ยังไม่ทันที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะได้บริหารราชการแผ่นดิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรส่วนหนึ่งก็เคลื่อนไหว เป็นการเคลื่อนไหวที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญจะแก้ไขในประเด็นใดบ้างมาตราใดบ้าง ยังไม่ได้บอกกล่าว เพียงแต่บอกว่า เพื่อให้เป็นประชาธิปไตย
ความคิดที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พรรคการเมืองบอกกล่าวกับประชาชนก่อนเลือกตั้ง และพรรคการเมืองก็เอาประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นประเด็นในการรณรงค์หาเสียงด้วย
พรรคที่เป็นฝ่ายค้านอยู่ขณะนี้แหละครับที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ส่วนที่มาเป็นรัฐบาล ก็ดูเหมือนจะมีพรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียวที่รับปากว่าจะต้องแก้รัฐธรรมนูญ แต่เป็นพรรคประชาธิปัตย์ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคและไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีด้วย
มาบัดนี้หัวหน้าพรรคเปลี่ยนไปแล้ว และก็กลายเป็นพรรคร่วมรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ ไปแล้ว แนวคิดที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจยังดำรงอยู่
แต่ในทางปฏิบัติท่าจะยาก เพราะรัฐบาลพลเอกประยุทธ์คงจะยังไม่เล่นด้วยกับการแก้ไ ขรัฐธรรมนูญ และพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ๆก็คงจะเช่นเดียวกัน
การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้จึงตกอยู่บนบ่าของพรรคฝ่ายค้าน
จะแก้ได้หรือ ?
หมวด 15 ของรัฐธรรมนูญ เป็นหมวดที่ว่าด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
มาตรา 256 การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้กระทำได้ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการต่อไปนี้
1 ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติม
ต้องมาจากคณะรัฐมนตรี
หรือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ทั้งหมด
หรือจากสมาชิกสภาผู้แทนละวุฒิสภา จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ทั้งสองสภา
หรือจากประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่าห้าหมื่นคน
ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติม เชื่อว่าฝ่ายค้านหาได้อยู่แล้ว หนึ่งในห้าก็แค่ร้อยคน อยากให้เอิกเกริก มีประชาชนเข้าร่วมลงรายชื่อสักห้าหมื่น แสนชื่อ ก็ไม่น่าจะลำบาก
แต่จะไปตกม้าตายเอาตอนที่การรับหลักการ
ญัตติแก้ไขเพิ่มเติมต้องเสนอเป็นร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมให้รัฐสภาพิจารณาเป็นสามวาระ
การออกเสียงลงคะแนนในวาระที่หนึ่งขั้นรับหลักการให้ใช้วิธีเรียกชื่อและลงคะแนนโดยเปิดเผย และต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการแก้ไขเพิ่มเติมนั้น ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา ซึ่งในจำนวนนี้ต้องมีจำนวนวุฒิสภาเห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา
เจอด่านแรกก็ตกม้าตายแล้วครับ !
ถามว่ารัฐธรรมนูญนี้เป็นประชาธิปไตยไหม ?
ไม่เป็นหรอกครับ ใครก็รู้ว่าเขียนขึ้นมาเพื่อให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีกสักสมัย สองสมัย
แกนนำของพรรคพลังประชารัฐก็รู้จึงออกมาตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อสนับสนุนพลเอกประยุทธ์
บรรดาลูกกระแป้เก่าของ ทักษิณ ก็รู้จึงได้แปรพรรคจากพรรคเพื่อไทยมาร่วมด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสามหมาสามแมวอะไรนั่น
บางคนมันรู้กระทั่งว่า ถ้ามันมีคดีติดตัว อัยการอาจจะลืมฟ้อง หรือฟ้องมันไม่ทัน หมดอายุความเสียก่อน หรือ ตำรวจอาจจะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ลืมจับมันก็ได้
เมื่อรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตยจะต้องแก้ไหม ?
ก็ต้องแก้ซีครับ
อะไรที่เป็นอุปสรรคต่อพัฒนาการของบ้านเมือง ของประเทศชาติ ประชาชนทั้งหลายก็ต้องช่วยกันแก้ไข ช่วยกันปรับปรุง ช่วยกันพัฒนาให้ดีขึ้น
แต่เมื่อดูข้อกฎหมาย ข้อกำหนด เราก็เห็นแล้วว่า เป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญ
ขั้น รับหลักการ ต่อให้พรรคประชาธิปัตย์ทั้งพรรค พรรคภูมิใจไทยทั้งพรรคมาลงคะแนนเสียงสนับสนุนฝ่ายค้าน คิดหรือว่าจะได้เสียงสนับสนุนจากวุฒิสภาหนึ่งในสาม
สักห้าคน สิบคนแตกแถวออกมา ก็เป็นเรื่องแปลกแล้ว
แล้วจะทำอย่างไร ?
ปัญหาของชาติบ้านเมืองทุกวันนี้ไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญอย่างเดียว ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง เป็นเรื่องสำคัญ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต้องสะท้อนปัญหาเหล่านี้ให้รัฐบาลแก้ไข พร้อมๆไปกับปัญหาอื่นๆ เป็นต้น ปัญหาสิทธิมนุษยชน มิใช่เรียกร้องเอาเฉพาะฝ่ายตัว ใครที่ถูกละเมิด หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ถ้าจะแหกปากร้องขอความเป็นธรรมก็ต้องขอให้ทุกฝ่าย
หรือปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ต้องช่วยกันแหกปากร้องเหมือนกันมิใช่ปิดปากสนิทเมื่อฝ่ายที่ตัวสนับสนุนมันโกง มันคอร์รัปชั่น
นี่ต่างหากที่จะทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า
ถึงเวลานั้น แก้รัฐธรรมนูญ ก็ง่ายกว่าพลิกฝ่ามือเสียด้วยซ้ำ
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี