หลังแถลงข่าว การเดินทางของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากอำเภอสตึก บุรีรัมย์ เข้ากรุงเทพฯ เพื่อโอนหุ้น บริษัทสื่อสิ่งพิมพ์ โดยแสดงหลักฐาน อีซี่พาส ผ่านทางด่วน
นายปิยบุตร แสงกนกกุล ถามนักข่าวว่า มีใครสงสัยไหม ถ้าสงสัยเขาก็พร้อมจะดีเบต
ไม่มีนักข่าวสงสัย ไม่มีใครพร้อมที่จะดีเบตกับนายปิยบุตร
นักข่าวไม่ดีเบตนั่นพอจะเข้าใจ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของนักข่าว แต่ที่นายปิยบุตรบอกว่า พร้อมจะดีเบต นั่น ไม่เข้าใจ ดีเบตเพื่ออะไรหรือ ชนะแล้วได้อะไร แสดงว่า พูดเก่ง วาทะเก่ง หลักฐาน พยานมีพร้อมที่จะเอาชนะได้อย่างนั้นหรือ ?
กกต. มีมติรับคำร้องที่มีผู้ร้องว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎร เพราะถือครองหุ้นธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ กกต. ให้เวลา 7 วันให้นายธนาธรแก้ข้อกล่าวหา
ถ้าพยานหลักฐานที่นายธนาธรส่งให้ กกต. กกต. พิจารณาแล้ว เชื่อพยานหลักฐาน เรื่องก็จบ ถ้าไม่เชื่อ ก็ต้องส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกเลือกตั้งเป็นผู้พิจารณา เป็นผู้ตัดสินว่า นายธนาธรขาดคุณสมบัติในการสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ ไม่ใช่นักข่าว ไม่ใช่นักวิชาการ ไม่ใช่กองเชียร์นายธนาธร และไม่ใช่ฝ่ายที่ไม่สนับสนุนนายธนาธร
และไม่ใช่เรื่องที่จะมาอ้างเหตุผลอื่นใด เป็นต้นว่า เป็นเรื่องการเมือง เป็นเรื่องหาเหตุที่จะสกัดดาวรุ่ง คนรุ่นใหม่ที่มีเจตนาดี มีความคิดใหม่ ทันสมัย ไม่ล้าหลัง มีความปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง หรือเป็นเรื่องเล็กน้อยหยุมหยิม หรือ สื่อที่นายธนาธรถือ ไม่ใช่ธุรกิจอย่างหนังสือพิมพ์ รายวัน รายสัปดาห์ การถือครองหุ้น ก็เป็นสมบัติของนายธนาธร เขาจะโอนให้ใคร อย่างไรก็เป็นเรื่องส่วนตัว
ปัญหาที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งจะพิจารณาก็คือ ณ วันที่ นายธนาธรไปยื่นใบสมัครเป็นผู้แทนราษฎรนั้น เขาขาดคุณสมบัติหรือไม่ ?
ประเด็นขาดหรือไม่ขาดในกรณีนี้ก็คือ วันที่เขายื่นใบสมัคร เขาถือครองหุ้นสื่ออยู่หรือไม่ ?
ก่อนนี้ก็เคยมีครับ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี นายสมพล เกยุราพันธ์ พ่อของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ และอีกหลายๆคน ต้องพ้นจาก ส.ส. เพราะขาดคุณสมบัติ
นายบรรหารต้องกลับมาเรียนให้จบประโยคมัธยม และมุมานะเรียนนิติศาสตร์ รามคำแหง จนเป็นมหาบัณฑิตย์
คนเหล่านี้ไม่ออกมาโวยวายเลยว่าถูกกลั่นแกล้ง ถูกสกัดกั้น
ทั้งสอง นายธนาธร นายปิยบุตร เป็นคนหนุ่ม รุ่นใหม่ มีความรู้มีความสามารถ มีความคิด มีความหวังที่จะเปลี่ยนแปลงพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง ทันสมัย ที่ต้องระวังก็คือ คำพูด ต้องให้อยู่กับร่องกับรอย เป็นต้น โอนหุ้นวันไหนแน่ ก่อน 8 มกราคม (ประชาชาติ) หรือ 8 มกราคม 8 มกราคม อยู่บุรีรัมย์ เข้ากรุงเทพฯมาถึงบ่าย ทำไมรีบร้อนขนาดนั้น หรือเพิ่งมาร้าว่าถือหุ้นสท่อไม่ได้เอาวันที่ 19 มีนาคม วันที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตัดสินให้ลูกพรรคคนหนึ่งที่สกลนคร ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เพราะถือหุ้นสื่อ ?
วันที่ 10 มกราคมนั้น ยังไม่รู้ชัดเลยว่า จะมีการสมัครรับเลือกตั้งวันไหน เพราะพระราชกฤษฎีกา ยังไม่ออกเลย
คิดดูใหม่คิดดีๆ ทำไมเป็นวันที่ 8 มกราคม เพราะ 8 กุมภาพันธ์ เป็นวันสุดท้ายของการสมัครรับเลือกตั้ง
เอาว่า โอนหุ้นก่อนสักเดือนละกันแต่บังเอิญไม่ได้ตรวจสอบ 8 มกราคม หาเสียงอยู่สตึก บุรีรัมย์ ต้องตาลีตาเหลือกเข้ากรุงเทพฯ
โชคดีครับ ที่มี อีซี่พาสเป็นพยาน
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ท่านจะเชื่อหรือไม่คอยลุ้นกันอีกที
ถึงตอนนั้นก็อย่าสำออย อย่าเอะอะโวยวายว่า ศาลไม่เป็นธรรม ศาลเป็นพวกอำมาตย์ ศาลตั้งธงไว้ก่อน ละกัน
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี