ขณะที่รัฐบาลปริ่มน้ำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังจัดตั้งขึ้น ก็มีเหตุให้ประชาชนทั้งหลายทั้งปวงต้องครุ่นคิด
ต้องไม่ลืมว่า ประชาชนทั้งหลายทั้งปวงนั้น มีทั้งฝ่ายที่สนับสนุน พลเอกประยุทธ์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ไม่สนใจว่า พลเอก ประยุทธ์ เคยเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ ที่ล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ล้มรัฐธรรมนูญ และเมื่อมีการเลือกตั้งก็วางแผนเพื่อที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปด้วยรัฐธรรมนูญ 2560 ด้วยพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อให้พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปโดยเฉพาะ
และก็ยังมีประชาชนอีกฝ่ายที่ไม่เอาพลเอก ประยุทธ์ โดยมองว่านี่เป็นการสืบทอดอำนาจ นี่เป็นเผด็จการ
ทั้งสองฝ่ายนี้กำลังต่อสู้กันทางความคิด ทั้งในสภา และนอกสภา อย่างเอาจริงเอาจัง เอาเป็นเอาตาย โดยที่มีประชาชนฝ่ายกลางๆ คือไม่อยากยุ่ง ไม่อยากสนใจ หรือยังไม่แน่ใจว่า ใครผิดใครถูกกันแน่กับประชาชนฝ่ายกลางๆ ที่ไม่ได้เอาตัวเองเข้าเป็นกองเชียร์ฝ่านไหน แต่ยึดเอาความจริง ความถูกต้องชอบธรรม และผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นเกณฑ์พิจารณาการกระทำของทั้งสองฝ่าย
สถานการณ์เช่นนี้ รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ใหม่ ในรูปลักษณ์ของ ระบอบประชาธิปไตยต้องระมัดระวังอย่างที่สุด
แต่รัฐบาลกลับเพิกเฉยในเรื่องสำคัญหลายเรื่อง กล่าวคือ
1. รัฐบาลนี้มีรัฐธรรมนูญ 2560 เป็นเครื่องมือสำคัญ ให้ คสช. แต่งตั้ง 250 วุฒิสภา ไว้โหวตนายกรัฐมนตรี ไว้กลั่นกรองกฎหมายสำคัญ ที่มาที่ไปของวุฒิสภา มีกฎเกณฑ์เขียนไว้ชัดอยู่แล้ว
แต่ปรากฎว่า คณะกรรมการสรรหาวุฒิสภาเป็นใคร ใช้หลักเกณฑ์อย่างไร กลับไม่เป็นที่เปิดเผย สื่อมวลชนพยายามขุดคุ้ยก็ปรากฎว่า กรรมการสรรหาหลายต่อหลายคนได้รับเลือกตั้งเป็นวุฒิสภาด้วย
การสรรหาวุฒิสภาครั้งนี้ใช้งบประมาณไปถึง 1,300 ล้านบาท
ผลที่ออกมาคือ วุฒิสภาหลายท่านขาดคุณสมบัติ ซึ่งเป็นปัญหาที่จะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา
ผลที่ออกมา วุฒิสภาบางคนกำลังรอที่จะเข้าคุกตามคำพิพากษาศาลฎีกาในอีกไม่นานนี้ เพราะศาลอุทธรณ์ตัดสินแล้วเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
2. คดีอาญาของมือตีนทักษิณคนหนึ่ง เขาตกเป็นผู้ต้องหาคดีบุกล้มการประชุมผู้นำอาเซี่ยนที่พัทยา สมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นนายกรัฐมนตรี
มาวันนี้เขาถอยออกจากที่เคยเป็นขี้ข้าทักษิณ มาเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ ที่มีกลุ่มสามหมาสามแมว เขาเป็นคนเดียวที่อัยการออกมาแถลงว่า ส่งฟ้องไม่ทัน เพราะตำรวจไม่จับตัวมาฟ้อง ทำให้ขาดอายุความ
ไม่ว่าอัยการจะแถลงด้วยเหตุผลใดก็ตาม ผู้คนทั้งหลายไม่ว่าฝ่ายที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ หรือฝ่ายที่จ้องคัดค้านพลเอกประยุทธ์ ก็ต้องเข้าใจว่า ไอ้นี่มันรอด เพราะมันมาสวามิภักดิ์ต่อรัฐบาล พรรคที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ต้องช่วยมันแน่ๆ
ทั้งที่ความจริง มันอาจจะรอด เพราะตำรวจลืม ตำรวจเผลอ หรือ อัยการผิดพลาด
เป็นได้ทั้งนั้น
แต่ผลเสียจะเกิดขึ้นกับรัฐบาล ซ้ำเป็นรัฐบาลที่ปริ่มน้ำอยู่ขณะนี้
3. กรณีของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เขาเป็นหนึ่งในจำนวนผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ในชุดที่ปล่อยเงินกู้ให้กฤษฎามหานคร เขาเป็นหนึ่งในจำนวนผู้ลงนาม
ทำไมเขารอดอยู่คนเดียว ทำไมเขาไม่ต้องติดคุกเหมือนผู้บริหารคนอื่นๆของธนาคารกรุงไทย ซ้ำมาเป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ และในที่สุดมาเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่สนับสนุนพลเอก ประยุทธ์
4. การทำงานขององค์กรอิสระโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปปช. ในกรณี นาฬิกายืมเพื่อน หรือกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาว่า ยืม ทรัพย์สินของคนอื่น
ทำไมนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ยืมรถโฟล์คคนอื่น ต่างกับที่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยืมนาฬิกาเพื่อน
ยืมเงิน ยืมทรัพย์สินเพื่อน จะต้องแจ้ง แสดงรายการหนี้สิน ทรัพย์สินหรือไม่ ปปช. ก็ไม่สามารถให้ความกระจ่างเรื่องนี้ ทำให้เกิดความเสื่อมต่อองค์กรแห่งนี้
ไม่มีอะไรต่างไปจากสมัยที่ทักษิณครองอำนาจแล้วเข้าไปแทรกแซงองค์กรอิสระอย่าง ปปช. กกต. เลย
แล้วสุดท้ายเป็นอย่างไร ?
พลเอก ประยุทธ์ ต้องไม่ลืมว่า กว่าจะปฏิบัติการวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นั้น ต้องรอให้สถานการณ์สุกงอมอย่างไร ต้องไม่ลืมว่า ทำไมมวลมหาประชาชนจึงออกมาคัดค้านรัฐบาลขณะนั้น
ทบทวนให้ก็ได้
เพราะรัฐบาลอาศัยเสียงข้างมากแก้ไขกฎหมายช่วยพวกพ้อง ช่วยทักษิณ ขัดต่อหลักนิติธรรม ขัดต่อมโนสำนักที่ดีงาม
เพราะรัฐบาลลุแก่อำนาจคิดว่ามีเสียงข้างมากจะทำอะไรก็ได้ เช่นจำนำข้าว ทุจริต โยกย้ายเจ้าหน้าที่ระดับสูงตามอำเภอใจ เล่นพรรคเล่นพวก
พูดง่ายๆคือ ขาดความเป็นธรรม ขาดความชอบธรรม
รัฐบาลนี้ (รัฐบาลประยุทธ์ 2) ต้องพิจารณาเรื่องเหล่านี้เป็นพิเศษ
ถูกต้อง ชอบธรรม มีแต่คนรัก มีแต่คนสนับสนุน
ทรราช อธรรม มีแต่คนคัดค้าน ชิงชัง
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี