“ปานามา” คือชื่อกลุ่มนักร้องสัญชาติไทยที่มีสมาชิกเป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน ประกอบด้วย แหม่ม ปาริฉัตร(จรินทร์ธร ชนะธีรโรจน์), ต๊อก นารา และ จิ้งเหลน มาธุสร ภายใต้การสนับสนุนของ นิธิทัศน์ โปรโมชั่น
โดยเริ่มปรากฏตัวบนเวทีทัวร์คอนเสิร์ตใจประสานใจ จึงมีผลงานอัลบั้มเพลงออกมา 2 ชุด ภายในปี พ.ศ. 2534-พ.ศ. 2535 มี ต๊ะ สมถะเป็นโปรดิวเซอร์ โดยสมาชิกบางส่วนจากวงกะท้อน และสมาชิกในวงเองยังได้ร่วมแต่งเพลงไว้หลายเพลงอีกด้วย
“ปานามา” มีเพลงที่สร้างชื่อเสียงโด่งดัง คือ "โธ่เอ๊ย" และ "ไม่อยากเป็นแปรงสีฟัน" ซึ่งติดใจคนฟังทุกยุคสมัย จนมีนักร้องคนอื่นนำไปแปลงเนื้อร้อง เช่น ปฤษณา วงศ์ศิริ และ บุญโทน คนหนุ่ม นอกจากนี้ยังมีเพลง ความรัก, พูดผิดพูดใหม่, หัวใจย่ำต๊อก และ เชิญ เอ้า เชิญ ดนตรีของวงปานามาออกจังหวะสนุกสนานผสมผสานความเป็นไทยและสากล การแสดงบนเวทีของสมาชิกวงจะร้องเพลงและเต้นรำอย่างมีลีลาปัจจุบัน สมาชิกวงปานามาแยกย้ายกันไปโดยไม่ปรากฏตัวอีกเลย เหลือเพียง แหม่ม ที่ยังคงมีผลงานเพลงของตนเองอยู่
ซึ่งในอดีตคงไม่มีใครไม่รู้จัก “วงปานามา” นักร้องวัยรุ่นที่โด่งดังที่สุดในยุคนั้น.....กับเพลงโจ๊ะสนุกๆ และท่าเต้นสุดฮิตที่คนจดจำได้จนถึงวันนี้ และในวันนี้ทีมข่าว “บันเทิงแนวหน้า” จะพาไปล้วงลึกถึงชีวิตที่ผ่านมาของ 1 ในสมาชิกของวงนั่นก็คือ “จรินทร์ธร ชนะธีรโรจน์” หรือที่รู้จักกันในนาม “แหม่ม ปานามา” โดยเธอจะเปิดใจถึงเรื่องราวกว่าจะมีวันนี้ได้ พร้อมทั้งเผยถึงธุรกิจที่เธอลงทุนลงแรงทำจนประสบความสำเร็จในวันนี้
เข้าสู่วงการบันเทิง
สมัยก่อนพี่ก็ร้องเพลงตามร้านอาหารทั่วไป แต่ว่าตอนสมัยม.ต้นพี่เคยฝึกร้องเพลงที่โรงเรียนแล้วก็ได้เป็นนักร้องนำให้วงชาโดว์ถือว่าเป็นวงที่ดังมากที่สุดในอำเภอ พอวันนึงเหมือนเป็นโชคชะตาคือพี่ได้มีโอกาสเจอพี่วัตซึ่งเขาเคยทำงานอยู่ที่บริษัทแกรมมี่ แล้วแนะนำให้พี่รู้จักกริช ทอมมัส (พี่ตี่) เลยทำให้มีโอกาสได้ร้องคอรัสให้กับสามารถ พยัคฆ์อรุณ เมื่อปี 2529 และก็ทำเบื้องหลังและเป็นคอรัสให้พี่อิทธิพลางกุลพอทำงานเดินสายที่แกรมมี่ได้ปีกว่าๆ มีโอกาสได้รู้จักกับวิลลี่ วงกระท้อน และสมาชิกวงทุกคน เขาก็มาชักชวนให้พี่ทำผลงานอัลบั้มของตัวเอง ซึ่งเขาก็เอาเบอร์พี่ไป แล้วโทรมาเรียกให้ไปเทส ผลสรุปโอเคผ่านเลยลงมือทำงานร่วมกันซึ่งตอนนั้นพี่จะได้ออกอัลบั้มเดี่ยวกับ พี่อิทธิ พลางกูร จะเอางานไปเสนอที่อาร์เอสแต่เขาไม่เอาคือยุคนั้น อาร์เอสเขายังไม่ทำนักร้องเดี่ยวผู้หญิง
พลิกผันเข้าสู่วง “ปานามา”
ตอนนั้นวงปานามาเดิมทีมีสมาชิกอยู่ 4คนแต่ไม่ได้ใช้ชื่อว่าปานามาใช้ชื่อว่าวงสีช่า แล้วสมาชิกวงออกไป 2คน เหลือผู้ชาย2คน แล้วเขามาถามพี่ว่าอยากออกเทปเร็วๆไหมจะได้ไม่ต้องรอเราเลยบอกว่ายังไงก็ได้แล้วแต่ทางค่ายเลย เขาก็เลยเอาพี่มาเป็นสมาชิกคนสุดท้ายของวงปานามาซึ่งเราทั้ง 3คนไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่ก็ทำงานร่วมกันได้ และเพลงสุดท้ายที่พี่ร้องคือเพลง “โธ่เอ๊ย” และเพลง “เด็ดขาดไปแล้ว” ซึ่งเป็นเพลงเชียร์ในตอนนั้น และเพลงนี้มันได้รับความนิยมสูงอย่างไม่น่าเชื่อคือขายดีมาก ได้ล้านตลับอะค่ะ ช่วงนั้นโปรโมทฟรีทีวีเช้ากลางวันเย็นคือเห็นหน้าปานามาตลอด
มีชื่อเสียงแบบไม่ทันตั้งตัว
รู้สึกดีใจค่ะ และตื่นเต้นที่จะได้ออนทัวร์ใจประสานใจ ต้องบอกก่อนนิธิทัศน์เป็นค่ายที่หนักไปทางการกุศลก็จะได้ออนทัวร์กับทางค่าย ไปเหมือนกับครอบครัว ทุกคนในค่ายจะไปหมด ทำงานร่วมกัน อยู่ด้วยกันเหมือนบ้านอะคาเดมี่สมัยนี่ นั่งรถทัวร์ กิน เที่ยว ทำงานด้วยกัน
ชีวิตเปลี่ยนไหม
ไม่รู้สึกนะคะว่าตัวเองมีการใช้ชีวิตเปลี่ยนไป คือกินนอนนั่งอยู่ในรถไม่รู้วันเวลาคือทำงานทุกวัน ตอนนั้นอายุที่ออกคือตอน 16-17 ส่วนตัวไม่รู้ว่าตัวเองดัง แต่เห็นรายการดังๆเขามาขอเชิญให้ไปออกรายการ แล้วเวลาไปไหนก็มีคนมาขอถ่ายรูป ด้วยความที่เราเป็นคอรัสเดินสายกับศิลปินมาก่อนเลยรู้สึกชิน แต่ก็มีแฟนเพลงแฟนคลับทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่
ทำให้ครอบครัวสบาย
คือต้องบอกก่อนว่าพี่ทำงานตั้งแต่เด็กช่วยพ่อแม่มาตลอด คุณพ่อมีอาชีพขับรถรับจ้าง และคุณแม่ขายส้มตำพอมีชื่อเสียงเงินที่ได้ก็ให้ที่บ้านหมดเลย ดูแลทั้งครอบครัว จนวันนี้ครอบครัวอยู่ตัวแล้วพี่น้องก็เรียนจบหมดแล้ว
หันเหมาทำธุรกิจ
หลังจากร้องเพลง เก็บเงินได้สักพักจึงหันมาทำธุรกิจหลายอย่างที่ตัวเองอยากทำ ส่วนเพื่อนๆในวงก็กระจัดกระจายหายไป คนนึงก็ไปบวชเป็นพระ และอีกคนนึงก็เสียชีวิตไปแล้วเลยทำให้เหลือพี่อยู่คนเดียว ส่วนธุรกิจที่ทำอยู่คือพี่มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรเป็นแบรนด์ของตัวเองชื่อว่า “ปาร์นาร์มาร์” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักเดือนนึงลดได้ประมาณ 3-5 กิโลต่อครึ่งเดือน เดือนนึงลดได้ 10 กิโล แล้วก็มีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับล้างลำไส้ดีท็อกสำหรับคนที่มีไขมันมาก มีกลิ่นปาก หรือต้องการมีสุขภาพดีจากภายใน คือมันล้างของเสียออกมาจากภายใน ซึ่งตอนนี้ธุรกิจกำลังไปได้ดี ขายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เวลาพี่ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ต่างประเทศก็จะเอาผลิตภัณฑ์ไปขายด้วยซึ่งแฟนๆก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีมาตลอด
กลับมาร้องเพลงอีกครั้ง
เมื่อปี 2552 เพลง “โอนามัง” และ “ปิดไฟ” โดยพี่มาทำกับเพื่อนสนิทคือ “สามารถ ทองขาว” ซึ่งเขาก็คอยช่วยเหลือ และผลักดันจนทำให้ในปีนั้นพี่ได้รับถึง 5 รางวัล ตอนแรกกลัวมากรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะเราห่างหายจากวงการไปนานแล้วพลิกผันเป็นลูกทุ่ง ช่วงแรกก็กดดัน แต่ด้วยความที่เราทำตัวเหมือนนักร้องใหม่เลยเดินสายทุกคลื่น แล้วด้วยความที่เขาเมตตาเราเพราะเราปฎิบัติตัวดี เลยทำให้เรากลับมาได้อีกครั้ง
ผลงานปัจจุบัน
ซิงเกิ้ลเพลง “ซี๊ด” ค่ะ ซี๊ดในที่นี้หมายถึงเนื้องอกทั่วๆไป เลยเอามาแต่งเพลงแซวๆขำๆ แนวเพลงจะเป็นแนวสนุกสนาน เต้นๆกันให้คลายเครียด สามารถดาวน์โหลดกันได้แล้ววันนี้ ส่วนใครที่สนใจจะจ้างพี่ไปโชว์ตัวก็สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 081-448-5200 ค่ะ
ฝากผลงาน
พี่แหม่ม – ปานามา ขอฝากผลงานเพลง “ซี๊ด” เอาไว้ในใจผู้ฟังทุกๆคนด้วย พี่ตั้งใจทำผลงานออกมาอย่างดีที่สุด และก็ขอฝากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ทำจากสมุนไพรแบรนด์ “ปาร์นาร์มาร์” ด้วยนะคะ
พรหมประภา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี