ขึ้นแท่นพระเอกใหม่ถอดด้าม สำหรับหนุ่มสูงยาวเข่าดีนามเพราะ พ้อยท์-ชลวิทย์ มีทองคำ กับผลงานละครเรื่องแรก “ธิดาแดนซ์” ผลิตโดยบริษัท เพ็ญพุธ จำกัด ในเครือบริษัท จันทร์ 25 จำกัด ที่ได้ฤกษ์ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.45 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เรามีโอกาสได้พบหนุ่มพ้อยท์ในกองถ่าย “ธิดาแดนซ์” เราจึงไม่พลาดที่จะชักชวนหนุ่มพ้อยท์มาพูดคุยถึงเรื่องราวของเขา มาทำความรู้สึกกับพระเอกใหม่คนนี้ดีกว่า
สวัสดีครับ ผม พ้อยท์ - ชลวิทย์ มีทองคำ ผมเป็นคนเหนือเกิดที่เชียงใหม่และโตที่เชียงใหม่ โดยพ่อเป็นคนสุพรรณแต่แม่เป็นคนเชียงใหม่ครับ
วีระกรรมตอนเด็ก
ตอนสมัยอนุบาลพ้อยท์จะเป็นเด็กขี้แง เอะอะก็ร้องไห้ แล้วก็ชอบปัสสาวะใส่ที่นอนที่โรงเรียนเวลานอนกลางวันความที่ขี้เกียจไปเข้าห้องน้ำนะค่อนข้างซนตามประสาเด็กพอขึ้นชั้นประถมจะโตขึ้นหน่อยก็เป็นเด็กที่ตลกสนุกสนานครับ ได้ยินว่ามีเรื่องชกต่อยด้วย มันก็มีบ้างตามประสาวัยรุ่นคึกคะนอง ผมชอบไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วก็ไปเล่นเกมส์กัน บางครั้งก็เลยมีเรื่องชกต่อยกันบ้าง
เห็นว่าเกเรจนต้องเลือกเรียนสายอาชีพ
ตอนเรียนอยู่ม. 3 ผมซนมาก ติดศูนย์เยอะ เป็นประเภทเด็กเรียนหลังห้อง แม่ก็ปรึกษาอาจารย์ว่าจะเอาไงดีถ้าจะไม่ไหวถ้าเรียนแบบปกติ เลยส่งไปเรียนสายอาชีพแต่ก็เหมือนเดิมพอเรียนทีไรก็ชอบแว่บออกจากห้องไปห้องวิชาโน้นวิชานี้ไม่สนใจห้องของตัวเองเลย
ตอนปวส. เทอมแรกลงเรียนไอที (พวกโปรแกรมเมอร์ แต่เรียนไปเจอวิชาเว็บ ก็เริ่มรู้ว่าที่คิดจะเรียนไอทีไม่ใช่แล้ว แต่ผลที่ออกมาได้เกรดเฉลี่ย 2.8 แม่ดีใจเลย แต่พอเรียนเทอม 2 เปลี่ยนอยากทำนิตยสารพวกออกแบบ เลยไปร้องไห้อ้อนแม่อยากมาเรียนที่กรุงเทพฯเข้าม.รังสิต เรียนอะไรที่นั้น คณะนิเทศศาสตร์ สาขามัลติมีเดีย ครับ
ปรากฎว่าเกเรอีก
แรกๆ ก็คิดจะตั้งใจเรียนเอาเกรดให้แม่แต่แล้วก็เข้าอีหลอบเดิมเที่ยวสะบั้น ไปคบเพื่อนที่ไม่ค่อยเรียนปรากฎว่าผ่านไปปีหนึ่ง รู้เลยว่าการอยู่ด้วยตัวคนเดียวมันต้องดูแลตัวเองรู้สึกเหนื่อยมากไม่ไหว แถมจัดการเงินที่ได้มาไม่เป็น
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เราคิดได้และโตขี้น
ใช่ครับ เพราะความเหนื่อยก็ทำให้พ้อยท์หันมามองแม่ ซึ่งแม่กับพ่อหย่ากัน แล้วแม่ต้องเลี้ยงพ้อยท์ พี่สาวพ้อยท์ ยาย แล้วก็ลูกของน้องแม่ หลายคนเลยทำให้รู้เลยว่าแม่ต้องเหนื่อยขนาดไหน พ้อยท์ก็ยังเจอพ่อแล้วพ่อก็มีช่วยเหลือบ้าง แต่ส่วนมากแม่จะหารายได้เอง เมื่อกลับบ้านไม่ได้พอเข้าปี 2 มีหน้าที่การงานให้รับผิดชอบมันก็ทำให้เราดีขึ้นครับ ผมก็เลยตั้งใจว่าจะทำงานซื้อบ้านให้พ่อแม่ พอสำเร็จก็ค่อยมาทำธุรกิจดูแลครอบครัวตัวเอง แค่นี้ผมก็พอแล้ว
ตอนนี้เรียนปีไหนแล้ว
ปีที่ 4 แล้วครับ เกรดฉุดลงนิดนึง 2.6 เพราะหลังๆ มามีงานทำทั้งเดินแบบ ถ่ายละครด้วยแต่ผมก็พอใจไม่ได้คิดจะต้องเอาเกียรตินิยม
เข้าสู่วงการได้อย่างไร
พี่ที่บ้านเห็นสูงเลยพามาเดินแบบที่กรุงเทพฯ จากนั้นก็ได้ถ่ายแบบแมกกาซีน หลังจากนั้นผู้ใหญ่ทางเอ็กซ์แซกท์ ก็เห็นผมจากแมกกาซีน บอกว่าผมหน้าตา หุ่นรูปร่างใช้ได้ (สูง 190 ซม.) น่าจะเล่นละครได้ ก็เรียกเข้าไปคุยแล้วก็เซ็นต์สัญญา 5 ปี ตอนนี้ก็ผ่านมาประมาณ2 ปีครึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ส่งผมไปเรียนแอ็กติ้งการแสดงที่เอ็กซ์แซกท์ทุกวัน วันนี้ก็ยังเรียนอยู่มาประมาณเกือบปีครับ
พอได้มาเรียนการแสดงชอบมั้ย
ตอนแรกมาเรียนโดนว่าก็ไม่ชอบครับ เพราะผมเป็นคนสมองช้า เข้าใจช้า เลยโดนว่าตลอดเลยทำให้เบื่อไม่อยากเรียน แต่พอเรียนๆ ไปก็กลับรู้สึกชอบตีโจทย์ได้ สามารถจินตนาการไปตามบทได้ พอเราเล่นได้อาจารย์ชมผมก็รู้สึกสนุกขึ้น จึงทำให้เกิดแรงฮึดว่าเราจะต้องเล่นให้เก่งทำให้ได้ แต่ก็มีบางทีที่เราตั้งใจเกินไปมันก็ทำให้ดรอปลงครับ
แล้วมาเล่นละครเรื่องแรก “ธิดาแดนซ์” ได้อย่างไร
คุณแดง-สุรางค์ ไปเห็นผมในวันที่เปิดแอ็กซ์สตูดิโอ ครับ แล้วก็อยากให้ผมมาเล่นละครเรื่องนี้ ผมก็งงเหมือนกันว่าจริงหรือ...เพราะคิดว่าเราคงจะค่อยๆ ไต่เต้า ไม่น่าจะได้รับบทพระเอกเลย แต่มันก็เป็นจริงซึ่งผมจำได้ว่าวันเข้ากองวันแรกผมตื่นเต้นมาก แล้วก็เครียด กลัวเป็นตัวถ่วงเพราะผมรู้ว่าตัวเองเป็นคนสมาธิสั้น แต่ก็โชคดีที่นักแสดงรุ่นพี่ทุกคนคอยให้คำแนะนำผม
คาแร็คเตอร์ในละครเรื่องนี้
พ้อยท์รับบท “เทิดไท” เป็นตำรวจ เวลาอยู่กับผู้บังคับบัญชาก็จะขรึมเงียบๆ แต่ถ้าอยู่กับลูกน้อง “จ่าเพิ่ม” คนทั่วๆไปเพื่อนๆผมก็จะแก่นกวนๆเฮฮาตามประสาวัยรุ่น ส่วนตอนปลอมตัวเข้าไปสืบคดีที่บ้านนางเอกเราเจอสาวๆ ก็จะคอยแซวคอยแหย่อะไรแบบนี้ครับ แล้วในความรู้สึกของผมมีหลายฉากที่ผมต้องเล่นตลกเหมือนกัน
ปกตินิสัยเป็นอย่างไร
พ้อยท์เป็นคนตลกนะแต่เวลาเล่นมุขมันก็คนละแบบกับเทิดไท ปกติพ้อยท์จะตลกแบบกวนๆ คนอื่น แต่เทิดไทจะกวนกับตัวเองนะ
คาดหวังไว้แค่ไหนกับการแสดงเรื่องนี้
มันเป็นละครเรื่องแรกที่พ้อยท์แสดงก็อยากให้คนดูเยอะๆ เรตติ้งดีๆ เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่าคนดูจะชอบเราหรือเปล่าได้ด้วยครับ
เห็นว่ามีผลงานเรื่องต่อไปแล้ว
ครับ เป็นของเอ็กซ์แซกท์เรื่อง “อนิลทิตา” พ้อยท์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับ เฌอเบลล์ ไม่มีคู่ครับ แล้วก็มีพี่บี-น้ำทิพย์ กับพี่โบ๊ท นิธิศ (วงเดอะ เยอร์) เปิดกล้องแล้ว ก็ยอมรับว่ากดดันเหมือนกันครับ
แม่ว่าอย่างไรบ้างจากเด็กเกเร มาเป็นพระเอกละครแล้ว
จริงๆ แม่เป็นคนชอบเรื่องตรงนี้นะ เวลาพ้อยท์ไปทำอะไรออกรายการไหนแม่ก็จะตามดู รู้เลยว่าชอบ แต่ยังไงแม่ก็อยากให้พ้อยท์เน้นเรียนมากกว่า รู้เลยว่าแม่ภูมิใจที่ผมเรียนดีขึ้นเปลี่ยนไปฉะนั้นถ้าเราเรียนจบแม่คงดีใจ แล้วเรื่องการแสดงพ้อยท์แน่ใจว่าหลังจากนั้นแม่คงสนับสนุนครับ”
สุดท้ายอยากฝากอะไรบ้าง
พ้อยท์อยากฝากผลงานละครทั้ง 2 เรื่อง ซึ่งเรื่อง ธิดาแดนซ์ พ้อยท์ตั้งใจมาก แต่ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ติชมเข้ามาได้ เพราะยังมือใหม่แต่ถ้าทุกคนให้โอกาสก็จะพยายามพัฒนาให้ดีขึ้น แล้วก็มีอีกเรื่อง อนิลทิตา ที่ผมตั้งใจมากเช่นกันก็อยากให้ติดตามด้วยนะครับ
เจฟฟ์ มะระโช
@jeffmarajeff
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี