พรรคไทยรักษาชาตินำเอกสารแก้ข้อกล่าวหากรณีที่ กกต. ร้องศาลรัธรรมนูญให้ยุบพรรคแล้ว มี 3 ประเด็นหลักคือ
1.พรรคยืนยันเจตนาบริสุทธิ์ ไม่มีเจตนาพิเศษใดที่มุ่งหวังเป็นอย่างอื่น โดยการเสนอชื่อแคนดิเดตลงของพรรคด้วยความบริสุทธิ์ใจ
2.การเป็นปฏิปักษ์กับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แก้ข้อกล่าวหาว่า ความหมายคำว่าเป็นปฏิปักษ์ พจนานุกรมให้ความหมายว่า ฝ่ายตรงข้าม น่าจะหมายถึงการนำระบอบคอมมิวนิสต์มาใช้หรือการเป็นกบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 คำร้องยุบพรรค เป็นคำร้องประเภทเดียวกับคดีอาญา การเพิกถอนสิทธิตลอดชีวิต ไม่ต่างจากการประหารชีวิตทางการเมือง
3.ที่กกต. มีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญเป็นการปฏิบัติไม่เป็นไปตามขั้นตอนกฎมาย ไม่มีการสืบสวนสอบสวนก่อน
พร้อมกันนี้ได้ยื่นบัญชีพยานซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรค 14 คน และคนนอกอีก 5 ปาก
ที่มาของการร้องศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติของ กกต. นั้นมาจากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ซึ่งพรรคไทยรักษาชาติไปยื่นบัญชีรายชื่อ นายกรัฐมนตรี เป็น ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ
พรรคไทยรักษาชาติยืนยันว่าชอบด้วยกฎหมายทุกประการ เพราะทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ลาออกจากฐานันดรศักดิ์แล้วตั้งแต่ 25 กรกฎาคม 2515 และท่านก็มีหนังสือยินยอมให้พรรคเสนอชื่ออย่างถูกต้อง
แรกทีเดียว กกต. ดูเหมือนจะยังงงๆอยู่ นักข่าวไปถามว่า ท่านที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งหรือไม่ พันตำรวจเอก จรุงวิทย์ ภุมรา เลขาธิการ กกต. ชี้แจงว่า การไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นข้อห้ามของรัฐธรรมนูญในอดีต แต่รัฐธรรมนูญปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว ต่อเมื่อมีพระบรมราชโองการ พระเจ้าอยู่หัวออกมาเมื่อประมาณ23 .00 น วันที่ 8 กุมภาพันธ์นั้นดอก กกต. จึงได้ประชุม และใช้เวลา 2 วันจึงได้ข้อสรุปว่า พรรคไทยรักษาชาติ เสนอ รายชื่อนายกรัฐมนตรี เป็นทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ นั้น เป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตย์ทรงเป็นประมุข ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญมาตา 92
กกต. พิจารณาได้อย่างรวดเร็วเพราะการพิจารณาเพียงข้อกฎหมาย ว่าการกระทำของพรรคไทยรักษาชาตินั้นผิดหรือไม่ผิดตามมาตรา 92 ของกฎหมายประกอบรัฐธรรมตูว่าด้วยพรรคการเมือง
ข้อเท็จจริง นั้น ปรากฏชัดอยู่แล้วว่า พรรคไทยรักษาชาติ ยื่นชื่อใครเป็นนายกรัฐมนตรี
ปัญหาอยู่ที่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีความเห็นอย่างไร ?
ศาลรัฐธรรมนูญจะเริ่มพิจารณาเรื่องนี้ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้
หนังสือชี้แจงของพรรคไทยรักษาชาติ ก็คือ การยืนยันความบริสุทธ์ใจหนึ่ง ความชอบด้วยกฎหมายหนึ่ง
และที่มักจะขาดไม่ได้ของนักหมายค่ายนี้ก็คือ ความไม่ถูกต้อง ของการพิจารณา เช่นเร่งรีบ ไม่สอบสืบสวน สอบสวนไปตามขั้นตอน
ส่วนพยาน 14 ปากก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวในความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้คิดเป็นอื่น ไม่ได้เป็นปฏิปักษ์กับระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
คนส่วนหนึ่งก็เห็นตามที่พรรคไทยรักษาชาติชี้แจง
แต่ก็มีอีกส่วนเห็นว่า จะมองเฉพาะรัฐธรรมนูญ 2560. เห็นจะไม่ได้ ต้องพิจารณาถึงรากเหง้าพื้นฐานที่ยึดถือกันมา นั่นก็คือรัฐธรรมนูญฉบับแรก 10 ธันวาคม 2475 มาตรา 1 1
“พระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไป โดยกำเนิดหรือโดยแต่งตั้งก็ตามย่อมดำรงอยู่ในฐานะเหนือการเมือง”
ถึงแม้รัฐธรรมนูญฉบับต่อๆมาไม่ได้บัญญัติไว้ แต่ก็เป็นธรรมเนียมที่ถือปฏิบัติกันมา
การร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรก 10 ธันวาคม 2475 เหมือนกับจะตอบสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีกเกือบร้อยปีต่อมา
มีบันทึกที่เป็นรายงานการประชุมในการร่างรัฐธรรมนูญ ดังนี้
รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 36/2475. วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2475. ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นการประชุมพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับถาวร เป็นการตอบข้อสงสัยในประเด็นพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์ใดสละฐานันดรศักดิ์มาเป็นสามัญชนจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองได้หรือไม่
พระยามานวราชเสวี / ขอตอบนายมังกรที่ยอมให้เจ้าลดฐานะและเข้ามาอยู่วงการเมืองได้ ข้อนี้ถ้ากำเนิดเป็นเจ้า จะปฏิเสธว่าไม่ใช่เจ้าไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าจะยอมให้ลดตัวเป็นคนชั้นต่ำ โดยไม่ห้ามว่าไม่ควรให้ลดฐานะมาอยู่ในวงการเมืองแล้ว ย่อมให้โทษ เพราะฉะนั้นควรให้ท่านคงอยู่ในฐานะเดิม
พระยานิติศาสตร์ไพศาลชี้แจงเพิ่มเติมอีกว่า ทุกประเทศเขาไม่รับเจ้าเข้าสภาผู้แทนราษฏร นอกจากนั้นถ้าไม่มีกฎหมายให้เจ้าลาออกจากเจ้าได้แล้ว เจ้าชายก็ลาออกไม่ได้ ปัญหาที่ว่าเจ้าไม่เป็นเจ้าคงไม่มี
สำหรับผู้ที่เป็นเจ้าโดยกำเนิดนั้น ไม่มีปัญหา แต่ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งจากราษฎรสามัญแล้วผู้นั้นลาออกจากเจ้า ปัญหาจึงมีว่าผู้ที่ได้รับแต่งตั้งและลาออกแล้วเข้ามาได้ เพราะพวกเหล่านี้เป็นคนไทย ชาวต่างประเทศก็แปลงชาติเป็นคนไทยแล้ว ยังมีสิทธิที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองได้ ฉะนั้นคนประเภทนี้จึงควรอนุญาต
27 กุมภาพันธ์นี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะเริ่มพิจารณา. ซึ่งน่าจะเสร็จก่อนเลือกตั้ง 24 มีนาคม เพราะปัญหาที่จะต้องพิจารณาก็คือ ผิด หรือไม่ผิด ตามกฎหมายว่าเ้วยพรรคการเมือง มาตรา 92
ผิดก็ยุบ ไม่ผิด พรรคไทยรักษาชาติก็เดินหน้าต่อ
ก็เท่านั้น
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี