หลังจากนักสำรวจชาวยุโรปเดินเข้ามาสู่อเมริกาเหนือ ชาวยุโรปก็หลั่งไหลเข้ามาในดินแดนแห่งนี้อย่างไม่ขาดสายเพื่อลงหลักปักฐานสร้างชุมชนบนดินแดนใหม่ โดยเฉพาะห้าชาติจากยุโรปคือ อังกฤษ สเปน ดัตช์ โปรตุเกส และฝรั่งเศส
แต่การเข้ามาประกาศว่า “จอง” ที่ดินไม่ใช่เครื่องหมายแสดงความเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง ตามความคิดของชนชาติยุโรปในยุคนั้นคือ จะต้องนำพลเมืองจากประเทศแม่เข้ามาก่อตั้งอาณานิคมอย่างชัดเจน ถึงจะประกาศว่าเป็นเจ้าของดินแดน ซึ่งจะว่าไปแล้วแผ่นดินที่เข้าไปจับจองล้วนเป็นแผ่นดินเกิดของอินเดียนแดงทั้งสิ้น แต่ทั้ง 5 ชาติก็ไม่สนใจการดำรงอยู่ของชนเผ่าเหล่านั้น นอกจากคิดแต่ว่าจะลำเลียงผู้คนมาลงหลักปักฐานบนแผ่นดินใหม่ให้ได้มากที่สุด
ช่วงปลายศตวรรษที่ 16 อังกฤษก้าวขึ้นสู่ความเป็นเจ้าแห่งการเดินเรือ จึงเริ่มตื่นตัวทางการค้าและการตั้งอาณานิคมในดินแดนต่างๆ เพราะเห็นว่าประเทศแถบยุโรป โดยเฉพาะสเปน “ปล้น” ดินแดนอื่นจนมั่งคั่งร่ำรวยไปตามกัน อังกฤษเลยอยากได้ทรัพย์สินจากดินแดนแปลกหน้าเช่นนั้นบ้าง เลยเกิดความคิดที่จะตั้งอาณานิคมของตนในดินแดนอื่นทั่วโลก รวมทั้งในอเมริกาด้วย
การที่อังกฤษกลายเป็นเจ้าแห่งการเดินเรือ ส่งผลให้ชาวอังกฤษมองหาโอกาสใหม่ในชีวิต การเดินทางมาเป็นชาวอาณานิคมหมายถึงการได้รับที่ดินและโอกาสในการทำมาหากิน ประจวบกับในเวลานั้นเกิดปัญหาภายในประเทศมากมาย ทำให้ชาวอังกฤษตัดสินใจเดินทางมาแสวงหาโอกาสบนแผ่นดินใหม่
ปลายศตวรรษที่ 15 พระเจ้าเฮนรี่ที่ 7 ว่าจ้างนักเดินเรือชาวอิตาเลี่ยนชื่อ จอห์น แคบอท มาสำรวจทวีปอเมริกา
จอห์น แคบอทนำเรือออกจากอังกฤษในปี ค.ศ. 1497 แต่ล้มเหลวจึงกลับไปใหม่ในปีถัดมา โดยสำรวจแคนาดาไล่ลงมาถึงแดลาแวร์หรือบริเวณใกล้วอชิงตันดีซีในปัจจุบัน จากนั้นก็ประกาศว่าดินแดนที่ตนสำรวจเป็นดินแดนของอังกฤษ ทั้งที่ดินแดนแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของอินเดียนแดงมานานนับพันปีแล้วด้วยซ้ำ
ในปี ค.ศ.1605 กัปตันเรือชาวอังกฤษจอร์จ เวย์เมาธ์ (George Weymouth) แล่นเรือผ่านแหลมคอดแล้วจับตัวอินเดียนแดงห้าคนกลับไปขายเป็นทาสที่อังกฤษ
นอกจากนี้ยังมีนักเผชิญโชคชื่อโทมัส ฮันท์ (Thomas Hunt) จับตัวอินเดียนแดง 24 คนไปขายเป็นทาสที่สเปน โดยหลอกล่ออินเดียนแดงเหล่านั้นให้ลงเรือเพื่อจะได้แลกเปลี่ยนหนังตัวบีเวอร์ เมื่ออินเดียนแดงเหล่านั้นหลงกลจนลงเรือมาแล้วก็ถอนสมอแล่นจากไป
อินเดียนแดงในเผ่าต่างพากันสาปแช่งโทมัส ฮันท์ โดยจำชื่อนี้ไว้อย่างแม่นยำว่าเป็นผู้ลักพาตัวอินเดียนแดงไป อินเดียนที่ถูกลักพาตัวไปส่วนมากเป็นอินเดียนแดงแวมพาโนค ซึ่งต่อมาเกิดโรคระบาดที่ได้รับเชื้อมาจากคนผิวขาวจนแพร่กระจายไปทั้งเผ่าจนบางเผ่า อย่างเผ่าพาทูเซต (Patuxet) ถึงกับเสียชีวิตจนหมดเผ่า
เมื่อผู้อพยพชาวอังกฤษมาถึง ก็พบโครงกระดูกและหัวกะโหลกเกลื่อนกลาดกระจัดกระจาย แต่ด้วยความจำเป็นจึงต้องลงหลักปักฐานในบริเวณนั้น แล้วตั้งชื่อใหม่ว่า “นิวพลีมัธ” ซึ่งบริเวณนี้แหละที่เคยเป็นหมู่บ้านอินเดียนแดงเผ่าพาทูเซต อันเป็นอาณานิคมอังกฤษแห่งที่สอง ต่อมาจากอาณานิคมเจมส์ทาวน์
ในเวลานั้นแต่ละเผ่ามีหัวหน้าปกครอง เช่น เผ่านาอูเซต (Nauset tribe) ที่ตั้งถิ่นฐานบนแหลมคอดมีหัวหน้าเผ่าชื่อแอสพิเนต (Aspinet) เผ่าเนมาสเคต ( Namasket tribe ) มีหัวหน้าเผ่าชื่อคอร์บิแตนต์ ส่วนเผ่าที่ตั้งอยู่ใกล้อาณานิคมของพวกพิวกริมส์คือเผ่าโพคาโนเคต ซึ่งมีหัวหน้าเผ่าคือแมซซาซอยต์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อพวกอังกฤษในเวลาต่อมา
อินเดียนแดงที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้หลายเผ่ารวมตัวกันเป็นเครือข่ายสมาพันธ์ แล้วเรียกตัวเองว่า “แวมพาโนค” (Wampanoag) หมายถึงผู้แลเห็นแสงตะวันยามเช้า อินเดียนแดงชายล่าสัตว์และจับปลาเพื่อนำมาประกอบอาหาร ในขณะที่ฝ่ายหญิงปลูกข้าวโพด ดูแลที่อยู่อาศัย เลี้ยงลูกและทำอาหาร
เผ่าพาทูแซคนั้นมีชะตากรรมที่น่าเศร้ามาก เพราะก่อนที่พวกอังกฤษจะมาถึงดินแดนแถบนี้ เกิดโรคระบาดแพร่กระจายไปทั่วนิวอิงแลนด์ระหว่างปี ค.ศ.1614 - 1620 โรคระบาดในครั้งนั้นคือโรคที่ชาวยุโรปนำมาแพร่สู่อินเดียนแดงทั้งสิ้น เช่น โรคผีดาษหรือไข้ทรพิษ โรคฉี่หนู และโรคอื่นๆ
อินเดียนแดงไม่มีภูมิต้านทานโรคเหล่านี้จึงล้มตายยกเผ่า ยกเว้นอินเดียนแดงเพียงคนเดียวที่รอดมาได้ เพราะถูกจับเป็นทาสแล้วถูกส่งลงเรือไปยุโรป ในปี ค.ศ. 1614 นักค้าทาสชื่อโทมัส ฮันท์ ( Thomas Hunt) ล่าอินเดียนแดงเพื่อนำไปขายในสเปน
อินเดียนแดงคนนั้นชื่อดิสควอนตัม (Tisquantum) หรือรู้จักกันในนาม “สควอนโต” ซึ่งสควอนโตนี้แหละค่อครูชาวอินเดียนแดงคนแรกที่สอนชาวอังกฤษให้ปลูกข้าวโพดและรอดพ้นจากความตายในฤดูหนาวอันทารุณของนิวอิงแลนด์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์และการทรยศระหว่างคนผิวขาวกับอินเดียนแดง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี