แอ๊กชั่นสตาร์คนใหม่ของเมืองไทย ‘เดี่ยว-ชูพงษ์ ช่างปรุง’ 

กับบทบาทมือสังหาร ในภาพยนตร์แอ๊กระหํ่า‘เร็วทะลุเร็ว’

สวัสดีครับ ผม “เดี่ยว-ชูพงษ์ ช่างปรุง” กลับมาครั้งนี้ กับบทบาทที่เข้มข้นกว่าเดิม หลายๆ คนอาจจะจำผมได้ในหนังแอ๊กชั่นหลายๆ เรื่อง ก็วันนี้อีกครั้งครับ กับ แอ๊กชั่น เร็วท้าทุกความระห่ำกับผลงานล่าสุดของผม “เร็วทะลุเร็ว”

บทบาท-คาแร็กเตอร์

รับบทเป็น “นที” ครับจะเป็นผู้ชายที่จมอยู่กับเรื่องราวในอดีต จะมีปมตั้งแต่เด็กคือ พ่อกับแม่โดนฆ่าต่อหน้าต่อตา ทำให้เขาจมอยู่กับอดีตและคำถามที่ว่า ใครเป็นคนฆ่าพ่อ-แม่ของเขา!! นทีเลยต้องทำทุกอย่างเพื่อสืบหาความจริง และผันตัวเองไปเป็นมือปืน เพื่อแลกกับการสืบหาเบาะแสคนที่ฆ่าพ่อ-แม่

ความแปลกใหม่ในการร่วมงานในโปรเจกท์นี้

คือโปรเจกท์นี้พี่พันนาคุยให้ได้ฟังมานานแล้วครับ ตอนที่ได้ฟังคอนเซปต์แล้วรู้สึกว่ามันฉีกจากทุกเรื่องของพี่พันนา คือ มีทุกรสชาติในหนังเรื่องนี้ มีเรื่องราวให้ลุ้น บวกกับแอ๊กชั่นดีไซน์ใหม่ๆ ร่วมสมัย ที่ฟังแล้วรู้สึกโหดมาก เพราะหนังเป็นแนวเรียลแอ๊กชั่น พอฟังที่พี่พันนาบอกจะเล่นทันที ดีใจมากครับที่พี่พันนามอบโอกาสนี้ให้

ถือเป็นการได้กลับมาร่วมงานกับผู้ที่ให้กำเนิดเราในเส้นทางนักบู๊ “พันนา ฤทธิไกร” อีกครั้งในรอบ 10 ปีอีกด้วย

คือตั้งแต่ “เกิดมาลุย” เรื่องแรก เรื่องนี้ก็ได้มาร่วมงานกันเต็มๆ อีกครั้ง เกิดมาลุยคือตั้งแต่แรกที่ผมได้มีโอกาสเข้ามาในวงการนี้จนมาเรื่องนี้เหมือนเป็นการครบรอบ 10 ปี จากเกิดมาลุยถึง “เร็วทะลุเร็ว”คือ 10 ปีพอดีครับ รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมงานกับอาจารย์ของเราอีกครั้งครับ

บทบาท และแตกต่าง เมื่อเปรียบกับเรื่องอื่น

ต่างครับ เพราะจะออกแนวเป็นผู้ชายที่เก็บกดเงียบๆ ไม่ค่อยพูดแต่ความจริงเขาจะคิดเยอะมากเพราะมีปมในใจ เรื่องราวในอดีตทำให้เขาต้องอยู่กับตัวเอง คืออยากรู้ว่าทำไมในอดีตเราต้องเป็นแบบนี้ ทำไมพ่อ-แม่เราถึงต้องเป็นแบบนี้ ทำให้เราต้องจมอยู่กับอดีตไม่ยอมเปิดรับอะไรใหม่ๆ ใช้ชีวิตอยู่แต่กับครอบครัวอย่างเดียวก็คือ อาหนอม(พิง ลำพระเพลิง) แล้วก็ธาร (วุฒิ นันทวุฒิ) น้องชาย ซึ่งเขามุ่งมั่นพยายามคิดทำทุกทางและพยายามสืบหาเบาะแสตลอดเวลา พยายามถามคนรอบข้างอย่างอาหนอมตลอดว่าทำไมพ่อกับแม่ถึงโดนฆ่า

การเตรียมตัวกับบทบาท

เยอะมากเลยครับ ต้องไปฝึกเรียนการใช้ปืน ต้องเรียนมีดทีมงานก็ส่งผมไปที่อรินทราชครับ คือผมก็มีทักษะมาบ้างแล้วตั้งแต่เล่นเกิดมาลุย หรือกับหลายๆ เรื่องที่ต้องมีการต่อสู้ด้วยอาวุธ การเตรียมตัวเพื่อทบทวนและเพิ่มเติม อย่างในเรื่องนี้จะเป็นการต่อสู้แบบประชิดตัวก็ใช้อาวุธทุกอย่างหรือสิ่งรอบตัวเรา ให้เป็นประโยชน์ ให้เป็นอาวุธได้ก็เลยต้องไปฝึกประมาณหนึ่งเดือนครับ

เรื่องนี้ถือว่าเป็นการรวมเอาทีมงานออกแบบคิวบู๊ และทีมสตันท์ระดับอินเตอร์มารวมไว้มากที่สุด

ใช่ครับ ก็มีทั้งทีมของพี่เซ้ง (กวี ศิริคะเณรัตน์-ผู้ควบคุมฉากเสี่ยงตาย) ที่เคยไปทำหนังบู๊ของฮอลลีวู้ดมาแล้วหลายเรื่อง รวมไปถึงทีมงานออกแบบคิวบู๊ที่อยู่เบื้องหลังงานแอ๊กชั่นของไทยมากว่า 10 ปี แล้วก็ทีมสตันท์ระดับอินเตอร์มากมาย รวมถึงทีมสตันท์ “ไฟท์ติ้งคลับ” จากเรื่อง “โคตรสู้ โคตรโส” ที่ไปคว้ารางวัลสตันท์ยอดเยี่ยม จากเทศกาลภาพยนตร์ แอ๊กชั่น เฟสต์ 2011 ประเทศสหรัฐ มา ก็มาร่วมเสี่ยงตายในหนังเรื่องนี้ด้วย

กับนักบู๊ดาวรุ่ง “วุฒิ นันทวุฒิ” ที่ต้องมาประชันแอ๊กชั่นกันในหนังเรื่องนี้

อย่างวุฒิผมเห็นเขามาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ตัวเล็กๆ เคยได้สอนมวย สอนยิมนาสติกให้ ทำให้เราไม่มีปัญหาเรื่องสิ่งต่างๆ คือเราสนิทกันอยู่แล้ว ทำให้การทำงานมันง่ายมาก คือคุยกันนิดเดียวรู้เรื่องเลย เราบอกว่าต้องการแบบนี้ๆ นะ วุฒิก็บอกโอเคได้พี่ ส่วนเรื่องของฝีมือไม่ต้องห่วงอยู่แล้ว เพราะวุฒิฝึกมาตั้งแต่เด็ก ฝึกมาเป็นสิบปีแล้ว

กับนักแสดงสุดเซอร์ไพรส์ “อ.ซีฟู”

เป็นคนที่สุดยอดมาก ผมว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ได้ร่วมงานกับเขา ผมก็ได้คลุกคลี เขาได้สอนมวยไทชิ ที่คล้ายๆ กับไทเก๊ก แล้วการต่อสู้ระยะประชิดแกก็เก่งมาก เราก็ขอคำปรึกษาจากแกได้ทุกอย่าง แล้วก็สอนไม่มีหวงวิชาเลย สำคัญคือเขาคือของจริงหมัดอย่างกะเหล็ก ขนาดใส่มาแค่ 20-30 เปอร์เซ็นต์ เรารู้สึกเหมือนคนที่เป็นวัยรุ่นชกเราเลย

ฉากเปิดเรื่องที่ผู้กำกับพันนาดีไซน์ลีลาแอ๊กชั่นเข้ากับกีฬาฟุตบอล

ก็สำหรับฉากฟุตบอลแอ๊กชั่น ก็ถือเป็นฉากเปิดเรื่อง เป็นคอนเซ็ปต์ที่ใหม่และน่าดูมาก เพราะมีองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งฝุ่นทั้งไฟ ทั้งน้ำ ทำให้หนังมีมิติแล้วก็น่าดูมากขึ้น ส่วนการถ่ายทำฉากนี้ก็เป็นช่วงที่เปิดกล้องแรกๆ ครับ

ความรู้สึกที่มีต่อ “พันนา ฤทธิไกร”

ผมว่าชื่อนี้ทำให้รู้สึกฮึดแล้วก็มีแรงบันดาลใจ อยากเจอแล้วก็อยากร่วมงาน อย่างผมก็ได้ดูหนังพี่พันนามาตั้งแต่เด็ก ก็ตั้งโจทย์ชีวิตตั้งแต่ตอนนั้นไว้เลยว่า เราอยากเป็นนักบู๊ อยากเล่นหนังแอ๊กชั่น เราอยากทำงานด้วย ทำให้มีความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปหาเขา เขาเป็นไอดอลที่อยู่ในใจทำให้เรามีแรงที่จะทำ ผมว่าทุกคนก็คงรู้สึกประมาณนี้คนที่ชอบหนังบู๊ คนที่ชอบสไตล์แอ๊กชั่น ก็ต้องรู้สึกว่าพี่พันนาคือไอดอล ถ้าไม่มีเขาก็คงไม่มีนักบู๊ที่มีชื่อเสียงเกิดขึ้นมา แล้วก็ทำให้เราอยากเพิ่งพลังตัวเองให้เก่ง เพื่อทำงานออกมาตามที่พี่พันนาต้องการให้เป็น

สิบปีของเส้นทางแอ๊กชั่นเดี่ยว-ชูพงษ์

สำหรับแฟนภาพยนตร์แอ๊กชั่น หรือว่าแฟนหนังของผม หรือของพี่พันนา ก็อยากให้ติดตามเพราะว่า มันเป็นภาพยนตร์ที่ครบรอบสิบปีของผมในเส้นทางแอ๊กชั่น ก็อยากจะฝาก “เร็วทะลุเร็ว” เพราะว่าเต็มที่มาก เรื่องนี้สนุกมาก บทก็ดี แอ๊กชั่นก็สุดยอด อย่างให้แฟนๆ ติดตามจะได้มีแรงที่จะทำงานต่อไป แล้วก็สร้างสรรค์งานคุณภาพออกมาให้ดูกัน อย่าลืมไปดูกันครับ วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์