ต้องเริ่มจากรัฐบาล !
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พรรคภูมิใจไทย หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลออกมาแถลงเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา และแสดงการไม่เห็นด้วยกับการคุกคาม ประชาชน ไม่ว่าจะในรูปแบบใด พร้อมกันนั้นก็บอกว่าจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ตอนเข้าร่วมรัฐบาล นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ ก็แถลงต่อสภาไว้แล้ว
การออกมาแถลงของพรรคร่วมรัฐบาลเช่นนี้เหมือนกับการส่งสัญญาณให้เห็นถึงเสถียรภาพรัฐบาลผสมว่าอยู่ในสภาพอย่างไร
อีกไม่นานต่อมา พรรคประชาธิปัตย์ พรรคร่วมรัฐบาลอีกพรรคหนึ่ง ออกมาไม่เห็นด้วยกับการจัดงบประมาณเพื่อซื้อเรือดำน้ำ โดยจะให้รัฐบาลชะลองบประมาณนี้ไปก่อน โดยอ้างว่าเรากำลังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจ ควรจะห่วงปากท้องของประชาชน
นี่ก็เป็นปัญหาที่กระทบกระเทือนถึงเสถียรภาพของรัฐบาลเช่นเดียวกัน
นี่ว่ากันตามทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติ รัฐบาลก็ยังดำรงอยู่ต่อไป พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา ก็ยังเดินหน้าบริหารงานต่อไป พรรคร่วมรัฐบาลก็ร่วมรัฐบาลต่อไป เหมือนกับตอนที่ผู้ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐหลุดจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และหลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรี
รัฐบาลก็ดำเนินต่อไป ดำรงอยู่ต่อไป
เสียงกระหึ่มให้ยุบสภาก็ดี ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคการเมืองต่างๆ ทั้งพรรรคร่วมรัฐบาล ทั้งฝ่ายค้านก็ดี เป็นเสียงกระหึ่ม เพื่อสอดรับสถานการณ์ เท่านั้นเอง
นักเรียนนักศึกษา เรียกร้องให้แก้รัฐธรรมนูญ ไม่ได้ระบุหมวดไหน มาตราไหน
พรรคฝ่ายรัฐบาลก็ไม่ต่างกับเด็กนักเรียนนักศึกษา
พรรคฝ่ายค้านยังขัดแย้งกันอยู่ว่าจะเอาหมวดนั้นหรือจะไม่เอาหมวดนี้
แต่ยังไม่มีใครเสนอวิธีที่จะผ่านด่านอรหันต์สำคัญไปได้คือ 250 เสียงของวุฒิสภา จะให้มาเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร ?
250 เสียงของวุฒิสภา นอกจากภาระสำคัญคือการโหวตลงมติให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วภาระหน้าที่ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ พิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญฉบับนี้เอาไว้ให้อยู่อย่างนี้ (ไม่ต้องมีการแก้ไข) ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้
ก็ยากที่จะมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง
ผู้ที่คิดจะแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องฝ่าด่านนี้ให้ได้เสียก่อน
จะฝ่าไปได้อย่างไร ?
ก็ต้องทำให้ รัฐบาล (หรือที่มาที่ไปก็คือ คสช. ) ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดวุฒิสภา ตามที่ นายมีชัย ฤาชุพันธ์ร่างเอาไว้ เห็นดีเห็นงาม เห็นสมควร ที่จะต้องมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแล้ว
หรือพูดง่ายๆตรงๆก็คือ “สมควรแก่เวลาแล้ว !”
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ พลเอก ประยุทธ์ ทั้งบอก ทั้งแต่งเพลงปลอบประโลม ขอเวลาอีกไม่นาน นั้นผ่านเวลามายาวนาน 6 ปี แล้ว
เป็นรัฐบาลที่มีอำนาจเด็ดขาดด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 44 ก็เป็นมาแล้วเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ และมาตามวิถีประชาธิปไตย (ตามรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้) ก็ไดทำแล้ว บัดนี้จะก้าวไปอีกก้าวด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น ก็ยิ่งจะเป็นเรื่องดี
5/6 ปีที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ ได้แก้ไขปัญหาบ้านเมืองหลายด้าน ที่สำคัญคือไม่ทำให้เกิดสงครามกลางเมืองระงับปัญหาคนไทยฆ่ากันเอง
ผลงานชิ้นสำคัญอีกอย่างก็คือการเผชิญกับ ไวรัสโควิด / 19 ที่ทั้งโลกเผชิญ จนได้รับคำยกย่องจากทั่วโลก
ขณะเดียวกันก็มีปัญหาที่ยังแก้ไม่ตก แก้ไม่ได้ เหลือเอาไว้ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกคน ทุกรัฐบาล ทุกผู้นำรัฐบาลทั่วโลกก็จะเป็นอย่างนี้ ในทุกระบบ ทุกระบอบของการปกครอง
แก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการเริ่มจากรัฐบาล จะเจ็บปวดน้อยที่สุด
เชื่อเถอะครับ
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี