ผมไม่ได้ยินดีกับรัฐบาลคณะนี้ แต่เมื่อมีแล้วและไม่สามารถปฏิเสธเป็นอื่นไปได้ ผมก็เห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเอาแต่ก่นด่า สร้างข่าวเท็จเพื่อทำลายรัฐบาล...ไม่ว่าจะเกลียดชังหรือรังเกียจสักแค่ไหน
ผมไม่ได้ยินดีกับรัฐบาลคณะนี้ด้วยเหตุ 2 ประการ คือ
1 เป็นรัฐบาลที่เอาเปรียบคู่แข่ง โดยการสร้างรัฐธรรมนูญขึ้นมาเพื่อให้พวกตนได้เป็นรัฐบาล นั่นคือการให้มีวุฒิสมาชิกมาจากการเลือกตั้ง และมีสิทธิ์โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
ดังนั้น พวกตนที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาแม้จะน้อยกว่าฝ่ายตรงข้ามก็มีโอกาสที่จะได้เป็นรัฐบาล
แต่ผมก็เข้าใจดีว่าทำไมพวกเขาจึงทำเช่นนั้น และเข้าใจอีกว่าทำไมจึงมีคนสนับสนุนพวกเขาให้เป็นรัฐบาล (ซึ่งสรุปอย่างรวบรัดก็คือ พวกเขาคิดว่าถ้าฝ่ายตรงข้ามเป็นรัฐบาล บ้านเมืองก็จะวุ่นวายอีก ส่วนคนที่สนับสนุนพวกเขาก็ด้วยเหตุเดียวกัน)
2 รัฐบาลนี้มีรัฐมนตรีและ สส. มาจากฝ่ายตรงข้ามเกือบทั้งหมด และไม่ได้มีประวัติผลงานดีเด่นอะไร ตรงกันข้ามหลายคนมีบาดแผลเหวอะหวะจากการคอรัปชั่นมาอย่างโชกโชน แต่ก็ต้องยอมรับว่าพวกเขาได้รับคะแนนเสียงของประชาชนเข้ามา
เรายอมรับกันมานานแล้วว่า “การเลือกตั้งคือประชาธิปไตย”! เพราะฉะนั้นใครจะดีจะชั่วอย่างไรก็ต้องยอมรับ ถ้ายังไม่ติดคุก
ส่วนนักการเมืองหน้าใหม่ที่สังคมมุ่งหวังว่าจะเป็น “คุณภาพใหม่” ก็มีน้อยเกินไป แย่กว่านั้นที่ได้มาก็เหมือนสติไม่สมประกอบบ้าง อวดรู้ทั้งที่ไม่รู้บ้าง บ้างก็สงบเสงี่ยมอยู่ในโอวาทของหัวหน้าพรรคหรือนายทุนพรรค บ้างก็ตั้งหน้าตั้งตาจะเปลี่ยนแปลงการปกครองอยู่ร่ำไป มองอะไรที่ไม่ได้อย่างใจตนก็เฮงซวยหมด โดยไม่สนใจหน้าที่ของตนในปัจจุบันคือแก้ปัญหาในประเทศชาติเป็นหลัก
สุดท้าย...โดยรวมแล้วไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองใหม่หรือนักการเมืองเก่าก็คละกันจนดูเน่าๆไปทั้งสภา และเมื่อดูผลงานก็ให้เสียดายเงินภาษีที่เป็นเงินเดือนและค่าใช้จ่ายอื่นๆให้พวกเขา
ถึงผมจะไม่ยินดีกับรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมทั้งนักการเมืองอื่นๆทั้งหมด แต่ผมก็ยอมรับว่าพวกเขาได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน การจะเอาแต่ก่นด่าหาวิธีทำลายล้างอย่างที่กระทำกันอยู่นั้นไม่ได้ทำประโยชน์อะไรแก่ประเทศชาติเลย
พวกนักการเมืองเล่นพรรคเล่นพวกและก่นด่ากัน ก็เป็นการฉุดทุกอย่างให้แย่ลงอยู่แล้ว ปัญหาที่จะต้องได้รับการแก้ไขก็เนิ่นช้า หรือถูกละเลย
เลวร้ายกว่านั้น...พวกกองเชียร์นักการเมืองที่สร้างแต่เรื่องเท็จจนท่วมทับเรื่องจริง ก็ทำให้สังคมรับรู้แต่เรื่องเท็จและสับสน ปัญหาที่แท้ไม่ได้มาสู่ประชาชนได้รับรู้ สังคมจึงเสียโอกาสที่จะได้เรียนรู้และมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาด้วยการแสดงความคิดเห็น
ความเกลียดชังและการก่นด่าไม่ได้ทำให้สังคมดีขึ้น ซ้ำยังทำให้จิตตนเคร่งเครียดมืดดำมากขึ้นอีกด้วย มันจะบดบังแสงแห่งสติปัญญาในที่สุด จนกลายเป็นพวกโง่เง่าทึมทึบ ไม่มีวิจารณญาณอีกต่อไป
เมื่อพวกเขา...ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านได้รับเลือกตั้งมา ประชาชนก็ต้องให้พวกเขาทำหน้าที่ของตนไปจนกว่าจะหมดวาระ
ดีชั่วอะไรก็ว่ากันไปทีละเรื่อง ทีละประเด็น
และต้องคอยผลักดันประเด็นหรือปัญหาสาธารณะต่างๆให้พวกเขาจัดการ จะคัดค้านหรือจะเห็นด้วยก็ขอให้มีข้อมูล - มีเหตุผลสนับสนุน
ใครที่เกลียดชังรัฐบาลก็ยิ่งต้องเคี่ยวเข็ญพวกเขาให้ทำงานหนัก ถึงสมัยเลือกตั้งต่อไปก็ไม่ต้องเลือก คิดเสียว่าเป็นการแก้แค้นเอาคืน!
ด้วยวิธีนี้...ประชาธิปไตยจึงจะมีคุณค่า การเลือกตั้งพวกเขามาจึงจะมีประโยชน์
วิมล ไทรนิ่มนวล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี