั้ง
7โมงเช้า เราเดินตามอากู๋ (google) มาที่ร้านบุญรัตน์ติ่มซำ ตามคำแนะนำของโกล้านหมี่ผัด คนพลุกพล่าน เราจิ้มๆ สั่งๆ ไป 10 กว่าอย่าง รสชาติก็ปกติ ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่พวกเรากลับไปติดใจไตปลาแห้งและหมูสับปลาเค็มที่เจ๊เจ้าของร้านนำมาให้ลองชิม พร้อมทั้งข้าวสวย ข้าวหอมมะลิหุงสุกใหม่ ร้อนๆ เข้ากันกับไตปลาแห้งและหมูสับปลาเค็มเป็นที่สุด พวกเราอุดหนุนกันไปคนละหลายกระปุก
ขนมจีนป้ามาลัย
น้ำแกง 8 อย่าง
ออกจากร้านติ่มซำ เราเดินกลับไปที่พักและเตรียมเดินทางเพื่อจะไปชิมขนมจีนร้านป้ามาลัยที่มีน้ำแกงให้เลือก 8 อย่าง ได้ขนมจีนคนละ 1 จาน แม่ค้าว่าให้เลือกตักน้ำแกงได้เองตามใจชอบ เป็นที่ถูกใจพวกเราเป็นยิ่งนัก เราชิมน้ำพริกเป็นอันดับแรก ไม่หวานนำเหมือนกินในกรุงเทพฯ ผักแกล้มมีให้เลือกมากมาย แต่พวกเราหนักไปทางสับปะรดที่มีให้กินแกล้มเหมือนผัก ตามด้วยแกงหอยใบชะพลู เป็นแกงที่ติดใจกันทุกคน เนื้อหอยหยุ่นนุ่มกลมกล่อม ปิดท้ายด้วยน้ำคล้ายน้ำพริกกะปิแต่ใสกว่า มีหอมแดงซอยและพริกเหมือนน้ำหยำ
ผักขนมจีนใส่กระจาดไม่อั้น
มะเกี๋ยง
น้ำมะเกี๋ยง สีม่วง
ออกจากร้านขนมจีน สาวๆ มองหากาแฟล้างปาก เจอร้านกาแฟสดน่านั่ง เพื่อนๆ สั่งกาแฟ บ้างลองน้ำมะเกี๋ยง
มะเกี๋ยง จัดเป็นผลไม้ป่าที่มีรูปร่างและรสคล้ายลูกหว้า แต่ผลป้อมกว่า นิยมใช้กินสด นำมาใส่ต้มยำ และแปรรูปเป็นไวน์มะเกี๋ยง มะเกี๋ยงดอง มะเกี๋ยงแช่อิ่ม เป็นต้น ทั้งนี้ มะเกี๋ยงเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดจึงเป็นยาสมุนไพรได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น ยังสามารถนำสารสกัดเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางได้ด้วย รสชาติ เปรี้ยวๆ หวานๆ อร่อยถูกใจ
ปล. อาหารต่างๆ ที่ได้ไปชิมมา เป็นร้านข้างทางธรรมดาๆ ที่คนเดินดินกินข้าวแกง เป็นประจำ สามารถลองลิ้มชิมรสได้ทุกมื้อ เป็นความคิดเห็น และรสนิยมส่วนตัว ไม่มีแสตนอิน ไม่มีสลิง ใดๆ นะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี