คนไทยนั้นแปลก...อย่างไม่แปลก
ที่ว่าแปลกก็คือ ใครพูดอะไรตรงไปตรงมา ถ้าไม่ถูกใจตนเป็นตำหนิติเตียน ไปจนถึงก่นด่า
ที่ไม่แปลกก็คือ มันเป็นอย่างที่ว่านี้เสมอมาในทุกเรื่อง
อย่าง...กรณีที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะออกมาประกาศว่า “ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี” ก็เช่นกัน ทันที่สิ้นเสียงประกาศในโลกออนไลน์ก็มีเสียงด่ากันขรม ด้วยความโกรธแค้นและผิดหวัง
บางคนด่าโดยไม่ต้องแสดงเหตุผล บางคนก็แสดงเหตุผล แต่เหตุผลนั้นก็ไม่สมเหตุสมผลอะไรนัก ส่วนมากก็ด่าเขาและพรรคประชาธิปัตย์ว่าไม่มีความสามารถจัดการกับพวกเสื้อแดงที่ก่อวิกฤติให้ประเทศในปี 2553ได้ ส่วนพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาล คสช.นั้นสามารถจัดการให้พวกเสื้อแดงสงบลงได้ และการบริหารประเทศก็เป็นไปด้วยดี
บ้างก็ประณามล่วงหน้าไปก่อนเลยว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย!
ทั้งที่คุณอภิสิทธิ์ก็ประกาศมาก่อนหน้านี้แล้วว่า จะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย
แต่ไม่ว่าใครจะแสดงเหตุผลหรือไม่อย่างไร ทุกคนก็ประกาศไม่เลือกเขาและพรรคประชาธิปัตย์เหมือนกัน
คนที่ด่าส่วนมากนั้นต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี และพวกเขาก็คิดกันอยู่เสมอมาว่าพรรคประชาธิปัตย์นั้นอยู่ฝ่ายเดียวกับพรรคพลังประชารัฐ เมื่อคุณอภิสิทธิ์ออกมาประกาศเช่นนี้จึง “ทำร้ายใจ” พวกเขา
มีน้อยคนมากที่เข้าใจคุณอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์
นั่นคือ...คุณอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และเขาเองก็ได้รับการเสนอตัวเป็นคู่แข่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคใหญ่และเก่าแก่มาก จนได้รับการยอมรับว่าเป็นสถาบันทางการเมือง ดังนั้นจะให้คุณอภิสิทธิ์ประกาศสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีจึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง – ไม่สมควรอย่างยิ่ง
เป็นเรื่องน่าหัวเราะด้วยซ้ำว่า ไร้น้ำยา!
พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายของตนเอง และก็เหมือนกับพรรคการเมืองทุกพรรคที่ต้องการจะเป็นรัฐบาล เพื่อจะได้นำนโยบายของตนมาจัดการให้เป็นรูปธรรม
ส่วนคุณอภิสิทธิ์ก็เป็นหัวหน้าพรรค ก็ย่อมต้องการเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
การที่เขาประกาศชัดเจนอย่างนั้นจึงถือเป็นเรื่องที่ดี – มีประโยชน์แก่คนเลือกตั้ง นั่นคือจะได้ตัดสินใจได้อย่างไม่ลังเลว่าจะเลือกพรรคไหน ซึ่งเรื่องนี้ผมก็คิดว่าไม่ได้เป็นความเห็นส่วนตัวของคุณอภิสิทธิ์คนเดียว หากแต่เป็นมติของคณะกรรมการบริหารพรรค นั่นย่อมแสดงว่าพวกเขาได้ไตร่ตรองกันมาดีแล้ว
และพร้อมจะยอมรับคำตัดสินของผู้เลือกตั้ง ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร
ไม่ว่าจะมองด้านไหน ผมก็ไม่เห็นว่าคุณอภิสิทธิ์ทำผิดตรงไหน ส่วนใครจะเลือกหรือไม่เลือกเขาและพรรคประชาธิปัตย์นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ตอนแรกพลเมืองไทยแตกเป็น 2 ฝ่ายหลัก พอคุณอภิสิทธิ์ประกาศไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น เพิ่มฝ่ายที่ 3 ขึ้นมาทันที!
พวกนักการเมืองแตกแยกกันนั้นไม่น่าห่วงกังวลเท่ากับพลเมืองแตกแยกกันเอง เพราะยิ่งแตกแยกมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองมากเท่านั้น สุดท้ายพลเมืองก็จะประจันหน้ากันเอง และ “รบ” กันแทนพวกนักการเมืองอย่างที่ผ่านมา
แต่สิ่งที่พอเป็นประโยชน์อยู่บ้างก็คือ เราได้เห็นว่าระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทยนั้นสร้างปัญหามากกว่าจะกำจัดปัญหา และปัญหานั้นก็เกิดจากพวกนักการเมืองนั่นเอง โดยมีพลเมืองแบ่งฝ่ายสนับสนุน
การเลือกตั้งครั้งนี้ก็ไม่ได้เลือกนักการเมืองเข้าไปบริหารประเทศให้เกิดประโยชน์สุขแก่ส่วนรวม แต่เป็นการเลือกเพื่อให้เข้าไปต่อสู้กัน!
ประเทศชาติจะได้อะไร?
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี