คุก ไม่ได้มีไว้ขังคนจน !
ในที่สุดคดีล่าเสือดำในเขตอุทยานแห่งชาติ ที่มีอัครมหาเศรษฐีเป็นจำเลย ก็ตัดสินออกมาแล้วครับ
คำพิพากษาโดยสรุปมีดังนี้
ศาลจังหวัดทองผาภูมิอ่านคำพิพากษาคดีล่าเสือดำป่าทุ่งใหญ่นเรศวร มีคำสั่งจำคุกเจ้าสัวเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลล็อปเมนต์ จำกัด และกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกับพวกรวม 5 คดีเป็นเวลา 16 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และมีคำสั่งยกฟ้องคดีครอบครองซากเสือดำ
พนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูตร และพวกรวม 4 คน ประกอบด้วย 1. นายเปรมชัย กรรณสูต 2.นายยงค์ โดดเครือ คนขับรถ ที่ 3.นางนที เรียมแสน แม่บ้านแม่ครัวในคณะ และที่ 4นายธานี ทุมมาศ นายพรานของนายเปรมชัย ในความผิด 6 ข้อหา ประกอบด้วย
1 ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
2 .ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
3. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต
4. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่า
5. ร่วมกันซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่า อันได้มาโดยกระทำผิดกฎหมาย
6. ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต
นายเปรมชัย กรรณสูตร จำเลยที่ 1 ถูกลงโทษข้อหาร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 6 เดือน ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าจำคุก 8 เดือน ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไก่ฟ้าหลังเทาไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 เดือน รวมจำคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา แต่ยกฟ้องในข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง เสือดำ
ขณะที่จำเลยที่ 2 คือนายยงค์ โดดเครือ ศาลพิพากษาลงโทษข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 3 เดือน ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองเสือดำไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 4 เดือน รวมโทษจำคุก 13 เดือน ไม่รอลงอาญา แต่ยกฟ้องข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
จำเลยที่ 3 นางนที เรียมแสน ศาลพิพากษาลงโทษข้อหาร่วมกัน มีซากสัตว์ป่าคุ้มครองเสือดำ ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 4 เดือนและปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และยกฟ้องข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร
จำเลยที่ 4 นายธานี ทุมมาศ ศาลพิพากษาลงโทษข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 3 เดือน ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองเสือดำไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 4 เดือน ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 6 เดือน ข้อหาพยายามล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าจำคุก 4 เดือน ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จำคุก 1 ปี ข้อหาเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติจำคุก 1 ปี รวมจำคุก 2 ปี 17 เดือนไม่รอลงอาญา
พร้อมกันนี้ศาลได้มีคำพิพากษาในส่วนของค่าเสียหายทางแพ่งให้จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 4 ร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน 2 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระแก่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเรียบร้อย
คำพิพากษานี้เป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ทั้งโจทก์และจำเลย มีสิทธิที่จะอุทธรณ์ ฎีกา ได้อีกต่อไป ทั้งยังสามารถทำเรื่องประกันตัวออกมาอยู่นอกคุกนอกดรือนจำระหว่างอุทธรณ์คดีได้ด้วย ซึ่งศาลท่านก็เมตตาให้ประกันตัวได้ด้วยทุนทรัพย์ 4 แสนบาท แต่มีเงื่อนไขว่าห้ามออกนอกประเทศ
สาระของคดีที่อยู่ในความรู้สึกของประชาชนทั้งหลายทั้งปวงก็คือ การล่า หรือฆ่าเสือดำ และจำเลยในคดีนี้ที่อยู่ในความรู้สึกของประชาชนก็คือ นายเปรมชัย กรรณสูตร อัครมหาเศรษฐี ประธานบริษัทอิตาเลี่ยนไทย
ไก่ป่าก็ดี ของป่า อื่นใดก็ดี อยู่ในความสนใจของประชาชนน้อยมาก
แต่ปรากฏว่า ประเด็นไก่ป่า ประเด็นอื่นๆ ทำให้นายเปรมชัย ต้องติดคุก
ส่วนประเด็นเสือดำศาลชั้นต้นเอาผิดเขาไม่ได้ ยกฟ้องในประเด็นนี้ ความผิดกลับไปตกอยู่กับบริษัทบริวาร ที่ร่วมไปพักผ่อนหย่อนใจร่วมกับนายเปรมชัย
เป็นอย่างนั้นไป
คำฟ้อง พยานหลักฐาน อาจจะไม่ทำให้ศาลท่านเชื่อได้ว่า นายเปรมชัย มีส่วนเกี่ยวข้องกับซากเสือดำ จึงได้ยกฟ้องในประเด็นนี้
มีน้อยคนครับที่เชื่อว่า อัครมหาเศรษฐีระดับนี้จะติดคุก
นายเปรมชัยโดนไปแล้วครับ แม้จะเหลืออีก 2 ศาล
คนระดับนี้ นาทีเดียว 1 วัน 1 สัปดาห์ 1 เดือน ฯลฯ มันก็สาหัสสากรรจ์ นะครับ ถ้าคำนึงถึงเกียรติยศชื่อเสียงในสังคม
พูดอย่างนี้ ผมไม่ได้ยกย่อง หรือให้ความสำคัญกับเศรษฐีมีเงินหรอกครับ แต่เงินของพวกมัน มีอิทธิฤทธิ์ อิทธิเดชจริงๆ
16 เดือนนี่ก็สุดยอดแล้วครับ!!!
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี