ขณะที่ก่อนหน้านี้บรรดาแกนนำรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณเยาะเย้ยถากถางประเมินว่าพลังมหาชนที่จะออกมาเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดและมุ่งโค่นระบอบทักษิณเป็นแค่พวกขาประจำที่มีจำนวนแค่หยิบมือเดียวไม่สะเทือนต่อเสถียรภาพรัฐบาลที่มีกลไกอำนาจรัฐพรั่งพร้อมอยู่ในมือ ซ้ำมีกองกำลังเสื้อแดงคอยหนุนหลัง แต่ล่าสุดพลังประชาชนที่ต้องการขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดและโค่นระบอบทักษิณซึ่งมีอยู่หลายกลุ่มมีการยกระดับการเคลื่อนไหวเพื่อรวมพลังเป็นหนึ่งเดียวอันจะทำให้การทำสงครามแตกหักมีเอกภาพและเข้มแข็งจนนำไปสู่ชัยชนะ
สำหรับกลุ่มมวลชนที่ต้องการขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดภายใต้การนำของ นายกฯนกแก้วยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และโค่นระบอบทักษิณที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคุก เป็นผู้นำและบงการอยูหลังฉากรัฐบาลหุ่นเชิดชุดนี้มีอยู่หลายกลุ่ม อาทิ กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ กลุ่มหน้ากากขาว กลุ่มไทยสปริง กลุ่มเสื้อหลากสี มวลชนที่สนับสนุนฝ่ายค้านคือพรรคประชาธิปัตย์ หรือแม้แต่มวลชนที่สนับสนุนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่แม้ขณะนี้ยังประกาศยังไม่เข้าร่วมเคลื่อนไหว
สัญญาณแห่งการผนึกกำลังของพลังประชาชนเพื่อขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดและระบอบทักษิณที่ถูกระบุว่าเป็นการเมืองสามานย์ที่ทำลายประเทศและเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติอย่างแท้จริงเริ่มปรากฏเค้าร่างเป็นจริงมากขึ้นเมื่อ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร แกนนำกลุ่มไทยสปริง เตรียมยกระดับการเคลื่อนไหวด้วยการจัดประชุมสันนิบาตรบรรดาพลังประชาชนกลุ่มต่างๆที่มีอุดมการณ์ขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดและโค่นระบอบทักษิณเหมือนกันเพื่อรวมพลังเป็นหนึ่งเดียวอันจะทำให้การเคลื่อนไหวเป็นเอกภาพและมีพลัง
นายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำกลุ่มการเมืองสีเขียว หรือกลุ่มกรีน สนับสนุนแนวคิดที่จะหลอมรวมพลังประชาชนทุกกลุ่มที่ต้องการขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดและโค่นระบอบทักษิณเป็นหนึ่งเดียวเพื่อให้การต่อสู้มีพลังเข้มแข็งเพราะหากพลังมวลชนกระจัดกระจายต่างคนต่างเคลื่อนไหวก็ยากที่จะล้มระบอบทักษิณได้สำเร็จ
ความเคลื่อนไหวของกลุ่มพลังประชาชนที่ต้องจับตาก็คือการประกาศดีเดย์การชุมนุมของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณที่มีบรรดาอดีตนายทหารนอกราชการนำโดย พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ ประธานองค์กรพิทักษ์สยาม ในวันที่ 4 ส.ค.นี้
ระเบิดเวลาสำหรับรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณนอกจากมีสาเหตุจากการทุจริตคอรัปชั่นอย่างย่ามใจ ความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินจนส่อนำพาประเทศไปสู่ความวิบัติล่มจม ตลอดจนความเหิมเกริมลุแก่อำนาจคิดยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ยังรวมถึงความพยายามที่จะผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพื่อฟอกโทษความผิดทั้งหมดให้กับ นักโทษชายทักษิณ และเหล่าแกนนำคนเสื้อแดงที่เป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองในเหตุการณ์เมื่อปี 2553 รวมทั้งผู้ต้องหาคนเสื้อแดงคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
จากความพยายามที่จะรวบรัดผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับที่เสนอโดย นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏรในวันที่ 7 ส.ค.นี้ทำให้พลังประชาชนหรือแม้แต่ฝ่ายค้านคือพรรคประชาธิปัตย์เตรียมออกมาต่อต้านขั้นแตกหัก
ความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตาก็คือการประกาศท่าทีแข็งกร้าวดุดันของแกนนำภาคใต้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ว่าจะเป็น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง นายสาธิต วงศ์หนองเตย นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ที่ปราศรัยอย่างดุเดือดที่สวนเบญจาคศิริก่อนหน้านี้ว่า พร้อมที่จะออกมานำทัพประชาชนเคลื่อนไหวนอกสภาภายใต้กรอบของกฏหมายเพื่อคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่อ้างการสร้างความปรองดองบังหน้าทุกฉบับที่เสนอโดยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เพราะมีเป้าหมายแอบแฝงที่แท้จริงเพื่อลบล้างโทษความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และบรรดาแกนนำคนเสื้อแ ดงที่เคยก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมือง
ทั้งนี้เนื่องจากบรรดาแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ดังกล่าวข้างต้นเห็นว่าหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณก็ชนะวันยังค่ำโดยอาศัยพวกมากลากไป เพราะฉะนั้นอาจถึงเวลาที่จะต้องเป่านกหวีดให้พลังประชาชนเตรียมแพ็คกระเป๋าออกมาแสดงพลัง
ล่าสุด นายสุเทพ ประกาศว่าพร้อมที่จะนำทัพประชาชนหากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนายวรชัย ผ่านในวาระที่ 3
สำหรับท่าทีของรัฐบาลหุ่นเชิดออกอากาศปากกล้าขาสั่น เพราะขณะที่ก่อนหน้านี้เยาะเย้ยถากถางประชาชนที่จะออกมาคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดมีแค่หยิบมือเดียว แต่กลับมีการประชุมเตรียมรับมือการชุมนุมของประชาชนอย่างเคร่งเครียด โดยล่าสุด พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ถึงกับยอมรับว่าสถานการณ์มีแนวโน้มดุเดือดและคาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก ขณะที่ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีรายงานข่าวว่าได้สั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าตำรวจภูธรทั่วประเทศวางแผนสกัดไม่ให้ประชาชนเข้ากรุงเพื่อร่วมชุมนุมกับกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณในวันที่ 4 ส.ค.นี้
ขณะที่มีการนำแผงคอนกรีตตั้งขวางรอบทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา รวมทั้งระดมกำลังตำรวจจำนวนมากรวมทั้งการซักซ้อมตำรวจหน่วยปราบจลาจลอย่างเข้มข้นเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่คาดว่าจะตึงเครียด
และที่สำคัญคณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคงได้เห็นชอบให้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่เขตพระนคร ดุลิต และป้อมปราบศัตรูพ่ายตั้งแต่วันที่ 1-10 ส.ค.นี้
เพราะฉะนั้นสงครามระหว่างรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณกับพลังประชาชนได้มาถึงสถานการณ์เผชิญหน้าที่พร้อมแตกหัก โดยฝ่ายพลังประชาชนได้บทเรียนมาแล้วจากปฏิบัติการโหดของฝ่ายตำรวจในการสลายการชุมนุมขององค์กรพิทักษ์สยามเมื่อปลายปีที่แล้ว ดังนั้นครั้งนี้คณะเสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณจึงสรุปบทเรียนและวางแผนแก้เกมมาเป็นอย่างดี ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่สุดซึ่งจะชี้ขาดชัยชนะของฝ่ายประชาชนอยู่ที่ว่าจะมีพลังมหาชนเข้าร่วมการทำสงครามแตกหักครั้งนี้มากน้อยแค่ไหน
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี