ทันทีที่ประกาศเปิดตัวพรรคอนาคตใหม่ ก็ได้รับความสนใจในทันที และตลอดช่วงเวลาหาเสียงระยะสั้นๆก็ได้รับแรงสนับสนุนอย่างคึกคัก แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าพรรคอนาคตใหม่จะได้ ส.ส. ทั้งเขตและบัญชีรายชื่อรวมกันถึง 88 คน!
ผมจะไม่วิเคราะห์หรอกว่าเหตุใดพรรคอนาคตใหม่จึงได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้น เพราะมีคนวิเคราะห์กันมากแล้ว และก็ไม่ยากที่คนทั่วไปจะมองออกว่าเพราะเหตุใด
ผมอยากพูดถึงสิ่งที่คุณธนาธรและคุณปิยบุตรพูดในช่วงหาเสียงมากกว่า นั่นก็คือ เรื่องที่คนทั่วไปไม่ได้ฟังเขาปราศรัยหรืออ่านนโยบายพรรคอนาคตใหม่ จึงมักจะเห็นแต่ที่ประเด็นที่ค้านกับความรู้สึกคนไทยส่วนมาก อย่างเช่น “จะรับโรฮิงญาเข้ามาเป็นแรงงานช่วยพัฒนาเศรษฐกิจไทย” “ปฏิรูปกองทัพ – ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร” “แก้ไขหรือร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ” “ยุติการสืบทอดอำนาจของเผด็จการทหาร” เป็นต้น
ข้อความทั้งหมดที่ผมยกมาข้างบนนั้นเห็นได้บ่อยมาก และก็มีเสียงด่ามากกว่าเสียงชื่นชม แต่สุดท้ายพรรคอนาคตใหม่ก็ได้รับเลือกตั้งอย่างเกินความคาดหมาย
แต่นโยบายของพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้มีแค่ข้อความที่ยกมาเท่านั้น ลองดูว่านโยบายของพรรคมีอะไรบ้าง จึงได้รับการสนับสนุนจากชาวปัญญาชนไม่น้อย
พรรคอนาคตใหม่มี 12 นโยบายหลัก แบ่งเป็น 3 นโยบาย “ฐานราก” คือ 1.ยุติระบบราชการรวมศูนย์ กระจายอำนาจ กระจายคน กระจายงบประมาณ
2.ไทยเท่าเทียม สวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร
3.ปฏิวัติการศึกษา ลงทุนให้ถูกจุด ลดความเหลื่อมล้ำ
ส่วน 8 นโยบาย “เสาหลัก” คือ 1.ทลายเศรษฐกิจผูกขาด ล้างระบบเส้นสาย หยุดทุนใหญ่กินรวบประเทศ
2.ขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน เดินทางได้ไม่ต้องซื้อรถ สร้างเศรษฐกิจด้วยอุตสาหกรรมรถไฟ
3.เกษตรก้าวหน้า ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากด้วยเทคโนโลยี แก้ปัญหาเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ปลดหนี้เกษตรกร
4.เศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อประชาชน พัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยเทคโนโลยี ส่งเสริมธุรกิจใหม่ สร้างไทยเท่าทันโลก
5.เปิดข้อมูลรัฐกำจัดทุจริต สร้างรัฐโปร่งใส ให้อำนาจตรวจสอบอยู่ในมือประชาชน
6.โอบรับความหลากหลาย เคารพความแตกต่าง ศักดิ์ศรีคนต้องเท่าเทียม
7.สิ่งแวดล้อมยั่งยืน ลดใช้พลาสติก สร้างเศรษฐกิจจากขยะ
8.ปฏิรูปกองทัพ ลดนายพล ละอาวุธ เลิกเกณฑ์ทหาร
สุดท้ายคือ 1 ปักธงประชาธิปไตย ล้างมรดกรัฐประหาร สร้างการเมืองแบบใหม่ เจ้านายคือประชาชน
นอกจากนี้คุณธนาธรได้แสดงวิสัยทัศน์ “ไทย 2 เท่า” คือ “คนเท่าเทียมกัน ไทยเท่าทันโลก” ซึ่งก็มีสาระเดียวกับนโยบายข้างบนนั่นเอง
โดยยกตัวอย่างว่า บ้านจะแข็งแรงต้องเริ่มจากรากฐาน 3 ด้านคือ 1.คน อนาคตใหม่เสนอสร้างไทยเท่าเทียม ผ่านรัฐสวัสดิการ 2.ทรัพยากรพื้นฐาน กระจายอำนาจ ให้ท้องถิ่นกำหนดอนาคตตนเอง และ 3.ความรู้ ด้วยการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งคือปัจจัยที่จะกำหนดการพัฒนาว่าประเทศจะไปทางไหน ด้วยความเร็วเท่าเรา
นโยบายบางข้อนั้นเป็นรูปธรรม แต่ส่วนมากจะเป็นนามธรรม คือลอยๆ ไม่ได้บอกวิธีการทำเหมือนกับพรรคการเมืองอื่นๆหลายยุคหลายสมัยที่ “พูดแล้วทำไม่ได้ หรือไม่ทำ” และส่วนมากก็ไม่ต่างจากนโยบายของพรรคอื่นๆ
วันนี้ผมไม่บังอาจจะชี้นิ้วว่าพรรคอนาคตใหม่จะทำตามนโยบายได้หรือไม่ เพราะการนับคะแนนของ กกต. ยังไม่เรียบร้อย และเมื่อนับแล้วก็ไม่ทราบว่าพรรคอนาคตใหม่จะได้เป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน
แต่ถึงจะเป็นฝ่ายค้านก็สามารถเสนอร่าง พรบ.ที่สนองนโยบายของพรรคได้ (คุณธราธรให้สัมภาษณ์ไว้หลังเลือกตั้ง)
ในฐานะพลเมืองที่เสียภาษีให้เป็นเงินเดือนและเป็นงบประมาณให้พวกนักการเมืองใช้จ่าย (อาจจะโกงกินด้วย) ก็ต้องติดกันต่อไป ว่าพรรคดาวรุ่งอย่างอนาคตใหม่จะทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหนและอย่างไร
ประเทศไทยจะมีอนาคตใหม่จริงไหม?
และจะทำอะไร “นอกลู่นอกทาง” นโยบายของพรรคอย่างที่คุณทักษิณได้ทำมาแล้วหรือไม่!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี