ทำงานในวงการบันเทิง เล่นทั้งละคร ภาพยนตร์ เป็นพิธีกร แสดงละครเวที มานับไม่ถ้วนสำหรับดาราเจ้าบทบาท “ตั๊ก” นภัสกร 
มิตรเอม ล่าสุดกับผลงานภาพยนตร์มหากาฬ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งภาคนี้บทบาทของ “ตั๊ก” นภัสกร เรียกได้ว่าเข้มข้นทั้งในส่วนของดราม่า และแอ๊กชั่นท้าทาย และน่าจับตามองมากที่สุด

ผมรับบทเป็นมังสามเกียดและมีหลายชื่อครับ เมงเยสวา หรือมังกะยอชวา ส่วนพระมหาอุปราชา หรือมหาอุปราชเป็นชื่อที่ฝั่งไทยเราเรียก ในส่วนของคาแร็กเตอร์ได้มาจากการพูดคุยจากการศึกษาข้อมูลของท่านมุ้ยและคุยกันในมุมของจิตวิทยาครอบครัวด้วย แล้วให้ผมไปตีความ-ทำความเข้าใจ คาแร็กเตอร์ของมังสามเกียดจึงออกมาในเชิงของบุคคลที่มีความเก็บกด ในอารมณ์ของความสูญเสีย ทั้งชัยชนะ ทั้งความมั่นใจที่มีต่อพระนเรศวรโดยเห็นได้จากการปูพื้นมาตั้งแต่ตอนต้นภาคหนึ่งภาคสองแพ้มาตลอด ไม่ว่าจะชนไก่หรือศึกสามทัพสามเจ้าฟ้าตีเมืองคัง ก็พ่ายแพ้มาโดยตลอด จึงต้องการที่จะเอาชนะอย่างไรก็ได้ เคียดแค้นชิงชังพระนเรศวร ในขณะเดียวกันปมที่ไม่มีใครไว้เนื้อเชื่อใจ จึงต้องการสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง ให้คนอื่นเห็นว่าทำได้ เหมือนเด็กที่ทำผิดแล้วอยากแก้ตัวให้พ่อให้แม่เห็น แต่พ่อ-แม่ไม่เคยเห็นเลยไม่เคยให้โอกาส มีแต่ทับถม นี่คือปัญหาครอบครัวและสุดท้ายปัญหานี้ไม่ได้ถูกแก้ไข เป็นจุดเปราะบางเล็กๆ สำหรับเรื่องแอ๊กชั่น ต่อสู้ ในภาคนี้ผมใช้ ง้าว ถ้ารวมชุดเกราะมหาอุปราช นี่น้ำหนักก็ประมาณ 30 กิโลได้ครับ ใส่ตั้งแต่เช้าจนเย็น ง้าว ก็ต้องขอกลับบ้านเลยไปควงเล่นฝึกให้ชินมือ เพราะง้าวผมหนักกว่าของเบิร์ดเท่าหนึ่ง ด้วยความที่ลวดลายเขาแต่งเยอะ ไม่งั้นก็ไม่วิจิตรตามแบบฉบับของหงสาฯ ตัวผมเองก็ต้องไปฝึกกับอาจารย์ กลับไปบ้านต้องฝึกเองด้วย ทุกวันไม่ขาด แม้เราเป็นเมล็ดถั่วเล็กๆ ที่เป็นตัวขับเคลื่อนในกลไกของภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ระดับนี้ผมก็ภูมิใจที่ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในฟันเฟืองที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้ภาพยนตร์แห่งประวัติศาสตร์ของชาติไทยเรื่องนี้ ซึ่งอนาคตก็จะเป็นประวัติศาสตร์ของพวกเขาด้วย ยากมากที่จะกลับมาทำแบบนี้ได้อีก