ตอนนี้ประธานาธิบดีผมเป๋ฟาดงวงฟาดงาด่าทออดีตทนายความส่วนตัว ไมเคิล โคเฮนที่ออกมาให้การแบบ “ดับเครื่องชน เล่นเอาคนที่ไม่ชอบหน้าตาลุงผมเป๋ฮือฮากันทั้งโลก เพราะหนึ่งในคำให้การนี้มีข้อหนึ่งว่า ลุงทรัมป์เอาเงินที่ได้รับบริจาค เอ๊ะ จะเรียกว่าบริจาคก็คงไม่เหมาะนัก คงต้องเรียกแบบหรูๆ ว่าเงินสนับสนุนพรรคการเมืองดีกว่า ฟังดูไพเราะน่ารักดูมีสกุลรุนชาติดี
ไมเคิล โคเฮนนั้นแฉหมดเปลือกว่า ลุงทรัมป์เอาเงินชาวบ้านที่ส่งมาสนับสนุนการเลือกตั้งไปจ่ายเป็นค่าปิดปากอีสาวสุดอึ๋มสองนาง มีดีกรีเป็นถึงนางแบบเพลย์บอยและดาราหนังเอ็กซ์ เพราะทั้งสองนางออกมาบอกโลกว่า “ท่าน” เพิ่งมีอะไรกับนางไปหมาดๆ ทรัมป์เลยเอาเงินชาวบ้านที่ว่านี่แหละอุดปากไปก้อนโต แบบนี้เรียกว่าใช้เงินผิดประเภทไหมนะ ลุง นาทีนี้กำลังเป็นหัวข้อข่าวและเม้ามอยกันในบ้านลุงแซม
ความผิดเรื่องนี้ไม่ใช่ขี้ๆ เพราะเป็นความผิดขนาดพันตันเลยทีเดียว ซึ่งสามารถนำไปสู่การอิมเพีชเมนต์หรือถอดถอนตำแหน่งประธานาธิบดีได้ สัปดาห์นี้ลุงผมเป๋คงกระสับกระส่ายคล้ายจะเป็นลมอยู่ในทำเนียบขาวนั่นแหละ เห็นทวิตด่าอดีตทนายรัวๆ ปล่อยให้ลุงเต้นเร่าๆ ไปก่อน อามิตย์นี้อยากเขียนถึงความกร่างของหน่วยงานบังคับใช้ศุลกากรและเข้าเมืองที่เรียกสั้นๆ ว่า ICE
ปูพื้นสั้นๆ สำหรับผู้ที่ไม่ได้อยู่ในอเมริกา กฏหมายเข้าเมืองและสัญชาติของสหรัฐขึ้นตรงกับหน่วยงานรวมที่เรียกว่า กระทรวงความมั่นคง หรือ Department of Homeland Security ซึ่งจะแตกสาขาออกมาเป็น หน่วยตรวจคนเข้าเมือง (Immigration) หน่วยลาดตระเวนชายแดน (US Border Patrol) ศุลกากร (US Customs) และ หน่วยปราบปรามการทำผิดกฏหมายเข้าเมือง (ICE = Immigration and Customs Enforcement)
ไอซ์นี่แหละที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับพวกโรบินฮู้ดทุกเชื้อชาติ รวมทั้งพี่ไทยเราด้วย ช่วงรัฐบาลโอบาม่าค่อนข้างเปิดโอกาสให้คนที่อยู่ในอเมริกาอย่างผิดกฎหมายปรับสภาพมาเป็นคนที่สามารถอยู่ในอเมริกาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากทำงานสุจริตและเป็นพลเมืองที่ทำประโยชน์ต่อประเทศ
เล่าง่ายๆ คือ สมัยก่อนยุคทรัมป์ หากไอซ์เจอคนต่างด้าวที่อยู่อย่างผิดกฎหมาย หากไม่ใช่พวกค้ายา ขายตัว หรือก่ออาชญากรรม ก็มักเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ผิวปากเบาๆ แล้วส่งสัญญาณให้กลับบ้านไปนอนกอดลูกกอดเมียได้ อย่างมากก็ปรามไม่ให้ขับรถฝ่าไฟแดงอะไรทำนองนี้ แต่พอรัฐบาลทรัมป์ ทุกอย่างกลายเป็นฝันร้ายของคนต่างชาติทั้งที่อยู่อย่างผิดกฎหมายหรือยังไม่ได้สัญชาติอเมริกันทันที เนื่องจากทรัมป์กระเหี้ยนกระหือรืออยากถีบคนต่างด้าวออกไปพ้นบ้านลุงแซม โดยเพิ่มอำนาจเพิ่มกำลังพลให้ไอซ์ไปจัดการพวกต่างด้าวที่ลุงแกจงเกลียดจงชังอย่างเต็มพิกัด
อเมริกายุคโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศนโยบายใหม่เพื่อจัดการผู้อพยพผิดกฎหมายโดยจะจัดการกับผู้อพยพผิดกฎหมายในสหรัฐอย่างเข้มงวด โดยการผลักดันผู้อพยพผิดกฎหมายออกนอกประเทศ ทำให้สามารถเนรเทศคนเข้าเมืองผิดกฎหมายได้ทันที หากไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าอยู่ในสหรัฐฯ มานานกว่าสองปี และภายใต้แนวทางใหม่นี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมและเนรเทศคนเข้าเมืองผิดกฎหมายได้ในเกือบทุกกรณีและทุกพื้นที่ เป็นธรรมดาที่หัวสั่งหางก็ขยับ แถมยังกร่างอย่างชนิดที่เรียกว่า “คับซอย”
ช่วงนี้มีข่าวลบเกี่ยวกับไอซ์บ่อยมาก บางหนก็ละเมิดสิทธิและเสรีภาพชาวบ้านดื้อๆ อย่างกรณีเลวี ฮาเอ็น ซึ่งเป็นพลเมืองอเมริกันเต็มตัวด้วยซ้ำ แต่หน่วยงานบังคับใช้ศุลกากรและเข้าเมืองสหรัฐฯหรือ ICE ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ จับขังนานเกือบ 2 ปี
เลวีเกิดที่ปานามา แต่พ่อแม่เป็นพลเมืองอเมริกัน ด้วยรูปร่างหน้าผิวพรรณคือกลุ่ทมฮิสแปนิคแบบเดียวกับพวกเม็กซิกัน เลยทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แม่ของเลวีแต่งงานใหม่กับชายอเมริกัน ดังนั้นเมื่อรับเลวีมาอยู่ด้วยในอเมริกา จึงมีการเดินเรื่องให้เลวีได้สัญชาติอเมริกัน เลวี ฮาเอ็นเดินทางเข้าอเมริกาด้วยวีซ่าเมื่อมีอายุได้ 15 ปีในปี 1988 และอาศัยอยู่ในนิวยอร์กมาตั้งแต่นั้น ซึ่งได้สถานะความเป็น “พลเมืองสหรัฐฯ” ผ่านทางบิดา อันเป็นพลเมืองอเมริกัน
เลวีถูก ICE จับกุมตัวในสมัยโอบามาในเดือนพฤษภาคม 2016 และถูกขังจนพ้นโทษ แต่ทาง ICE พยายามที่จะเนรเทศเลวีออกนอกประเทศ แต่ในที่สุดศาลก็วินิจฉัยให้ปล่อยเลวีเป็นอิสระและไม่ต้องถูกเนรเทศ แต่เคสนี้ยังไม่น่าตกใจเท่าอีกสองเคสที่จะเขียนถึง
เคสแรกเกิดที่แคลิฟอร์เนีย ไอซ์จับกุมชายคนหนึ่งซึ่งกำลังขับรถภรรยาท้องแก่ใกล้คลอดไปโรงพยาบาล ระหว่างทางได้จอดที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ของไอซ์กรูเข้าไปจับชายคนขับคือโจเอล อาร์โรนา-ลารา และภรรยาท้องแก่จวนเจียนคลอดชื่อ นางมาเรีย เดล คาร์เมน เวเนกาซ เจ้าหน้าที่ขอให้ทั้งคู่แสดงบัตรประจำตัว แต่ฝ่ายสามีนั้นไม่มี เลยถูกจับกุมตัวไป เมียเลยต้องขับรถไปโรงพยาบาลเองด้วยน้ำตานองหน้า และคลอดบุตรชายโดยปราศจากสามีเคียงข้าง
ในตอนแรก ICE อ้างว่า โจเอลเข้าเมืองผิดกฎหมายในวันที่ 15 สิงหาคม จึงต้องจับ แต่เป็นเพราะถูกสังคมประณามอย่างหนักทำให้ทาง ICE พลิกลิ้นป้ายสีชายเม็กซิกันรายนี้ว่า ที่ถูกจับกุมเป็นเพราะทางการเม็กซิโกต้องการตัวข้อหาฆ่าคนตาย ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าไม่เป็นความจริง
ส่วนอีกเคสหนึ่งเกิดขึ้นแถวบ้านคนเขียนนี่เอง คือรัฐมิชิแกน หน่วยปราบปรามการทำผิดกฏหมายเข้าเมืองจับชายชาวเติร์กชื่อ อิบราฮีม ปาร์ลัก ซึ่งเดินทางจากตุรกีมาสู่อเมริกา จากนั้นก็เปิดร้านอาหารเล็กๆ เลี้ยงตัวเองอย่างสุจริตในเมืองเล็กๆ ที่รัฐมิชิแกน ตลอดระยะเวลากว่าสิบปีที่อาศัยอยู่ในอเมริกา อิบราฮีมไม่เคยทำความผิดกฎหมายอเมริกาเลย แต่ถูกจับในปี 2014 ถูกขังนาน 10 เดือน และถูกเนรเทศ จึงมีการนำคดีนี้ขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรม จนกระทั่งศาลสั่งให้อิบราฮีมอาศัยอยู่ในอเมริกาได้ แต่ไอซ์ก็พยายามอย่างหนักที่จะเนรเทศชายชาวเติร์กผู้นี้ให้ได้
คนต่างชาติในบ้านลุงแซมเดือดร้อนเพราะรัฐบาลทรัมป์ที่สุด ซึ่งความเดือดร้อนเหล่านี้เป็นความเดือดร้อนของคนเขียนด้วยในฐานะ “คนต่างชาติ” ในอเมริกาที่ยังไม่โอนสัญชาติ และทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งนโยบายของทรัมป์ส่งผลกระทบอย่างหนักตอนนี้
อย่าเข้าใจผิดว่าคนอเมริกันทุกคนมีประกันสุขภาพ และการบริการในโรงพยาบาลคือดีงามและทันสมัยกว่าบ้านเรา คนที่ทำงานกับองค์กรหรือหน่วยงานจะมีการทำประกันโดยหน่วยงานนั้น แต่คนที่ทำธุรกิจส่วนตัวจะต้องซื้อประกัน ซึ่งราคาแพงมากในแต่ละเดือน ช่วงรัฐบาลโอบาม่ามีการบังคับให้ทำโอบาม่าแคร์ ซึ่งใช้สิทธิ์ได้ดีพอสมควร การไปหาหมอถึงไม่ต้องจ่ายแพง แต่พอยุคทรัมป์ ที่ต้องการล้มทุกอย่างที่โอบาม่าทำไว้ รวมทั้งโอบาม่าแคร์ โดยมีการนำเงื่อนไขด้านอิมมิเกรชั่นมาต่อรอง
นั่นคือ หากคนต่างชาติในอเมริกาใช้บริการโอบาม่าแคร์ จะมีผลต่อการพิจารณามอบสัญชาติอเมริกันให้ในอนาคต ทำให้ไม่สามารถใช้โอบาม่าแคร์ได้ เพราะเกรงว่าเมื่อถึงเวลาการขอสัญชาติหรือต่อกรีนการ์ด จะเกิดปัญหาตามมา ซึ่งหากเจ็บไข้ได้ป่วย ต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลที่แพงจนน่าขนลุก เรื่องเหล่านี้แทบไม่มีนักวิเคราะห์สถานการณ์ระหว่างประเทศหยิบยกมาพูดถึงเลยแม้แต่น้อย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี