ศึกยกแรกสงครามประชาชนค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเพื่อกูที่เสนอโดยนายวรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยและพวกผ่านไปด้วยความอกสั่นขวัญแขวน แต่ก็แสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวของพลังประชาชนภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์แบบก่อการดีมีอารยะที่ต่างจากม็อบถ่อยดิบเถื่อนของแก๊งเสื้อแดงภายใต้ระบอบทักษิณที่เคยฝากผลงานชั่วช้าทำลายชาติด้วยการบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียนและผู้นำชาติมหาอำนาจคู่เจรจาที่พัทยาเมื่อปี 2552 และจุดชนวนก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 แล้วยังมีหน้ามาออกกฎหมายหวังนิรโทษกรรมความผิดให้ตัวเองเพราะไม่กล้าพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรม
การระดมกองทัพตำรวจนับหมื่นจากทั่วประเทศที่ต้องใช้เงินภาษีของประชาชนหลายร้อยล้านบาทมาสกัดการชุมนุมอย่างสงบปราศจากอาวุธของประชาชนถือเป็นการทรยศต่อประชาชนที่เป็นเจ้าของภาษีที่เป็นผู้จ่ายเงินเดือนเลี้ยงตำรวจทุกคนโดยเฉพาะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ที่ได้ดีเพราะทักษิณให้แสดงความกระเหี้ยนกระหือรือเหมือนอยากจะใช้กำลังตำรวจบดขยี้ประชาชนเสียเต็มประดา และทำตัวราวกับเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ตัวจริง
ความจริงภาพของรัฐบาลหุ่นเชิดจะดูดีกว่านี้หากเห็นแก่ความสงบของบ้านเมืองอย่างจริงใจและสร้างบรรยากาศปรองดองด้วยการถ้อยทีถ้อยอาศัยไม่ลุแก่อำนาจพยายามสกัดกั้นการแสดงออกและปิดปูปิดตาประชาชนในทุกวิถีทาง โดยเฉพาะการหาข้ออ้างไม่ให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ซึ่งตามที่ปฏิบัติกันมาตลอด ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องใหญ่ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนทั้งประเทศ
การไม่ยอมให้ถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ของรัฐทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเพราะรัฐบาลสันหลังหวะกลัวฝ่ายค้านจะอภิปรายเปิดโปงจับโกหก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพื่อกูฉบับนี้ ทั้งๆที่รัฐบาลเสื้อแดงชุดนี้สร้างภาพคำก็อ้างประชาธิปไตยสองคำก็อ้างประชาธิปไตยมาตลอด แต่กลับลุแก่อำนาจปิดหูปิดตาประชาชนเพราะกลัวถูกเปิดโปง
สิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเผด็จการเสียงข้างมากในคราบประชาธิปไตยของรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณภายใต้การนำของ นายกฯ นกแก้ว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็คือการดันทุรังที่จะผลักดันกฎหมายเพื่อพรรคพวกตัวเองโดยไม่คำนึงถึงหลักนิติรัฐโดยอ้างคนทุกสีมาเป็นตัวประกันบังหน้า ทั้งๆ ที่คนสีอื่นเขาไม่ต้องการรับการนิรโทษกรรมแต่ต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์และพร้อมที่จะน้อมรับคำตัดสินตามกระบวนการยุติธรรม
แต่ นักโทษชายแม้ว และพวกเสื้อแดงที่ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองรู้ว่าตัวเองผิดเต็มประตูจึงไม่กล้าพิสูจน์ตัวเองด้วยระบบศาล แต่ใช้วิธีการหักดิบรวบรัดอาศัยพวกมากลากไปออกกฎหมายมาลบล้างโทษความผิดของตัวเองโดยไม่คำนึงกระแสต่อต้านของประชาชนที่เห็นว่าเป็นการทำลายหลักนิติรัฐและเป็นการสร้างแบบอย่างอันเลวร้ายให้พวกที่ทำผิดคดีอาญาร้ายแรงทำร้ายประเทศแล้วมาใช้พวกมากออกกฎหมายฟอกโทษความผิดให้ตัวเองโดยอ้างการสร้างความปรองดองบังหน้า
การเดินขบวนแสดงพลังประชาชนนับหมื่น โดยการนำของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นแค่ศึกยกแรกเพื่อเตือนสติรัฐบาล แต่ในเมื่อรัฐบาลดันทุรังลุแก่อำนาจเดินหน้าหักดิบดัน พ.ร.บ.นิรโทษฉบับหมกเม็ดก็ต้องเจอกับสงครามประชาชนที่จะยกระดับเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเมื่อถึงขั้นนั้นถือเป็นความชอบธรรมที่จะเกิดสงครามประชาชนเพื่อขับไล่ระบอบการเมืองชั่วร้ายในคราบประชาธิปไตย
ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี