คดีรถหรูเถื่อนราคาแพงระยับหลายคันที่เกิดไฟลุกท่วมก่อนที่จะนำไปส่งยังจุดหมายปลายทางที่จ.ศรีสะเกษเมื่อหลายวันก่อนกำลังกลายเป็นข่าวใหญ่บานปลายและทำท่าจะทำลายภาพพจน์ความน่าเชื่อถือของรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณภายใต้การนำของนายกฯนกแก้วยิ่งลักษณ์ ชินวัตรจนย่อยยับ เพราะคดีอื้อฉาวนี้ซ่อนไว้ด้วยเบื้องหลังความลับใหญ่โตระดับชาติเพราะมีข่าวว่ามีส่วนพัวพันโยงใจกับนักการเมืองผู้มีอำนาจระดับ”บิ๊ก”ในรัฐบาล
ประเด็นที่ผู้คนในสังคมจับตาก็คือเรื่องนี้ฝ่ายตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)จะคลี่คลายคดีสาวไปจนถึง”บิ๊ก”นักการเมืองที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ โดยเชื่อว่าเรื่องนี้จะต้องมี “บิ๊ก”
ระดับชาติพัวพัน เพราะคดีนี้ส่อพิรุธตั้งแต่แรกโดยหลังเกิดเหตุไฟลุกท่วมรถหรูหลายคันปรากฏว่า หลายฝ่ายกลับส่อเจตนาปกปิดทั้งคนขับรถพ่วงที่อ้างไม่รู้อะไรสักอย่างทั้งเจ้าของรถที่ว่าจ้างให้นำรถไปส่งก็ไม่รู้เป็นใครและไม่รู้แม้กระทั่งคนที่รอรับรถ ขณะที่ฝ่ายตำรวจ รวมทั้งขนส่งจังหวัดศรีสะเกษซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของรถก็โบ้ยกันไปมาพยายามอ้างว่าไม่รู้ลูกเดียว และเรื่องทำท่าจะหายเข้ากลีบเมฆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่เผอิญเรื่องอื้อฉาวเริ่มแดงจากการขุดคุ้ยของสื่อ บรรดาตัวแทนงานที่เกี่ยวข้องถึงได้รีบออกมาล้อมคอกทำทีขึงขังที่จะคลี่คลายคดีอย่างจริงจังกันใหญ่ พร้อมกับคำสั่งย้ายขนส่งจังหวัดศรีสะเกษที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นแพะสังเวยที่ถูกเชือดเพื่อตัดตอนไม่ให้สาวไปถึงเจ้าของรถตัวจริง
ล่าสุดจู่ๆ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน ก็ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อปฏิเสธข่าวที่ว่าลูกชายของตัวเองนำเข้ารถหรูเถื่อนดังกล่าว
นอกจาก นายเผดิมชัย ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลูกของนักการเมืองใหญ่ “เจ๊ ด” ทำธุรกิจลักลอบนำเข้ารถหรูเถื่อนแบรนด์เนมราคาแพง โดยที่หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องก็รู้แต่ทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่กล้าแตะต้อง ซ้ำบางหน่วยงานคอยอำนวยความสะดวก
กรณีนำเข้ารถหรูเถื่อนครั้งล่าสุดนี้หากไม่ใช่เพราะเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รถจนเป็นข่าวครึกโครมเสียก่อนก็เชื่อได้เลยว่า ธุรกิจนำเข้ารถหรูเถื่อนก็ยังดำเนินต่อไปตามปกติ โดยไม่มีหน่วยงานใดสนใจที่จะติดตาม และที่น่าแปลกใจก็คือ ดีเอสไอเปิดเผยว่าปัจจุบันมีรถหรูเถื่อน
แบรนด์เนมยี่ห้อดังต่างๆที่ลักลอบนำเข้ารวมแล้วประมาณ 7,000 คันยิ่งทำให้เกิดคำถามและข้อสงสัยว่า แล้วทำไมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงปล่อยให้มีการลักลอบนำเข้ารถหรูเถื่อนจำนวนมากมายมหาศาลขนาดนี้โดยไม่ดำเนินการและยังปล่อยให้ตัวการใหญ่ลอยนวลมาจนบัดนี้
ผู้ที่อยู่เบื้องธุรกิจนำเข้ารถหรูเถื่อนย่อมไม่ธรรมดาแน่นอนและไม่มีทางนำเข้ารถได้สำเร็จหากไม่ใช่การสมคบกันระหว่าง “บิ๊ก”ผู้มีอำนาจทางการเมืองกับ “บิ๊ก” ข้าราชการในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างฝ่ายตำรวจ ศุลกากร กรมการขนส่ง และอื่นๆ
เพราะฉะนั้นคดีสุดอื้อฉาวที่แฝงด้วยเบื้องหลังยิ่งใหญ่นี้สาธารณชนต้องติดตามจับตาดูบทสรุปในการคลี่คลายคดีว่าดีเอสไอและฝ่ายตำรวจจะสามารถลากตัวเจ้าของรถหรูเถื่อนตัวจริงมาลงโทษได้หรือไม่ หรือจะกลายเป็นคดีปาหี่มวยล้มต้มคนดูจับแพะตัดตอนหรือค่อยๆเงียบหายไปกลายเป็นคลื่นกระทบฝั่งจับมือใครดมไม่ได้ในที่สุดตามเคย
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี