อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าคาดกันว่าจะมีการชุมนุมใหญ่ของนักเรียนนิสิตนักศึกษาและประชาชน มีหลายต่อหลายคนถามผมว่า คิดยังไง เหตุการณ์จะรุนแรงไหม บ้านเมือง เราจะเป็นยังไง จะไปทางไหน ?
เป็นหลายคำถาม และก็หลายคำตอบ
เราไม่อาจคาดการณ์ได้หรอกครับว่า การชุมนุมจะใหญ่โตแค่ไหน มีผู้คนเข้าร่วม หลักร้อย หลักพัน หลักหมื่น หรือเป็นแสนเป็นล้าน ดูจากภาพข่าวหนังสือพิมพ์ หรือโทรทัศน์ บางทีก็เชื่อได้ บางทีก็เชื่อไม่ได้ ต้องดูหลายปัจจัยรวมๆ
คนที่จัดการชุมนุมในแต่ละครั้งก็ต้องโอ่เอาไว้ก่อนแหละครับ เพื่อให้ดูใหญ่โต น่าเกรงขามn แต่เท่าที่เห็นมาตั้งแต่การชุมนุมคัดค้านการเลือกตั้งสกปรก 2500 การชุมนุมการคัดค้านการลบชื่อนักศึกษารามคำแหง การคัดค้านการจับกุมนักศึกษาประชาชนที่เรียกร้องรัฐธรรมนูญ เดือนตุลาคม 2516 การคัดค้านการกลับมาของสามเณรถนอมจนเกิดเหตุ 6 ตุลาคม 2519 การคัดค้านการสืบทอดอำนาจของ รสช. การคัดค้านทักษิณของพันธมิตร การชุมนุมของ นปช. ปี 2553 ที่บอกว่าจะพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน การชุมนุมของ กกปส. เมื่อปี 2556/2557 ล้วนเป็นการชุมนุมที่ยิ่งใหญ่ มีผู้คนเข้าร่วมเป็นหมื่นๆแสนๆทั้งนั้น
ไม่แน่ การชุมนุมในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ อาจจะลบสถิติการชุมนุมที่ผ่านๆมาแล้วก็ได้
อาจจะเพราะเคยชินกับการชุมนุมใหญ่ๆ เบิ้มๆ ที่ผ่านมาแล้วในอดีตก็ได้ ผมจึงรู้สึกเฉยๆ ไม่ตื่นเต้น ไม่ยินดียินร้าย กับการชุมนุมครั้งนี้ และที่จะเกิดขึ้นต่อไปอีกในอนาคต
ส่วนประเทศชาติบ้านเมืองเราจะไปอย่างไร ก็ไปอย่างที่เห็นทุกวันนี้แหละครับ
เราเคยคัดค้านการเลือกตั้งสกปรก 2500 เพราะบางเขตเลือกตั้งนับคะแนนข้ามวันข้ามคืนยังไม่เสร็จ เราเชื่อว่ามันต้องสกปรก มันต้องลงคะแนนกันแบบที่เรียกว่า พลร่ม ไพ่ไฟ ประชาชนจึงลุกขึ้นสู้ เปิดทางให้สฤษดิ์ยึดอำนาจจาก ป. พิบูลสงคราม สฤษดิ์ให้เราเลือกตั้งไม่กี่ครั้งก็ยึดอำนาจเอาไว้จนตาย ถนอมสืบอำนาจต่อ เกือบสิบปี แล้วผ่อนคลายให้เลือกตั้ง แล้วไม่นานก็ยึดอำนาจจนเกิด 14 ตุลาคม 2516
เปิดทางให้กลุ่มที่สูญเสียอำนาจสมัย 2500 คือกลุ่ม ราชครู ที่หนีไปทำมาค้าขาย ทำโรงทอผ้าบ้าง ไปเป็นทูตบ้าง กลับมาใหญ่อีก
นักศึกษาประชาชนที่ลุกขึ้นสู้ไปเป็นนักวิชาการบ้าง นักการเมืองบ้าง และต้องหนีเข้าป่าหลัง 6 ตุลาคม 2519
หลังจากนั้นต่างก็สรุปบทเรียน ทหารก็ค่อยๆทยอยกลับเข้ากรมกอง นิสิตนักศึกษาที่เข้าป่าทยอยกลับเข้าเมือง ส่วนหนึ่งมาเป็นนักธุรกิจ มาเป็นนักวิชาการ และส่วนหนึ่งมาเป็นนักการเมือง
ที่พอจะมีชื่อมีเสียงมีฐานะมั่งคั่งมั่นคง ส่วนหนึ่ง ก็พวกที่มาขายชีวิตขายวิญญาณให้นายทุนใหญ่ที่มาเป็นการเมือง คือ ทักษิณ ชินวัตร
บทเรียนที่แต่ละฝ่ายสรุปได้ก็คือ การเกาะเกี่ยวกับอำนาจ เกาะเกี่ยวกับการเมือง
ทหารที่เคยบอกไม่ชอบการเมือง ก็รู้ว่า การเมืองทำให้ตัวมีอำนาจ ถ้าไม่เล่นโดยตรงก็เป็นลูกน้อง เป็นกลุ่ม เป็นพวกเขาก็ยังดี
นักธุรกิจพ่อค้า รู้ว่า การเมือง ทำให้มีฐานะมั่นคง มั่งคั่ง เข้าถูกช่อง ถูกทางก็สร้างฐานะได้ มั่นคงได้
นักเรียนนิสิตนักศึกษา วันนี้ยังไม่สรุป เพราะประสบการณ์ยังน้อย ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง ยังนึกถึงบ้านถึงเมือง นึกถึงประชาธิปไตย ใสสะอาด
อ้อ บางคนอาจจะสรุปได้แล้วว่า การเคลื่อนไหวเหล่านี้เป็นช่องทางทำมาหากินชนิดหนึ่ง
แต่ไม่ว่าจะสรุปได้หรือไม่ได้ในวันนี้ วันหนึ่งข้างหน้าเขาก็ต้องสรุปได้ว่า ชีวิต เพื่อส่วนรวม เพื่อชาติบ้านเมืองนั้นจะต้องดำรงอย่างไร เกียรติยศเกียรติศักดิ์ ความเป็นมนุษย์ ต้องอย่างไร
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี