อินเดียนแดงเผ่าโพคาโนเคตเปิดศึกก่อน ด้วยการโอบล้อมบ้านเรือนชาวอาณานิคมพลีมัธที่เมืองสวอนซี (Swansea) ในวันที่ 20 มิถุนายน ค.ศ.1675 ไม่กี่วันหลังจากนั้นคือวันที่ 27 มิถุนายน เป็นวันจันทรุปราคา อินเดียนแดงก็ลงมือเผาบ้านเรือนและสังหารชาวอาณานิคมในเมืองนั้น
แม้ว่าชาวอินเดียนแดงไม่เคยลืมว่าในยุคหัวหน้าแมซซาซอยต์ ชาวอาณานิคมเป็นมิตรกับเผ่าของตน คิงส์ฟิลลิปเองก็ตระหนักดีกว่าครอบครัวชาวอาณานิคมบางครอบครัวใกล้ชิดพ่อของตนเพียงใด แต่จำเป็นต้องปกป้องเกียรติภูมิและผืนดินทำกินของเผ่า คิงส์ฟิลลิปถึงกับส่งคำเตือนลับๆ ไปยังครอบครัวชาวอาณานิคมบางครอบครัว ก่อนที่จะลงมือจู่โจม จากนั้นก็แปะข้อความแจ้งให้ชาวอาณานิคมได้รับรู้ว่า
“ด้วยสาส์นฉบับนี้ ข้าขอแจ้งให้พวกท่านรู้ว่า พวกท่านรุกรานอินเดียนแดง จนเกินขอบเขตที่จะทนทานได้ พวกข้าไม่มีอะไรจะสูญเสียอีกต่อไปแล้วนอกจากชีวิต ส่วนพวกท่านจะต้องสูญเสียบ้านเรือนของท่าน”
การเผาบ้านเรือนชาวอาณานิคมของอินเดียนแดงก่อให้เกิดความตระหนกตกใจไปทั่ว หลังจากโจมตีเมืองสวอนซีแล้ว ก็บุกเผาเมืองมิดเลโบโรห์ เมืองดาร์ธมัธ เมืองเมนดอน เมืองบรูคฟิลด์ เมืองแลงแคสเตอร์ เมืองเดียร์ฟิลด์ เมืองฮาตเลย์ และเมืองนอร์ธฟิลด์ การโจมตีเมืองเหล่านี้ไม่ได้ทำภายในเดือนเดียว แต่ทำอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนกันยายนของปี ค.ศ.1675
เมืองของพวกอาณานิคมถูกเผาราบไปถึง 25 เมือง และส่งผลให้ชาวอาณานิคมเสียชีวิตมากกว่าสองพันคน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้พวกอาณานิคมหวาดกลัว และเกิดความคิดว่าจากนี้ไปคงไว้ใจพวกอินเดียนแดงไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
ชาวอาณานิคมก่นด่าอินเดียนแดง โดยมองว่าคิงส์ฟิลลิปทำผิดสัญญา แต่ไม่คิดว่าฝ่ายอาณานิคมบีบคั้นให้อินเดียนแดงต้องลุกขึ้นทวงสิทธิ์ในผืนดินเกิดของตนเอง ชาวอาณานิคมคิดว่าพวกอินเดียนแดงเหิมเกริมจนไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้อีกต่อไป แม้แต่พวกอินเดียนแดงที่เปลี่ยนศาสนามาเป็นคริสเตียนในเมืองแห่งการภาวนา
ฤดูหนาวปี ค.ศ.1675 ชาวอาณานิคมไล่พวกอินเดียนแดงในเมืองแห่งการภาวนาออกไปจนหมดสิ้นอย่างไม่เลือกหน้าไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง หรือเด็ก โดยขับไล่ให้ไปอยู่ในกระโจมบนเกาะเดียร์ไอร์แลนด์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งบอสตัน เกาะแห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความหนาวอันทารุณยิ่งกว่าที่ใดในนิวอิงแลนด์ พวกอาณานิคมไม่ให้ผ้าห่มหรือแม้แต่อาหารใดๆ แก่อินเดียนแดง พวกอินเดียนแดงที่เปลี่ยนศาสนามาเป็นคริสเตียนจึงล้มตายเหมือนใบไม้ร่วงในปีนั้นเอง
เพียง 6 วันก่อนคริสตมาส ทหารชาวอาณานิคมจู่โจมอินเดียนแดงด้วยการบุกเผาทั้งเป็น หญิงและเด็กอินเดียนแดงสามร้อยกว่าคนเสียชีวิตในกองเพลิง ซ้ำยังทำลายเสบียงของอินเดียนแดงจนหมดสิ้น ในช่วงต้นปี ค.ศ.1676 เผ่าโมฮอว์คซึ่งเป็นอีกเผ่าหนึ่งที่เป็นพันธมิตรกับพวกอังกฤษบุกโจมตีเผ่าโพคาโนเคตของคิงส์ฟิลลิปและสังหารอินเดียนในเผ่าไปกว่าห้าร้อยคน
พอฤดูใบไม้ผลิปีรุ่งขึ้น อินเดียนแดงในเผ่าคิงส์ฟิลลิปต่างอดอยากหิวโหย เพราะการเพาะปลูกไม่ได้ผล เสบียงที่สะสมไว้ก็ไม่มี ซ้ำยังปลูกอะไรไม่ได้ในฤดูใบไม้ผลิปีนั้น ทหารอังกฤษจึงเตรียมบุกโจมตีอินเดียนแดงในเดือนพฤษภาคม ปีค.ศ.1676 ริมฝั่งแม่น้ำคอนเนกติคัต สังหารอินเดียนแดงไป 300 คน อินเดียนแดงบางส่วนพยายามหลบหนีด้วยเรือแคนู แต่ปรากฎว่าจมน้ำตายทั้งหมด เพราะตกลงมาจากน้ำตกที่เป็นหน้าผาสูงชัน
ในเดือนสิงหาคมปีนั้น พวกอาณานิคมบุกโจมตีค่ายอินเดียนแดง ฆ่าและจับตัวอินเดียนแดงอีก 173 คน คิงส์ฟิลลิปหนีไปได้อย่างหวุดหวิด แต่พวกอังกฤษก็จับภรรยาและลูกชายวัย 9 ขวบของคิงส์ฟิลลิปไป ในตอนแรกนำไปขังไว้ในกรงที่อาณานิคมพลีมัธ แล้วนำไปขายเป็นทาสที่เบอร์มิวด้า คิงส์ฟิลลิปโศกเศร้ามากจนเขียนบันทึกไว้ว่า
“หัวใจของข้าแตกสลาย โปรดนำข้าไปสู่ความตายด้วยเถิด”
คิงส์ฟิลลิปจึงเลือกสถานที่ตายของตนเอง ด้วยการกลับคืนสู่สถานที่ซึ่งแมซซาซอยต์และชนเผ่าอินเดียนแดงเคยร่วมงานเลี้ยงกับพวกพิวกริมส์เมื่อทศวรรษก่อน นั่นคือเมาธ์โฮป (Mount Hope)
วันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ.1676 ทหารอาณานิคมล้อมนักรบอินเดียนแดงและคิงส์ฟิลลิปไว้ในเมาธ์โฮป แล้วบุกจู่โจมทันที เบนจามิน เชิร์ช (Benjamin Church) และลูกชายของกัปตันมายส์ สแตนดิชท์ชื่อกัปตันโจไซอาห์ สแตนดิชท์ ( Captain Josiah Standish) เป็นผู้นำกองกำลังรบ แต่ผู้ที่ยิงคิงส์ฟิลลิปเสียชีวิตคืออินเดียนแดงที่เปลี่ยนศาสนาเป็นคริสต์แล้วชื่อ จอห์น อัลเดอร์แมน (John Alderman)
กัปตันเบนจามิน เชิร์ชรบชนะอินเดียนแดงเพราะใช้เทคนิคแบบอินเดียนแดงในการแกะรอย กัปตันเชิร์ชจ้างอินเดียนแดงให้มาร่วมกองทัพของตนเอง และศึกษากลวิธีการรบแบบอินเดียนแดง โดยเริ่มจากการบุกเข้าไปทำลายค่ายพักของอินเดียนแดงแวมพาโนคและโจมตีเผ่าพันธมิตรของพวกแวมพาโนคจนอ่อนแรง ไม่สามารถส่งกำลังพลมาช่วยเหลืออินเดียนแดงแวมพาโนคได้ อีกทั้งทำลายเสบียงอาหารของอินเดียนแวมพาโนคจนหมดสิ้น จนสามารถสังหารคิงส์ฟิลลิปได้ในที่สุด
ชาวอาณานิคมเสียชีวิตในสงครามคิงส์ฟิลลิปนับพันคน แต่อินเดียนแดงสูญเสียหนักกว่าถึงสามเท่า โดยเฉพาะเผ่าโพคาโนเคตและนารากันเซตต์ที่ถูกทำลายจนหมดสิ้นแทบไม่เหลือสมาชิกเผ่าอยู่เลย เพราะอินเดียนแดงที่รอดจากการถูกสังหารถูกส่งไปขายเป็นทาส เมื่อหมดสิ้นอินเดียนแดง ชาวอาณานิคมก็ขยายอาณาเขตจนครอบคลุมบริเวณนั้นโดยเสรี
ร่างของคิงส์ฟิลลิปถูกสับเป็นชิ้นๆ แล้วแขวนไว้ตามต้นไม้ จอห์น อัลเดอร์แมน อินเดียนแดงผู้สังหารคิงส์ฟิลลิปได้รับรางวัลตอบแทนความดีความชอบคือศีรษะและมือข้างหนึ่งของคิงส์ฟิลลิป ซึ่งภายหลังจอห์น อัลเดอร์แมนขายศีรษะของคิงส์ฟิลลิปให้ผู้ว่าการอาณานิคมพลีมัธในราคาเพียงยี่สิบชิลลิ่ง ซึ่งเป็นราคามาตรฐานสำหรับศีรษะอินเดียนแดงหนึ่งศีรษะ น่าเสียดายที่ศีรษะของคิงส์ฟิลลิปถูกตีราคาเท่ากับอินเดียนแดงทั่วไปเท่านั้นเอง
ผู้ว่าการอาณานิคมพลีมัธนำศีรษะของคิงส์ฟิลลิปมาเสียบประจานบนเสาแหลมไว้ในอาณานิคม โดยไม่เคยนำลงจากเสาตลอดระยะเวลา 20 ปี การเสียบประจานศีรษะของคิงส์ฟิลลิปเป็นเสมือนสาส์นที่ส่งแก่อินเดียนแดงทุกคนว่า ชาวอาณานิคมจะฆ่าอินเดียนแดงทุกคน หากเหิมเกริมคิดทำอันตรายชาวอาณานิคม
แม้จะถูกสังหาร แต่คิงส์ฟิลิปก็กลายเป็นต้นแบบให้อินเดียนแดงรุ่นหลังตลอดสองร้อยปี ไม่ว่าจะเป็นปอนติแอค (Pontiac) เทคุมเช ( Tecumseh) แบล็คฮอว์ค (Black Hawk) เจอโรนีโม่ ( Geronimo ) หรือซิตติ้งบูลล์ (Sitting Bull) ซึ่งเป็นหัวหน้าเผ่าและนักรบอินเดียนแดงยุคหลังที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสะกัดกั้นอิทธิพลคนผิวขาวไม่ให้ครองครองผืนแผ่นดินของอินเดียนแดงอย่างสุดความสามารถ
แต่ดูเหมือนว่าสงครามระหว่างคนผิวขาวและอินเดียนแดงจบลงด้วยความสูญเสียและหยาดน้ำตาของฝ่ายอินเดียนแดงเสมอ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี