คุณธนาธรเป็นคนหนุ่มที่มีความมุ่งมั่นสูงที่จะทะยานเข้าสู่ “ศูนย์กลางแห่งอำนาจการเมือง - การปกครอง” เพื่อจะได้นำอุดมการณ์ที่ตน “ยึดมั่นถือมั่น” ไว้อย่างแรงกล้านั้นมาทำให้เป็นจริงในสังคมไทย หรือทำให้สังคมไทยเป็นอย่างอุดมการณ์ที่เขายึดมั่นถือมั่น
แต่ก็เพราะความมุ่งมั่น ความยึดมั่นถือมั่นอันแรงกล้านั้นเองที่ทำให้เขาก้าวพลาดครั้งสำคัญ!
ทันทีที่เขาเปิดตัวและเปิด “พรรคอนาคตใหม่” เขาก็ประกาศเป็นศัตรูกับคนที่มีความคิดเห็นต่างจากเขาทันที ถึงขนาดประกาศว่า “พรรคการเมืองที่คิดต่างจากเขา คือศัตรูต่อของพรรคเขา”
เขารู้ดีว่าพรรคการเมืองนั้นไม่ได้มีแค่นักการเมือง แต่ยังมีสมาชิกพรรค มีคนที่สนับสนุนพรรค มีคนที่จะเลือกพรรค และพรรคส่วนมากก็มีความคิดเห็น รวมทั้งนโยบายที่แตกต่างจากเขาและพรรคของเขา
พรรคที่มีความคิดเห็นและมีนโยบายไปในทางเดียวกันก็มีเพียงพรรคของคุณทักษิณ
นั่นคือ “ไม่เอาเจ้า”
ผลคือได้ตอกลิ่มความแตกแยกที่มีอยู่แล้วในสมัยคุณทักษิณให้ยิ่งแตกลึกและกว้างขึ้นอีก
ด้วยความเป็นมหาเศรษฐีและเป็นคนหนุ่ม เมื่อประกาศตัวเล่นการเมืองก็ย่อมมีคนสนใจประวัติและความคิดของเขา คนที่สนใจก็เข้าไปค้นหา “ความเป็นธนาธร” จากสื่อต่างๆ สิ่งที่ค้นพบก็คือในวัยหนุ่มเขามีความคิดของมาร์กซิสต์ เคยเป็นเสื้อแดงและออกไปประท้วง – ต่อต้านรัฐบาลในช่วงปี 2543 ย้อนถอยหลังไปอีก เขาก็เคยเป็นประท้วงทางการเมืองเรื่องอื่นด้วย
การให้สัมภาษณ์ของเขานั้นย่ำยีจิตใจคนจำนวนมหาศาล ซึ่งก็หนีไม่พ้นเรื่องเกี่ยวกับเจ้าเป็นหลัก
ยังไม่จบ...พอเกิดกรณีผิดกฎหมายเรื่อง “หุ้นและเงินกู้ให้พรรค” เขาก็แถเอาตัวรอดไปเรื่อยๆ จนมั่วไปหมด ยิ่งมั่วคนก็ยิ่งจับได้ว่าเขาโกหกและเชื่อว่าคำกล่าวหาเขานั้นเป็นจริง แต่เขากลับโยนไปให้แม่ เมีย และหลานสาว พร้อมกันนั้นก็กล่าวโทษกฎหมาย ว่าเป็นกฎหมายเผด็จการ ต้องการกลั่นแกล้งเขา
ไม่เคยยอมรับผิด แต่กลับพูด “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น” ตลอดมา
เขายินดีและยอมรับที่พรรคตนได้ ส.ส. จำนวนมากเกินคาดฝัน แต่ไม่ยอมรับกฎกติกาของ กกต. ที่ตนเองทำผิด ทั้งที่ ส.ส. ที่ได้มานั้นก็ใช้กฎกติกาเดียวกัน
เมื่อไม่ได้อย่างใจ ก็ขู่จะเรียกร้องให้ผู้ที่นิยมตนลงไปสู้บนถนน
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ประกาศว่าจะสู้ในสภา
ตอนแรกคงลืมคิดไปว่า คนที่สนับสนุนและปลื้มเขานั้นจำนวนมากเป็นหนุ่มสาวที่เพิ่งโหวตครั้งแรก หนุ่มสาวเหล่านี้จะมีสักกี่คนที่จะออกไปกรำแดดกรำฝน กินนอนอย่างลำบากลำบนอยู่บนท้องถนน เพราะส่วนมากก็ถูกเลี้ยงดูมาแบบคุณหนูทั้งนั้น และก็มีอีกจำนวนไม่น้อยที่บอกว่า เลือกเขามาแล้ว ยังจะให้ออกไปต่อสู้เพื่อเขาอีกนั้นมันมากเกินไป ทุกคนต้องทำมาหากิน
“แทนที่จะสู้เพื่อประชาชน กลับเรียกร้องให้ประชาชนไปสู้เพื่อเขา”
สุดท้ายก็ต้องกลับคำพูดครั้งที่ 2 ว่าจะสู้ในสภา
อารมณ์ที่กราดเกรี้ยว พูดด้วยสำนวนมาร์กซิสต์ของเขาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เขาก้าวพลาด
ยกตัวอย่างล่าสุด เมื่อการเลือกตั้งซ่อมที่เชียงใหม่จบลง พรรคของเขาได้คะแนนสูงถึง 70,000 กว่าคะแนน เขาประกาศทันทีว่า “ประชาชนได้สั่งสอน...” (พรรคการเมืองและคนที่คิดเห็นต่างจากเขา ไม่เลือกเขา)
ยิ่งเขาพูด (แบบปลุกระดม) มากเท่าไหร่ บรรดาสาวก – กองเชียร์ของเขานั้นถูกใจและสะใจแน่ แต่ขณะเดียวกันก็มีคนเกลียดชังเขามากขึ้น
ทั้ง 2 ฝ่ายทำสงครามอารมณ์กันในโลกออนไลน์อย่างไม่ยั้ง
“นโยบายพรรคอนาคตใหม่” บางนโยบายตามความเห็นของผมนั้นน่าสนับสนุน แม้ว่ายากจะทำได้ แต่เมื่อหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคมีเป้าโจมตีอยู่ที่เจ้า คนส่วนมากในประเทศนี้ก็เห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะสนับสนุนพวกเขา
สนับสนุนไปก็มีแต่ความขัดแย้งและอาจลุกลามเหมือนในยุคทักษิณเรืองอำนาจอีก
ด้วยเหตุนี้...แม้พรรคอนาคตใหม่จะประสบความสำเร็จที่ได้ ส.ส. จำนวนมาก แต่สำหรับตัวคุณธนาธรเองกลับก้าวพลาด เขาอาจไม่ได้เป็น ส.ส. และอาจโดนคดีอาญา
ไม่มีใครทำให้เขาก้าวพลาด แม้เขาจะโพนทะนาว่าพวกเผด็จการกลั่นแกล้งเขา
เขาก้าวพลาดเพราะได้ตอกลิ่มความขัดแย้งให้กว้างและลึกขึ้น ด้วยความคิดชังเจ้าของเขาเอง ตามมาด้วยการเอาแต่โจมตีฝ่ายเผด็จการอย่างไม่ลืมหูลืมตา โดยเฉพาะเรื่องหุ้นและเงินกู้ของพรรค
ทั้งที่ทุกเรื่องเขาทำมันขึ้นเองทั้งนั้น และกฎกติกาก็มาก่อนที่เขาจะสมัครเป็น ส.ส.
วันนี้เขาจึงเป็น “ผู้แทนนอกสภา” จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสิน
นายธนาธรต้องใช้เวลามากขึ้นที่จะไตร่ตรองและ “เรียนให้รู้” ว่าสังคมไทยและอุปนิสัยของคนไทยนั้นเป็นอย่างไร
ไม่ใช่มโนเอาตามลัทธิอุดมการณ์ที่ตนยึดมั่นถือมั่นอย่างเดียว แล้วพยายามยัดเยียดเข้าสู่สังคมไทยและคนไทย
การที่คุณธนาธรก้าวพลาดนั้นก็บอกอยู่แล้วว่า สังคมไทยและคนไทยเป็นอย่างไร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี