การเมืองเป็นเรื่องอำนาจและผลประโยชน์ของนักการเมือง ผลประโยชน์ของประชาชนเป็นผลพลอยได้จากพวกเขา (มองแบบอคติหน่อย)
แต่กระนั้น ประชาชนก็เดือดร้อนแทนนักการเมืองของตนหรือฝ่ายตนเสมอมา (เรื่องนี้เขียนหลายครั้งแล้ว)
เหตุผลหลัก...ก็เพราะเรามีความเชื่อคนละชุด หรือยึดมั่นถือมั่นลัทธิอุดมการณ์ต่างกัน เราจึงมองคนละมุมและหลงคิดว่าลัทธิอุดมการณ์ของตนและฝ่ายตนนั้นถูกต้อง ผลที่ตามมาคือเราต่อสู้กันมา 10 ปีแล้วยังไม่จบ
และยังจะต่อสู้กันต่อไป จนกว่าจะฉิบหายกันทั้งสองฝ่าย!
เราต่างก็ “ต่อสู้” กันเพื่อลัทธิอุดมการณ์และนักการเมืองฝ่ายตน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของปุถุชนที่ไม่มีญาณรู้เห็นทุกเรื่อง – เห็นทุกอย่างตามที่เป็นจริงได้ แต่ที่ไม่ธรรมดาก็คือขณะที่เราต่อสู้กันนั้น “นักการเมือง” ก็ฉกฉวยโอกาสโกงทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเรา ตั้งแต่เงินภาษีของเรา ความไว้วางใจของเรา เวลาและสุขภาพจิต แม้กระทั่งชีวิตและอิสรภาพของเราที่สูญเสียไปกับการต่อสู้และปกป้องพวกเขา
นักการเมืองในนิยามของผมนั้น...ไม่ได้หมายถึงคนที่มีอำนาจมาจากการเลือกตั้งอย่างเดียว แต่รวมถึงคนที่มาจากการปฏิวัติและรัฐประหารด้วย
ผมไม่เคยไว้วางนักการเมือง ไม่ว่าจะมาด้วยวิธีไหน และก็คิดอยู่ว่า “ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ – ปัญหาที่สำคัญ” ของประเทศชาตินั้นไม่ได้อยู่ที่ลัทธิอุดมการณ์ใด แต่มันอยู่ที่สันดานคนเป็นเบื้องแรก ลัทธิอุดมการณ์สูงส่งแต่คนชั่ว มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น แต่มันกลับถูกใช้เป็นเครื่องมือของนักการเมืองไว้หลอกล่อเราให้ต่อสู้เพื่อพวกเขา แต่บอกว่า “ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์”
ลัทธิอุดมการณ์นั้นก็มี “คำขลัง” หรือวาทกรรมยืนยัน – การันตีสำทับอีกว่า “เพื่อความเป็นธรรม – ความยุติธรรม – เพื่อความทียม –เพื่อสิทธิและเสรีภาพ – เพื่อประชาธิปไตย – เพื่อความก้าวทันโลก ฯลฯ” บรรดาคนที่ยึดมั่นถือมั่นก็หลงคิดว่าลัทธิอุดมการณ์นั้นเป็นเนื้อเดียวกับจิตสำนึกของนักการเมือง
ซ้ำยังหลงคิดว่าจิตสำนึกของตนก็เป็นเนื้อเดียวกับลัทธิอุดมการณ์นั้นด้วย!
คนจำนวนมาก...พอเงยหน้าจากตำราของลัทธิอุดมการณ์ก็ประกาศตนเป็น “นักปฏิวัติ” แล้ว!
จากนั้นก็กราดสายตามองออกไปยังสังคมแล้วก็เห็นตามที่ลัทธิอุดมการณ์นั้นๆสั่งสอน...เห็นแต่สิ่งไม่ดี ตั้งแต่ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศีลธรรม ศาสนา กฎหมายต่างๆ และหลงเชื่อว่าตนและฝ่ายตนทำอะไรก็ล้วนแต่ก็ถูกต้องดีงามไปหมด ส่วนคนอื่นฝ่ายอื่นทำอะไรก็ผิดและเลวทรามไปหมด โดยลืมปัญหาต่างๆที่บ่อนทำลายประเทศชาติจนใกล้จะพังอยู่รอมร่อ...
ปัญหาที่ยิ่งใหญ่และสำคัญก็คือ “การทุจริต – การคอรัปชั่น” ซึ่งไม่ได้มีแต่นักการเมือง(บางส่วน) แต่มีข้าราชการทุกระดับ(บางส่วน) รวมอยู่ด้วย
งบประมาณแผ่นดินในแต่ละปีนั้นมีจำนวนมหาศาล...งานวิจัยบอกว่า “นับแต่เริ่มต้นโครงการต่างๆ เงินก็หายไปอย่างน้อยก็ 10 – 30 เปอร์เซ็นต์ และหายไปทุกขั้นตอนของการดำเนินงานจนถึงระดับล่างนั้นอีกไม่น้อยกว่า 5 - 10 เปอร์เซ็นต์ (แต่ละปีตัวเลขจะเปลี่ยนบ้าง) รวมตัวเลขเงินที่หายไปทั้งหมดนั้นมหาศาลนัก!
มันไปอยู่ที่ใคร?
ถ้าเงินงบประมาณได้ถูกใช้ไปอย่างซื่อตรง ก็จะนำไปพัฒนาประเทศได้อีกมาก รวมทั้งนำไปช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเราทุกคนได้ดีกว่าที่เป็นอยู่
ผมจึงเห็นว่า...เราต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับเรื่องการทุจริต - การคอรัปชั่น ว่ามันเป็นความชั่วร้าย – เป็นโรคระบาดที่ทำลายล้างประเทศชาติ และเราต้องร่วมกันกำจัดมัน ไม่ว่าเราจะสังกัดตนเองอยู่ฝ่ายใด
ถ้าเรารักและปกป้องฝ่ายตน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เราก็ต้องตรวจสอบฝ่ายตรงข้าม...ด้วยข้อมูลและเหตุผล
ทำอะไรพวกเขาไม่ได้ก็ต้องก่นประณาม!
เราต้องถือว่าการทุจริต - การคอรัปชั่นเป็น “การกบฏต่อประชาชน” เป็น “การทรยศต่อประเทศชาติ” และโทษทัณฑ์นั้นต้องสูงยิ่ง – สูงยิ่งจนพวกเขาขยาดที่จะทุจริต – คอรัปชั่น
พวกเขาต้องถูกกำจัดออกไปจากสังคมปรกติ เช่นเดียวกับที่เรากำจัดเชื้อโรคระบาดและสิ่งโสโครก ให้สมกับที่เราไว้วางใจพวกเขา และต่อสู้กันเองจนบาดเจ็บล้มตายและสูญเสียอิสรภาพเพื่อพวกเขา
ถ้าเราจะต่อสู้เพื่อ “ความเป็นธรรมและความยุติธรรม” จริง เราต้องต่อสู้กับนักการเมืองที่ทุจริตและคอรัปชั่นเป็นหลัก เพื่อความเป็นธรรมและยุติธรรมของเราทุกคนในประเทศ
อย่าให้พวกเขาหลอกล่อให้เราต่อสู้ฟาดฟันกันเอง แล้วกอบโกยทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเรา
ไม่เช่นนั้น เราจะไม่มีแผ่นดินให้ต่อสู้กันเพื่อพวกเขาอีกต่อไป.
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี