ประกาศพักยกไปหนึ่งท่านแล้วครับ อดีตนายกรัฐมนตรี พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เปิดเผยว่า มีพรรคการเมือง 5 พรรคมาเสนอให้ท่านอยู่ในบัญชีรายชื่อ นายกรัฐมนตรี แต่ท่านไม่รับ ทั้งๆ ที่ ตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี เป็นตำแหน่งที่ท่านมุ่งมาดปรารถนา
ท่านลาออกจากตำแหน่งทางทหารมาตั้งพรรคการเมือง เดินทางเป็นหมื่นเป็นแสนไมล์ หาเสียง เพื่อให้ชนะการเลือกตั้ง และท่านก็ทำสำเร็จ
แต่ก็ล้มเหลวในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องตัดสินใจลาออก
และท่านก็ยังหวังว่าจะกลับมาอีก เสนอตัวเป็นโซ่ข้อกลางก็หลายครั้ง แต่ไม่มีใครสนใจ
คราวนี้ท่านกลับปฏิเสธเอาดื้อๆ
ใกล้จะถึงวันที่ 24 มีนาคม 2562 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งแล้ว เราได้เห็นโฉมหน้าผู้ที่เสนอตัวมาเป็นนายกรัฐมนตรีกันแล้วหลายคน จากพรรคเพื่อไทย ก็คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ทั้งสองต่างสนับสนุนกันไปมา สุดารัตน์ก็บอกชัชชาติเหมาะ ชัชชาติก็ยกนิ้วให้สุดารัตน์ ประชาธิปัตย์ นั้นแน่นอน ต้องเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงไม่มีความจำเป็นต้องซ่อนมีดในรอยยิ้ม พลตำรวจเอกเสรีพิสุทธิ์ เตมียะเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ผู้มองข้ามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มุ่งมั่นแต่จะปฏิรูปทหาร นั่นก็เป็นทางเลือกอีกทาง
คนที่คิดว่า มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะนั่งเก้าอี้ นายกรัฐมนตรี ต่อไป คือ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แต่ประหลาดตรงที่ ไม่พูดออกมาตรงๆ ไม่ตั้งพรรคการเมืองเหมือนจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่มีพรรคเสรีมนังคศิลา จอมพลถนอม กิตติขจร ที่เป็นหัวหน้าพรรคสหประชาไทย แต่รวบรวมนักการเมืองส่วนหนึ่งเอาไว้
เป็นนักการเมืองที่มีคุณสมบัติที่ท่านเคยแสดงอาการเป็นห่วงเป็นใยว่า “ถ้าเลือกตั้งแล้วได้นักการเมืองพรรค์อย่างนี้มาจะทำยังไง ?”
มาถึงวันนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใด จะรับคำเชิญจากพรรคการเมืองใด
รู้แต่ว่ามีพรรคการเมืองอย่างน้อย 2-3 พรรค ตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี หรือตั้งขึ้นมาโดยหวังว่าจะได้เกาะแข้งเกาะขา อาศัยบารมีของพลเอกประยุทธ์ เพื่อเกาะเกี่ยวอยู่กับอำนาจรัฐ อย่างที่เคยเกาะแข้งเกาะขา พลเอกชวลิต นายบรรหาร นายทักษิณ มาแล้วในอดีต
พลเอก ประยุทธ์ มีหรือจะมองไม่ออก
แต่ไม่มีทางเลือก การเมืองระบบรัฐสภานับกันที่จำนวนมือที่ยกขึ้นสนับสนุน พลเอก ประยุทธ์มีมือจากวุฒิสภา แน่นอนอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง บวกกับ พรรคที่ตั้งขึ้นมาสนับสนุน สำหรับที่จะเป็นเสียงข้างมาก ในรัฐสภานั้นไม่ยากนัก
แต่ถ้าหากคะแนนเสียงปริ่มๆ ชนะไม่ขาด นั่นจะบริหารลำบาก เพราะสภาผู้แทนราษฎร กับวุฒิสภานั้นแยกกันประชุม มีเรื่องที่จะต้องประชุมร่วมกันไม่กี่ครั้งหรอก
จึงจะฝากความหวังไว้กับวุฒิสภา นั้นไม่ได้
ตัวอย่างจอมพล ป. พิบูลสงคราม จอมพลถนอม กิตติขจร มีให้เห็นมาแล้ว
และด้วยเหตุนี้กระมังที่พลเอก ประยุทธ ยังกระมิดกระเมี้ยนอยู่ จะเอายังไง
ทั้งที่ การเมือง การจะเป็นนายกรัฐมนตรี ต่อไป หลังการเลือกตั้ง เป็นเรื่อง เปิดเผย ตรงไปตรงมา ไม่ต้องใช้เล่ห์ ใช้เหลี่ยม
แต่ละคนเขาเปิดเผยตัวตนกันหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น อภิสิทธิ์ สุดารัตน์ ชัชชาติ เสรีพิสุทธิ์
กระมิดกระเมี้ยนอยู่อย่างนี้ ผิดวิสัยชายชาติทหารนะครับ. !
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี