พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโจ ไบเดน ผ่านไปด้วยดี ท่ามกลางพิธีอันทรงเกียรตินี้ กวีวัยเยาว์อายุเพียง 22ปีอ่านบทกวีในงาน เนื้อหาและลีลาการอ่านบทกวี “ภูผาที่เราป่ายปีน” หรือ The Hill We Climb ส่งผลให้ชาวโลกหลงรักเธอในพลัน อแมนดา กอร์แมน วัย 22 ปี คือผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศรางวัลบทกวีระดับชาติคนแรกบทกวีที่เธอแต่งและนำมาอ่านในงานระดับชาติครั้งนี้ ชื่อ 'The Hill We Climb' หรือความหมายภาษาไทย "ภูผาที่เราฝ่าข้าม"ทำให้เธอได้รับการกล่าวขวัญและชื่นชมทั่วโลก ดร. จิล ไบเดนสตรีหมายเลขหนึ่ง เป็นผู้เลือกให้เธอได้รับโอกาสในครั้งนี้ผู้เขียนแปลแบบถอดความเป็นภาษาไทยและสื่อไทยอเมริกาสยามทาวน์ยูเอสได้นำไปลงในเวบไซด์ อินสตราแกรมและยูทูป จึงนำมาเผยแพร่ในคอลัมน์ตนเองด้วย
....................................
“ภูผาที่เราฝ่าข้าม”
โดยอแมนด้า กอร์แมน แปลโดยเจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้
เมื่อถึงเวลาหนึ่งเราถามตนเองว่า ณ ที่แห่งใดจะฉายแสงงามท่ามกลางเงามืดอันไม่รู้สิ้น
ท่ามกลางความสูญเสียทั้งมวลที่แบกรับ
ท่ามกลางกระแสคลื่นคลั่งที่ถาโถม
หลังโมงยามวิกฤตินานัปการ...เราคือผู้รอดชีวิต
ต่างเรียนรู้ว่าความเงียบงันหาใช่สันติภาพ
ดุจเดียวกับบรรทัดฐานแห่งสังคม
และใช่ว่าทุกเรื่องราวจะได้รับความยุติธรรมเสมอไป
อรุณรุ่งมาถึงก่อนความคาดหมาย
เราฝ่าฟันจนลุล่วงภารกิจ
แม้ว่าชาติจะยังไม่ล่มสลายแต่บอบช้ำสาหัส
เป็นหน้าที่เราต้องซ่อมแซมฟื้นฟู
ณ ที่แห่งนี้ เด็กสาวร่างเล็กผิวดำผู้สืบสายสกุลทาส
เติบโตจากการเลี้ยงดูของมารดาเพียงลำพัง
สามารถฝันใฝ่ถึงอนาคตว่าสักวันจะได้เป็นประธานาธิบดี
และขณะปัจจุบันกำลังอ่านบทกวีให้ประธานาธิบดีฟัง
แน่นอนว่านาทีนี้ชาติเรายังหม่นหมอง ห่างไกลจากความงามบริสุทธิ์สดใส
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า
เรามุ่งหมายสร้างชาติไปสู่ความสมบูรณ์แบบ
หากแต่เรามุ่งมั่นสร้างชาติที่เอื้อต่อผู้คนทุกวัฒนธรรม ทุกสีผิว
และทุกผู้นามแห่งความเป็นมนุษย์
เรามิได้ทอดสายตาสู่เรื่องราว “ระหว่าง” กัน
หากมุ่งหวังภาพเบื้องหน้า
ลดช่องว่างและความแบ่งแยกลง
เพราะตระหนักว่า ณ ปัจจุบันจะต้องมองไปในทิศทางแห่งอนาคต
จำเป็นต้องลดทัศนคติอันแตกต่าง
ด้วยการลดอาวุธในมือลงเพื่อเอื้อมจับมือผู้อื่นแทน
เรามองหาความสมานฉันท์มิใช่การมุ่งร้าย
โลกนี้มิใช่ใดอื่นหากคือพจน์แห่งสัจจะ
ท่ามกลางความโศกเศร้า..เราเติบโต
ท่ามกลางความปวดร้าว..เราถวิลหวัง
ท่ามกลางความอ่อนล้า..เราเพียรพยายาม
เมื่อต่างกลมเกลียวนั่นคือชัยชนะ
มิใช่เพราะเรามิรู้พ่ายอีกครา... หากแต่จะไม่แบ่งแยกแตกร้าวอีกต่อไป
ในไบเบิ้ลระบุว่าทุกคนพึงพักใต้ร่มเถาองุ่นและมะเดื่อ
โดยปราศจากความหวาดหวั่น
หากดำรงชีวิตได้ตามกาลเช่นนั้น...จะมิต้องหวาดหวั่นต่อคมดาบใด
เพราะโลกนี้คือสะพานที่เรารังสรรค์ร่วมกัน
นี่เองคือพันธะสัญญา... คือภูผาที่ต้องป่ายปีนด้วยความกล้าหาญ
ความเป็นอเมริกันคือสถานภาพอันสูงค่ากว่าเกียรติยศตกทอด
นี่คือถนนอันก้าวย่างและพึงซ่อมแซมวิถีที่ผ่านทาง
ภาพที่เราเห็นคือการทำลายมากกว่าการแบ่งปัน
สิ่งเหล่านี้ทำให้ชาติพินาศมากกว่ามุ่งสู่ประชาธิปไตย
เพราะถูกดึงหน่วงให้ช้าลง
ความพยายามทำลายล้างเกือบประสบผลสำเร็จ
แต่ขอให้มั่นใจว่าแม้วิถีประชาธิปไตยถูกหน่วงรั้งจะไม่พ่ายแพ้ภินท์พัง
เชื่อมั่นศรัทธาในอนาคตที่เราจับจ้อง
ประวัติศาสตร์ยังคงสืบสาย และนี่คือประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งชาติ
พึงเคารพจุดเริ่มต้น...เราไม่พร้อมรับมือกับการสืบทอดห้วงกาลอันหวาดหวั่น
แต่ได้ค้นพบพละกำลังในการจารบันทึกหน้าใหม่ในประวัติศาสตร์
อันเต็มไปด้วยความวาดหวังและรื่นรมย์
เมื่อถามว่าจะเอาชนะความวิบัตินี้อย่างไร
นาทีนี้สามารถตอบได้ว่า
เราจะไม่ยอมให้ความหายนะมีชัยเหนือเรา
จะไม่เดินย้อนหลังกลับไป.. แต่จะก้าวไปในเส้นทางที่ควรเป็น
เราจะไม่หันหลังกลับเพื่อซ้ำรอยเดิม..แต่จะมุ่งสู่ทิศทางอันเหมาะควร
แม้ว่าประเทศบอบช้ำแต่ยังรวมเป็นหนึ่ง..อ่อนโยนแต่หนักแน่น
มั่นคงและเสรี
เราจะไม่หันหลังกลับ หากถูกขัดขวางข่มขู่
ด้วยตระหนักว่าหากปล่อยผ่าน
ปัญหาจะกลายเป็นภาระของคนรุ่นหลัง
เมื่อใช้เมตตาขับเคลื่อนทุกการกระทำ
เปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นความถูกต้อง
ความรักจะกลายเป็นมรดกตกทอด
ให้เกิดความเปลี่ยนแปลงสู่ชนรุ่นต่อไป
โปรดส่งต่ออนาคตชาติอันงดงามกว่าปัจจุบันสู่ลูกหลาน
ส่งต่อลมหายใจทุกขณะกาล
เราจะเปลี่ยนโลกเกลื่อนริ้วรอยบาดแผลให้กลายเป็นโลกที่น่ามหัศจรรย์
เราหยัดยืนบนภูผาอันปูลาดด้วยทองคำทางฝั่งตะวันตก
เราหยัดยืนท่ามสายลมบนดินแดนด้านตะวันออกเฉียงเหนือ
ณ ที่ซึ่งบิดาแห่งการปฎิวัติรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียว
เราลุกขึ้นขานรับจากดินแดนแห่งทะเลสาบจากรัฐด้านตะวันตกกลาง
ลุกยืนขึ้นจากรัฐทางใต้อันโชนแสงตะวัน
เพื่อจะร่วมมือฟื้นฟูชาติด้วยกันทุกแห่งหน
ทุกมุมเมืองที่เราขนานนามว่าคือ "ชาติ"
ทุกผู้นามจะขานรับเพื่อฟื้นฟูประเทศ
ในห้วงยามแห่งความรันทดและงดงาม...
เราจะก้าวออกจากเงาหม่นอย่างองอาจปราศจากความหวาดกลัว
อรุณรุ่งวันใหม่จะฉายฉานปลดปล่อยเราเป็นอิสระ
ตะวันยังคงทอแสง ..เพียงแต่เราต้องกล้าสัมผัส
และกล้าดำรงตนท่ามกลางความสว่างไสวงดงามนั้น
ดูการอ่านบทกวีและบทแปลได้ในลิงค์นี้ค่ะ
https://www.youtube.com/watch?fbclid=IwAR0xVmsqIEydX2gcANtY7t-8MVLU_-TaMUeCU4auguK3wJdq3Xg_bgfSYMA&v=9_GU9gx7eMg&feature=youtu.be
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี