นาทีนี้ชาวโลกต่างเกาะติดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ที่เริ่มแพร่ระบาดจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ซึ่งหลายคนอาจสับสนกับมณฑลเหอเป่ย จำง่ายๆ เลยว่า “ในหูมีอู่” จะทำให้จำได้แม่น ไม่พลาดพลั้งพูดผิดพูดถูกให้ชาวบ้านเบ้ปากมองบน อู่ฮั่นเป็นเมืองใหญ่และมีประชากรถึงสิบเอ็ดล้านคน หนึ่งเดือนที่ผ่านมาจนวันนี้มีผู้ป่วยแล้วหมื่นสี่พันกว่าราย กระจายตัวอยู่ทั่วทุกภาคส่วนในแผ่นดินใหญ่
แต่ไวรัสโคโรน่ามหาภัยไม่ได้หยุดแค่ในเมืองจีนเท่านั้น หากแต่ลามไปทั่วโลก รวมทั้งไทยด้วย แม้จะเจอผู้ติดเชื้อ 19 คน แต่หมอบ้านเราเก่งมาก รักษาหายจนกลับบ้านได้แล้วถึง 7 คน ทั้งระบบการรับมือโรคระบาดของไทยก็อยู่ในอันดับ 6 ของโลก ถือว่าได้มาตรฐานสากลเลยทีเดียว มาดูชาติอื่นๆ กันบ้าง ต่างล้วนต้องรับมือกับไวรัสนี้กันจ้าละหวั่น เมื่อศุกร์ที่ผ่านมา องค์กรอนามัยโลกประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังจากเชื้อโคโรน่าแพร่ไปทุกทวีป
พูดแบบบ้านๆ แทบทุกชาติติดเชื้อไวรัสนี้กันงอมแงม มาดูสถิติกันว่าชาติไหนมีคนติดเชื้อเท่าไหร่ มีจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดในจีน 14,502ราย รักษาหายและออกจากรพ.424 ราย เสียชีวิต 304ราย ทั้งหมดนี้อยู่ในจีน ชาติอื่นที่มีผู้ติดเชื้อคือ ไทย 19 ราย (รักษาและออกจาก รพ. 7ราย) เกาหลีใต้ 11ราย ญี่ปุ่น 20 ราย (รักษาและออกจากรพ. 1ราย สิงคโปร์ 18 ราย มาเลเซีย 8 ราย เวียดนาม 6 ราย อเมริกา 8 ราย (รักษาและออกจากรพ. 1ราย) ออสเตรเลีย 12 ราย (รักษาและออกจากรพ. 2ราย) เนปาล 1 ราย ฝรั่งเศส 6 ราย แคนาดา 4 ราย (รักษาและออกจากรพ. 1ราย) เยอรมัน 8ราย กัมพูชา1 ราย ศรีลังกา 1 ราย (รักษาและออกจากรพ. 1ราย) ฟินแลนด์ 1ราย แองโกลา 1ราย อิตาลี 2 ราย อินเดีย 1 ราย ฟิลิปปินส์ 2 ราย UAE 5 ราย สเปน 1 ราย รัสเซีย 2 ราย อังกฤษ 2 ราย และสวีเดน 1ราย
ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ มีการแพร่ระบาดจากคนสู่คนนอกประเทศจีน ทั้งในไทย ญี่ปุ่น เยอรมัน และอเมริกา ล่าสุดมีรายงานจากฟิลิปปินส์ว่า จำนวนผู้ป่วยเพิ่มเป็น 2 ราย โดยผู้ป่วยรายที่สองเป็นสามีของหญิงจีนที่เดินทางมาเที่ยวมะนิลา และตอนนี้สามีเสียชีวิตแล้ว นับเป็นผู้ป่วยรายแรกที่เสียชีวิตนอกประเทศจีน
สถานการณ์ในบ้านลุงแซมนั้นอลหม่านไม่แพ้ชาติอื่น ตั้งแต่เจอผู้ป่วยรายแรกที่วอชิงตันสเตท จากนั้นก็มาเจอที่ชิคาโก้ ซึ่งเป็นหญิงจีนเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านที่อู่ฮั่น จากนั้นก็ไปโผล่ที่แคลิฟอร์เนียอีก 3 ราย แอริโซน่าอีกหนึ่งราย อยู่ๆ ก็มีรายงานข่าวว่า สามีของหญิงจีนที่ชิคาโก้ติดเชื้อ เล่นเอาฮือฮากันทั้งประเทศ เพราะถือเป็นเคสแรกในอเมริกาที่ติดจากคนสู่คนนอกจีน และเป็นรายที่เจ็ด ส่วนรายที่แปดเพิ่งโผล่มาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เป็นนักศึกษาจีนในบอสตัน
คนอเมริกันจากเดิมที่ไม่ค่อยสนใจกลายเป็นความตระหนก ลุงแซมเลยทั้งตั้งรับและรุก ด้วยการส่งเครื่องบินไปรับอเมริกันที่อยู่ในอู่ฮั่น ตอนแรกฟังดูเหมือนมีมนุษยธรรมเหลือเกิน แต่พอดูเงื่อนไขแล้ว ถึงกับน้ำลายฝืดคอกันทีเดียว แม้จะมีพลเมืองอเมริกันอยู่ในอู่ฮั่นเป็นพัน แต่รัฐบาลอเมริกาให้สิทธิ์การได้กลับอเมริกากับเจ้าหน้าที่ทางการทูตของตัวเองก่อน คือให้นั่งมาแบบชิลล์ๆ แบบฟรีๆ จากนั้นก็นับเก้าอี้ว่าเหลือกี่ที่ ถึงเอาออกมาเร่ขายให้อเมริกันที่อยู่ในอู่ฮั่น ในราคากันเอ๊งกันเองจนเลือดซิบ
จัสติน สตีซซ์ ครูหนุ่มชาวอเมริกันจากรัฐมินนิโซต้ายังติดค้างในเมืองอู่ฮั่น แม้รัฐบาลอเมริกันส่งเครื่องบินมารับคนอเมริกันในอู่ฮั่นก็ตามแต่ใครอยากกลับจะต้องจ่ายค่าตั๋วคนละ 1000 ดอลลาร์ หรือประมาณสามหมื่นบาท ซึ่งแพงมหาโหดสำหรับตั๋วเที่ยวเดียว นอกจากนี้ทางการอเมริกัน ไม่ยอมรับภรรยาของจัสติน ซึ่งเป็นคนจีน หรือลูกชายวัยไม่ถึงเดือนที่แม่เป็นคนจีน ขึ้นเครื่องบินกลับอเมริกาไปพร้อมกับจัสตินด้วย
คนอเมริกันในอู่ฮั่นไม่ได้น้อยใจรัฐบาลจีนเลยแม้แต่น้อย หากโกรธรัฐบาลของตนมากกว่า บางคนอยากจะเดินทางไปกับเครื่องบินลำนี้ แต่ไม่สามารถออกจากเมืองได้ เพราะถนนถูกปิด ไม่สามารถเดินไปยังจุดนัดพบได้ แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลอเมริกาไม่แยแสในการแก้ปัญหานี้เลยด้วยซ้ำ เที่ยวแรกนี้นำคนอเมริกันกลับมาได้ 195 คน และต้องนำมากักตัวในฐานทัพที่แคลิฟอร์เนียเพื่อดูอาการ
แค่นี้ยังไม่พอ ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดที่ชาวโลกต่างเอาใจช่วยจีน บ้านเราทำคลิปทำเพจออกมาให้กำลังคนอู่ฮั่น จนเสียงตะโกน “อู่ฮั่นเจี้ยไหยว” และ “จงกั๋วเจี้ยโหยว” ดังระงมทั้งโลก ด้วยความเห็นอกเห็นใจคนจีนอย่างสุดหัวใจ ใครบ้างล่ะอยากเจอสถานการณ์แบบนี้ แต่ลุงแซมกลับออกมาลอยหน้าบอกโลกว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่านั้นทำให้เกิดการสร้างงานเพียบในอเมริกา เดี๋ยวนะ..ลุง นี่ลุงจะพูดทำไมให้บาดหมางกันเปล่าๆ ปลี้ๆ ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าโง่นะ น่าเอาเกี๊ยะตบปากสักพันหน จะพูดทำไมในสถานการณ์แบบนี้
วิลเบอร์ รอส รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกาออกมาแถลงหน้าตาเฉย แถมยังแขวะพญามังกรอีกว่า พวกยูคิดดูก็แล้วกันนะว่าจะทำธุรกิจกับประเทศที่ปกปิดข้อมูลอย่างนี้ (คือจีน) หรือเลือกจะทำธุรกิจกับประเทศอื่น (ซึ่งก็คือไอนี่แหละ)
พอองค์การอนามัยโลกประกาศปัง อเมริกาก็เอาบ้าง ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วอเมริกา บอกเลยว่าหน้ากากอนามัยหายวับไปจากร้านทุกหนแห่ง ผู้เขียนนั้นสำรวจตลาดมาด้วยตัวเองเลย เหลือกล่องสุดท้ายเลยเอามานอนกอดไว้ก่อน เผื่อต้องใช้ แม้ตอนนี้ไวรัสโคโรน่าจะยังไม่แพร่มาถึงรัฐที่อาศัยอยู่ก็ตาม แต่การมาโผล่ที่ชิคาโก้ก็ถือว่าใกล้ถึงรั้วบ้านมากแล้ว
พอตาลุงผมเป๋ประกาศ สายการบินสัญชาติอเมริกันยกเลิกเที่ยวบินไปจีนเลยจ้า สายการบินหลักยักษ์ใหญ่สามสายการบินคือ เดลต้าแอร์ไลน์ อเมริกันแอร์ไลน์ และยูไนเต็ดแอร์ไลน์ประกาศตูมทันทีว่างดเที่ยวบินทุกเที่ยวไปจีน แถมห้ามนักท่องเที่ยวหรือผู้ถือสัญชาติอื่น ที่ไม่ใช่พลเมืองอเมริกันเข้าประเทศโดยเด็ดขาด แบบนี้พวกนศ.จีนที่ถือวีซ่านักเรียนก็คงรับผลกระทบนี้ไปตามกัน
ส่วนพลเมืองเมกาหรือคนที่มีใบเขียว ถ้าจะกลับเมกา แต่มีประวัติว่าเคยไปแถบมณฑลหูเป่ยหรือเมือง อู่ฮั่นเมื่อสองอาทิตย์ก่อน จะถูกกักตัวในเขตควบคุมโรคติดต่อของ CDC เพื่อรอดูอาการว่าติดเชื้อไวรัสหรือไม่ แต่ถ้ามาจากส่วนอื่นของจีน ก็จะถูกกักตัวในบ้านเป็นเวลา 14 วัน
ส่วนคนอเมริกัน 195 คนที่ทางการนำเครื่องบินไปรับมาจากอู่ฮั่นก็ให้กักกันโรคเป็นเวลา 14 วัน การเตรียมการรับมือของตาลุงผมเป๋อีกอย่างคือ บังคับให้ทุกสายการบินที่มาจากจีนลงจอดในสนามบิน 7 แห่งที่กำหนดเท่านั้น
กระทรวงการต่างประเทศอเมริกาออกประกาศเตือนพลเมืองอเมริกาว่าอย่าเดินทางไปเมืองจีน ธุรกิจยักษ์ใหญ่ของอเมริกาที่มีสาขาอยู่ในจีน อย่างแอปเปิ้ลก็ปิดทุกสาขาทั่วจีน ทั้งหมดทั้งมวลทำให้พญามังกรหนวดกระดิก เพราะนอกจากจะไม่ช่วยให้กำลังใจกันแล้ว ยังถอนสมอชักตีนวิ่งหนีอีกต่างหาก โดยเฉพาะมีการออกประกาศเตือนไม่ให้คนอเมริกันไปเมืองจีนหรือคนที่อยู่ในเมืองจีนก็ให้รีบบินกลับมา
"คำพูดและพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯบางคนไม่เป็นจริงและไม่เหมาะสม ทันทีที่องค์การอนามัยโลกคัดค้านการออกข้อจำกัดด้านการเดินทาง อเมริกากลับทำในสิ่งตรงกันข้ามทันที แน่นอนว่ามันไม่ใช่ท่าทางของความปรารถนาดี"
หัว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลง แหม..เรื่องนี้ไม่น่าแปลกใจอะไร น่าจะรู้เช่นเห็นชาติลุงแซมมาตั้งแต่สมัยสงครามเวียตนามแล้วนี่ อาเฮีย พอหมดประโยชน์ก็สะบัดก้นทิ้งไป เอาแต่ประโยชน์ตนเป็นหลัก เคยเห็นหัวใครที่ไหนกัน นาทีนี้ผู้เขียนขอเป็นหนึ่งกำลังใจให้ลูกหลานพญามังกรต่อสู้ไวรัสจนผ่านพ้นภัย นี่ไม่ใช่ปัญหาของชาวจีนแต่เพียงชาติเดียว แต่คือปัญหาของคนทั้งโลกที่ต้องร่วมมือกัน ไม่ใช่วิงหนีเอาตัวรอด
武汉 加油!อู่ฮั่นเจียโหยว-อู่ฮั่นสู้ๆ
中国 加油!จงกั๋วเจียโหยว-จีนสู้ๆ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี