นับตั้งแต่ที่ ทักษิณ ชินวัตร สูญเสียอำนาจไปตั้งแต่กันยายน 2549 เมื่อมีเทศกาลสำคัญๆ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ หรือ วันเกิดของเขา ทักษิณ ชินวัตร จะมีข่าวคราวเป็นประจำถึงพี่น้องประชาชนคนไทยเป็นประจำ
ศักราชใหม่ 2564 นี้ก็เช่นเดียวกัน โดยเริ่มเป็นข่าวตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม เริ่มด้วยการออกมาตัดพ้อต่อว่าคนสำคัญๆในพรรคเพื่อไทย ที่ถอนตัวออกจากพรรค ในขณะที่เขาต้องระเหเร่ร่อนอยู่ต่างแดน
เขาพูดถึงการตั้งพรรคไทยรักไทยเป็นทำนองว่ารวบรวมผู้ที่มีความคิดความอ่านที่จะเสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง
เป็นการพูดเหมือนทุกๆครั้งเพื่อที่จะเอาเด่น เอาดี พูดโดยที่ไม่รู้สึกเขิน ไม่รู้สึกอาย แม้แต่น้อยว่าผู้คนทั้งหลายที่เขาติดตามข่าวสารบ้านเมือง ที่เขามีความคิดความอ่าน และที่สำคัญที่ไม่ใช่ ขี้ข้าในเรือนเบี้ยของตัว จะรู้สึกสมเพชเวทนา จะรู้สึกขยะแขยง เพราะข้อเท็จจริงก็คือ เขาตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเพื่อเอาชนะการเลือกตั้ง เพื่อที่จะเป็นรัฐบาล เมื่อเป็นรัฐบาลก็แสวงหาประโยชน์เพื่อให้ครอบครัวของตัวที่ร่ำรวยอยู่แล้ว ร่ำรวยขึ้นอีก เอาเงินที่ได้จากความร่ำรวยนั้นต้อนวัวต้อนควายเข้าคอก ซื้อพรรคการเมืองอื่น ซื้อนักการเมืองรายตัว ข้อเท็จจริงที่ชาวบ้านเห็นก็คือ ทักษิณมันซื้อทั้งพรรค และมันก็ไม่ได้ซื้อพรรคเดียว
ซื้อพรรคการเมืองได้แล้ว มันก็เข้าไปซื้อองค์กรอิสระ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) ติดคุกตอนแก่เพราะมัน คราบไคลยังปรากฏให้ผู้คนทั้งหลายเห็นอยู่ในทุกวันนี้
เมื่อรัฐบาลของมันมีเสียงข้างมาก มันก็กำหนดนโยบายเพื่อประโยชน์ของมัน เพื่อสร้างความร่ำรวยให้มัน ผลก็คือ นักการเมืองที่ทำตัวเป็นขี้ข้าให้มัน หลายคนต้องติดคุก อย่าให้ต้องเอ่ยชื่อเป็นเสนียดปากเลย บางคนออกจากคุกมาแล้วก็สงบเสงียม บางคนก็ยังยอมเป็นขี้ข้าต่อไป เพราะสำนึกในบุญคุณของมันที่แบ่งน้ำแกงให้ บางคนนอกจากที่มันแบ่งน้ำแกงให้แล้ว ก็ยังเอาตำแหน่งแห่งที่เจือจานด้วย ได้เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี ได้อยู่ในสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการ
หรือใครจะเถียงในข้อเท็จจริงเหล่านี้ ?
คนที่รู้กำพืดมันดีที่สุด น่าจะเป็น พลตรีจำลอง ศรีเมือง ที่คบหากับทักษิณมาก่อนที่มันจะเข้าสู่การเมือง และก็พลตรีจำลอง นี่แหละ ที่ยกตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้มัน ตอนที่พรรคพลังธรรมร่วมรัฐบาล นายชวน หลีกภัย
ไม่แต่ยกตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พรรคพลังธรรม ทั้งพรรคยังยกให้ หากแต่ระเบียบ วินัยของพรรคพลังธรรม ไม่คล่องตัว พูดกันอย่างตรงไปตรงมาก็คือ จะทำมาหาแดกลำบากหรอก มันจึงมาคิดตั้งพรรคใหม่ เป็นพรรคไทยรักไทย (อย่ามาโม้เลยที่ว่าคิดตั้งพรรคเพื่อชาติ เพื่อบ้านเพื่อเมือง พฤติกรรมมันเห็นกันอยู่โต้งๆ)
เมื่อไม่กี่วันมานี้ มีข่าวจากทักษิณอีก เป็นทำนองว่า อยากจะวางมือทางการเมือง อยากจะกลับประเทศไทย อยากมาเลี้ยงหลาน
ทักษิณเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นคนไทย มันย่อมกลับประเทศไทยได้อยู่แล้ว ไม่มีข้อห้าม ไม่มีกฎระเบียบอันใดห้ามมันเข้ามาในประเทศ
แต่มันก็ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกับประชาชนทั้งหลายทั้งปวง คดีที่ศาลตัดสินไปแล้วคือคดีที่ดินรัชฎา ที่หลายคนมักจะพูดว่า เมียซื้อ ทำไมผัวต้องติดคุก นั้น เพราะคนพูดมันทำตัวเป็นขี้ข้าทักษิณ
ถ้าทำตัวเป็นอิสระชน ก็จะพบความจริงว่า เมียซื้อ ผัวติดคุกนั้น เพราะผัวมันเป็นนายกรัฐมนตรีตอนที่เมียมันซื้อ มันใช้อำนาจหน้าที่ช่วยเมียมันทุกอย่าง แม้กระทั่ง วันที่ 31 ธันวาคม มันก็ประกาให้เป็นวันทำงาน เพื่อมันจะให้เมียมันโอนที่ดินก่อนสิ้นปี
ไม่เช่นนั้นภาษีการโอนจะเพิ่มขึ้นอีก
เอาแค่นี้แหละไม่ต้องเอารายละเอียดว่าที่ตรงนั้นสร้างตึกสูงได้กี่ชั้น พอเป็นของเมียมันแล้วยกเลิกข้อห้ามนี้อย่างไร
ที่จริงผมเลิกพูดถึงมันมานานแล้ว แต่บรรดาขี้ข้าม้าใช้ของมัน และตัวมันแหละออกมาเคลื่อนไหว ก็ต้องเอาเสียหน่อย มันเหมือนสงครามความคิด สงครามที่ยังไม่จบ
เพราะยังมีขี้ข้าของมันอีกเยอะ ที่จะต้องเอาความจริงมาสู้กัน !
สำเริง คำพะอุ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี