นับเป็นเรื่องเสียหน้าเป็นอย่างมากสำหรับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเมื่อคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)มีมติด้วยเสียง 6 ต่อ 1 หักดิบข้อเสนอของรัฐบาลที่พยายามกดดันให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% โดย กนง.ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% เหมือนเดิม
ก่อนหน้านี้รัฐบาลผ่านทาง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง ที่รวมหัวกับ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการธปท. พยายามกดดันให้ ธปท.ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 0.25% โดยอ้างว่าเพื่อสกัดเงินทุนจากนอกประเทศที่ไหลเข้าจนทำให้ค่าเงินบาทแข็งอันอาจนำไปสู่วิกฤติฟองสบู่ ขณะที่ ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าฯ ธปท. กลับเห็นว่าปัญหาเงินบาทแข็งค่าในขณะนี้ยังอยู่ในภาวะที่ธปท.ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้และการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพราะกลับจะยิ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม
ถ้าจะว่าไปแล้วศึกงัดข้อเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายระหว่าธปท.กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเปรียบเสมือนสงครามตัวแทนระหว่างธปท.ซึ่งเป็นธนาคารแห่งชาติที่ดำรงความเป็นอิสระกับฝ่ายการเมืองคือรัฐบาลพรรคเพื่อไทยผ่าน นายกิตติรัตน์ และ ดร.วีรพงษ์ โดยผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังรัฐบาลก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้มีบารมีเหนือรัฐบาล ที่หมายตาหวังยึด ธปท.ไว้ในอุ้งมือเพื่อให้ระบอบทักษิณคุมอำนาจทุกสถาบันหลักของชาติอันจะนำไปสู่การยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
เป้าหมายสำคัญในการยึด ธปท.ก็คือเงินคงคลังของแผ่นดินจำนวนมหาศาลที่เก็บไว้ใช้ในยามบ้านเมืองเกิดวิกฤติด้านเศรษฐกิจ แต่เนื่องจาก 1 ปี 6 เดือนที่รัฐบาลหุ่นเชิดชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศได้ผลาญงบประมาณแผ่นดินและก่อหนี้มหาศาลไปกับสารพัดโครงการประชานิยมทั้งหลาย จนรัฐบาลอยู่ในภาวะถังแตกใกล้ล่มจมเข้าไปทุกขณะ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเล่นแร่แปรธาตุด้วยการยึดธปท.เพื่อนำเงินคงคลังของแผ่นดินมาละเลงไปกับสารพัดโครงการประชานิยมและโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ต่อไป ซึ่งนอกจากเพื่อสร้างคะแนนนิยมทางการเมืองแล้วยังเป็นการเปิดช่องให้มีการทุจริตอย่างมโหฬาร
นักวิเคราะห์เชื่อว่า การที่ฝ่ายรัฐบาลพยายามกดดันให้ ธปท.ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นการเดินแผนเพื่อที่จะหาข้ออ้างรุกฆาตหวังยึดอำนาจ ธปท. โดยเป้าหมายคือการจ้องปลดฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ ธปท. ท่ามกลางข่าวลือสะพัดมาจากแดนไกลว่า นายใหญ่ผู้มีบารมีเหนือรัฐบาลไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ผู้ว่าฯธปท.คนปัจจุบันทำตัวเป็นกว้างขวางคอเหมือนหมูเขาจะหาม ดันเอาคานเข้ามาสอด เพราะฉะนั้นต้องถูกกำจัดทิ้ง
สำหรับ ดร.ประสาร นั้นถือเป็นนักบริหารที่มีประวัติใสสะอาดซื่อสัตย์สุจริตและมีความรู้ความสามารถจนประสบความสำเร็จในอาชีพนักบริหารโดยจบการศึกษาชั้นปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นได้รับทุนมูลนิธิอนันทมดิดลไปศึกษาต่อด้านเศรษฐศาสตร์ในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด สหรัฐอเมริกา ซึ่งก่อนที่จะมาเป็นผู้ว่าฯ ธปท.ได้ลาออจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกสิกรไทย
เพราะฉะนั้นสถานการณ์จากนี้ไปต้องจับตาอย่ากะพริบ เพราะสถานการณ์เหมือนฝนฟ้าคะนองตั้งเค้าทะมึนก่อนพายุใหญ่จะมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ กนง.มีมติฉีกหน้ารัฐบาลหุ่นเชิด และนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการหาข้ออ้างเพื่อรุกฆาตปลดผู้ว่าฯธปท.ฐานกระด้างกระเดื่องเป็นอุปสรรคต่อการบริหารงานของรัฐบาล
ทั้งๆที่เป้าหมายแอบแฝงที่แท้จริงก็คือระบอบทักษิณต้องการยึดธปท.หวังถลุงเงินคงคลังแผ่นดินและปูทางไปสู่แผนยึดประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในอนาคต
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี