เลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ 2562 เสร็จ บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ?
บ้านเมืองเราก็เหมือนเดิม คือประเทศไทยก็เป็นประเทศไทย มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มีรัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสูงสุด หรือ เป็นกติกา ปกครองประเทศ มีรัฐบาล คสช. โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรี จนกว่า รัฐบาลที่เกิดจากผลของการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จะจัดตั้งขึ้น
พรรคใดจะได้จัดตั้งรัฐบาล ?
ก็ต้องดูที่ผลของการเลือกตั้งว่าพรรคการเมืองใดชนะการเลือกตั้ง อาจจะมีพรรคใดพรรคหนึ่งชนะได้เสียงข้างมากเกินครึ่ง หรืออาจจะมีพรรคการเมืองชนะไม่เกินครึ่ง แต่สามารถรวบรวมเสียงในบรรดาพรรคที่ได้รับเลือกตั้งด้วยกันเกินครึ่ง
ณ วันนี้ ขณะนี้ไม่มีใครบอกได้หรอกว่า พรรคใดจะได้กี่เสียง ใครจะได้รับเลือกตั้งบ้าง ที่พูดกันอยู่ขณะนี้คุยโม้โอ้อวดกันทั้งนั้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติของพรรคการเมือง นักการเมือง แต่ละคน แต่ละพรรค คุยโตโม้เบ่งกันทั้งนั้น เรามีพรรคการเมืองบางยุคบางสมัยเป็นร้อยพรรค มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งทั่วทั้งประเทศเฉียดสามพันคน มีผู้แทนราษฎรได้ 200 กว่า หรือไม่เกิน 250 คน แต่ละคนเมื่อลงสมัครก็คิดว่าตัวจะได้รับเลือกตั้งเสียเป็นส่วนใหญ่ มีอยู่บ้างเหมือนกันที่รู้ทั้งรู้ว่าในจำนวนผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งเป็นแสนๆคนนั้น ตัวอาจจะได้คะแนนไม่ถึง 500 คะแนน ก็มี
ลงสมัครเพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นนักการเมือง เป็นอดีตผู้สมัครรับเลือกตั้ง
และก็ลงทุกครั้งที่มีการสมัครรับเลือกตั้ง
มันเป็นเสรีภาพ มันเป็นประชาธิปไตย
หรือมันอาจจะเป็น ความบ้า อย่างหนึ่ง
จริงหรือไม่ ที่พรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมือง แตกแขนงเป็นพรรคต่างๆ ลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นทำนอง แยกกันเดิน รวมกันตี ?
นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ ก่อนหน้านี้ก็มีและทำกันมาแล้ว เป็นต้น พรรคการเมืองที่สนับสนุน จอมพล ป. มิใช่มีเฉพาะพรรคเสรีมนังคศิลา พรรคเดียว ยังมีพรรคอื่นๆ อีกที่ พลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ สนับสนุนให้ตั้งพรรคขึ้น คนที่เป็นหัวหน้าพรรค ก็มั่นใจว่า ตำแหน่ง รัฐมนตรีเป็นของตัวแน่ ถ้าได้มาสัก 10. เสียง หรือมากกว่า (ยิ่งดี) อีกเหตุผลที่ต้องตั้งพรรคก็คือประเมินแล้ว คนอาจไม่ชอบ จอม พล ป. หรือไม่ชอบ พลตำรวจเอก เผ่า
พรรคที่สนับสนุน ทักษิณ หรือสนับสนุน พลเอก ประยุทธ์ ทุกวันนี้ก็เช่นกัน แต่ละกลุ่มอาจจะมีเหตุผลแตกต่างกัน คือยอมรับกันเองไม่ได้ แต่ยอมที่จะขึ้นต่อ ทักษิณ หรือเงินทักษิณ ยอมรับกันเองไม่ได้ แต่ต่างก็สนับสนุน พลเอก ประยุทธ์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นต้น
การดูด หรือ การดึงตัวเข้าพรรคยังมีอยู่หรือไม่ ?
มี จนถึงวันที่กฎหมายเลือกตั้งกำหนดเอาไว้ว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ต้องสังกัดพรรคนานเท่าใดจึงจะสมัครรับเลือกตั้งได้ ก่อนนี้ผู้จะลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือนักการเมือง บางคนก็จะเร่ไปพรรคโน้นพรรคนี้ เงื่อนไขพรรคไหนดี เช่นช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งเท่าไหร่ กี่หมื่น กี่แสน กี่ล้าน เช่นเดียวกับผู้ที่จะเล่นการเมือง นักการเมืองก็เหมือนกัน ต้องสำรวจตัวเองว่ามีค่าตัวสักเท่าไหร่ เป็นคนมีชื่อมีเสียงหรือไม่ มีหน่วยก้านดีพอแค่ไหน
บางคน เช้าเร่ไปพรรคหนึ่ง สายไปอีกพรรคหนึ่ง ดึกไปอีกพรรคก็มี เปลี่ยนพรรคเหมือนเปลี่ยนชุดชั้นในก็เคยมีให้เห็น
ทุกวันนี้ข่าวดูดข่าวดึงเป็นข่าว เพราะเราไม่ได้เลือกตั้งมานาน หรือกฎหมายเลือกตั้งกำหนดเอาไว้ว่าจะต้องสังกัดพรรคนานเท่านั้นเท่านี้ ปรากฏการณ์ เช้าพรรคนี้ บ่ายพรรคนู้น ดึกอีกพรรคจึงไม่ปรากฏให้เห็น
เลือกตั้งแล้วจะเป็นอย่างไร ?
เลือกตั้งแล้วก็เหมือนๆ เดิม รัฐบาลก็เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มาจากคนที่มีฐานะหน่อย มีความเป็นอยู่ที่ดีกว่าคนยากคนจน หรือประชาชนทั่วไปที่เป็นชาวไร่ ชาวนา เกษตรกร ลูกจ้าง คนงาน ซึ่งก็ไม่ต่างจากรัฐบาล คสช. มากนัก เพียงแต่ คสช. มาจากรัฐประหาร รัฐบาลต่อไปมาจากการเลือกตั้ง
บุคลากรที่เป็นผู้บริหารก็อาจจะเป็นชุดเดิม คนเดิม หรืออาจจะเปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตาไปบ้าง แต่แนวคิดก็เหมือนเดิม
อย่ากังวลใจ อย่าตื่นเต้น หรือ แม้กระทั่ง อย่าเป็นปลื้มให้มากนัก!
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี