เขาไม่ใช่พระเอกในละครเรื่องดังหรือพิธีกรคิวทองแต่ถ้าพูดถึงชื่อ ท็อป-พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร ทุกคนคุ้นหูกันแน่นอน ด้วยมาดเซอร์อาร์ติสท์แบบมีกึ๋นเขาจึงเปิดศูนย์การเรียนรู้งานออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนำไปสู่งานคิดที่สร้างสรรค์มากมาย วันนี้ “สตาร์เรโทร” จะพาย้อนไปดูงานที่ท็อปทำด้วยใจรักอย่างลึกซึ้ง รวมไปถึงการใช้ชีวิตร่วมกับสิ่งแวดล้อมอย่างมีความสุขในทุกการกระทำ
แค่หันมาทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและถนัด
ตอนนี้งานที่ทำอยู่ไม่ได้ทำวงการบันเทิงอย่างเดียว แต่เราทำงานออกแบบที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะฉะนั้นก็จะเจอพี่ๆ นักข่าวสายสิ่งแวดล้อม การศึกษาหรือว่าหนังสือดีไซน์ กลุ่มที่แตกต่างๆ ก่อนหน้านี้ทำรายการ บ้านและสวน ก็จะไปอยู่ในกลุ่ม วิศวะ ออกแบบ ประมาณนั้น ผมมองว่ารายการนี้เป็นรายการที่เหมาะสมกับตัวผมนะเราได้เห็นงานที่ดีๆ ได้คุยกับคนน่าสนใจ หลังๆ เลยตัดสินใจว่าจะทำสิ่งที่ชอบ หรือถ้ามีโอกาสก็ไปเป็นวิทยากรเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมตามมหาวิทยาลัยต่างๆ หรือว่าถ้าเกิดหน่วยงานภาครัฐหน่วยงานไหนอยากจะให้ผมไปร่วมเสวนาหรือบรรยายก็ไปครับ
เจ้าของ ศูนย์การเรียนรู้งานออกแบบ EcoShop Common
ศูนย์นี้ตั้งอยู่ที่ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ บริเวณชั้น 1 เป็นศูนย์การเรียนรู้ให้คนมาหาความรู้ ในนั้นจะประกอบไปด้วยนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม วัสดุในประเทศไทยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากโรงงาน บริษัทต่างๆ ก็มารวมตัวที่นี่ เราเห็นตัวอย่างของทั้งรัฐบาลและเอกชนทำอะไรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมบ้างก็เอามารวมอยู่ที่นี่ มีพื้นที่ขายสินค้าด้วย เป็นสินค้าพวก Eco Design ในกลุ่มที่ชื่อว่า Eco Design Thaiๆ (อีโคดีไซน์ไทยไทย) ผมทำเรื่องเกี่ยวกับ Eco Design แล้วก็ทำธุรกิจเพื่อสังคม คือเราทำโซเชียลเอ็นเตอร์ไพรส์ (Social Enterprise) สำหรับบริษัท มีโซเชียลเป็นชาแนลของเรา เฟซบุ๊ค ยูทูบ เราใช้สื่อโซเชียลของเราในการที่จะเผยแผ่ แต่ในขาหนึ่งก็ทำธุรกิจที่เกี่ยวกับ Eco Consult ทำอะไรที่มันเกี่ยวเนื่องกับสิ่งแวดล้อมนี่แหละแต่ใช้งานออกแบบที่เราถนัดเป็นตัวขับเคลื่อนครับ
เดินตรงสู่สายงานที่ชอบอย่างจริงจัง
ผมลองดูหลายอย่างแล้วล่ะครับ เริ่มจากภาพยนตร์ บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม ได้ลองเล่นละครดูบ้าง เหลี่ยมเพชรกะรัต ทางช่อง 7 ซิทคอมช่อง 3 พ่อแกกับแม่ฉัน ก็ลองดูหลายสิ่ง แต่ผมรู้สึกว่าผมเล่นห่วยอ่ะ ก็เลยบอกกับตัวเองว่า อย่าเลย พอเถอะ ถ้าเกิดเราทำงานที่จะต้องสื่อสารให้กับคนดูในวงกว้างแล้วทำแบบนี้ เราเองยังรู้สึกไม่ดีเลย คนอื่นเขาจะมารู้สึกชื่นชมหรือรู้สึกดีได้ยังไง ไม่อยากเหมือนสักแต่ว่าได้ทำ เลยถอยออกมา ไปทำดีเจด้วย ให้กับทางพี่ฉอด เอไทม์ ก็ลองทำดู พอดีช่วงเวลานั้นคาบเกี่ยวกับคลื่นยุบไปนะ พอคลื่นยุบปุ๊บ เราก็ไปทำพิธีกร แล้วก็ทำพิธีกรเต็มตัวมาเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่างานที่ชอบที่สุดแล้วสำหรับงานในวงการบันเทิงคือ“การเป็นพิธีกร”
งานใหม่ รายการใหม่
รายการ เปลี่ยนเถิดชาวไทย เป็นรายการเรียลิตี้ค้นหาไอเดียสร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในสังคมไทย ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 21.45 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี และ MCOT HD (Digital TV ช่อง 30) คงจะสืบเนื่องจากสิ่งที่ผมทำคือศูนย์การเรียนรู้ออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั่นแหละครับ ผมคิดว่า สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) คงเห็นสิ่งที่ผมทำก็เลยชวนมาทำรายการนี้ ก็ต้องสารภาพเลยว่า ตอนแรกปฏิเสธก่อนเลย เพราะเราไม่เชื่อว่าสิ่งที่ทำ ทั้งตัวผมเองในฐานะพิธีกร หรือว่าตัวรูปแบบรายการมันจะทำให้คนเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งเราเคยทำรายการแบบนี้มาก่อนหน้า แล้วหวังไว้ว่ามันจะมีการเปลี่ยนแปลงจริงๆ สุดท้ายผลออกมาเราอกหัก คนไม่ดู คนดูก็ไม่เปลี่ยนแปลง ก็ท้อ มันไม่ได้ผลเลยทำให้เราปฏิเสธดีกว่า
แต่วันที่มาคุยพี่ๆ ทีมงานโดยตรงเขาบอกว่าจริงๆ แล้วเขาไม่ได้มองว่ารายการนี้ออกไปแล้วจะทำให้คนเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย แต่เหมือนเป็นการจุดประกาย ให้คนได้เห็นแล้วก็อาจจะมีการปรับตัวเอง ฉุกคิดนิดหนึ่ง เพราะทาง สสส.เขาก็ทำเรื่อง งดเหล้า ออกกำลังกาย ลดพุง คือทำหลายอย่างมากก็ใช้เวลาเหมือนกัน ฉะนั้นพอผมได้ฟังประโยคแรกจากพี่ๆ เขาผมเริ่ม เออ…เฮ้ย…สิ่งที่เรากลัวเนี่ยมันอาจจะไม่ใช่แล้ว เขาเองก็รู้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพอเราฟังแล้ว เออ…จริง มันก็เริ่มจากสิ่งที่เราทำอยู่จากเล็กๆ น้อยๆ แล้วค่อยๆ ขยายวงกว้าง มันอาจจะไม่ได้มีคนดูรายการเท่ากับชมละคร มันอาจจะเป็นรายการเรียลิตี้รายการหนึ่งที่พอคนดูแล้วเริ่มที่จะคิดได้ว่า อื้ม จริงๆ แล้วเราก็สามารถที่จะทำอย่างที่เขาทำได้ หรือว่าไอเดียความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ก็สามารถที่จะนำมาปรับใช้ได้ เวลาเราเห็นอะไรมันจะไม่ใช่แค่การเห็นแต่มันจะเป็นการมองลงไปแล้วก็คิดกับมันด้วยว่า ถ้าเป็นฉันแล้วฉันจะทำยังไง หรือว่าถึงเวลาหรือยัง เริ่มได้หรือยัง หรือว่า เฮ้ย อยากจะลองดูก่อนก็ได้ก็ไม่เสียหลายเลยนี่น่า เพราะว่าแต่ละไอเดียของอาสาสมัครนักเปลี่ยนที่เขามาทำก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจ แต่ละไอเดียเจ๋งนะ
ได้เรียนรู้ไอเดียใหม่ๆ
ทุกไอเดียเจ๋งหมดครับ แต่ผมว่ากลุ่ม มนุษย์ป้า ซึ่งเป็นเด็กนักศึกษาสามคน คือ หัวข้อเรื่อง การเพิ่มกิจกรรมทางกาย เป็นการชวนให้คนไม่ได้อยู่ในภาวะที่อยู่นิ่งๆ น้องเขาเลยคิดว่าทำที่โหนราวรถเมล์ หรือรถไฟฟ้าที่เราก็ใช้กันประจำอยู่บ่อยๆ นี่แหละ ในขณะที่เราโหนอยู่นิ่งๆ เราสามารถจะเพิ่มกิจกรรมทางกายโดยการเอาที่บีบมือไปติดบนราว ติดอยู่ที่หลังเบาะ เรานั่งอยู่เฉยๆ รถติดๆ เราก็สามารถบีบได้ ผมชอบไอเดียที่เป็นไอเดียเล็กๆ ถ้าฟังเล่าไปก็เหมือนอาจจะไม่มีอะไรมากแต่ภาพที่มันออกมามันอิมแพค คือมันกระแทกคนได้เพราะว่าสิ่งที่น้องทำเป็นสิ่งที่ทำไม่ยากเลยใครๆ ก็สามารถทำได้ หาเรื่องใกล้ตัวเนี่ยแหละเอามาใช้
ต่อยอดและตอกย้ำสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ให้ชัดเจน
แน่นอนเราได้ความรู้ ได้ไอเดีย มีหัวข้อหนึ่งที่ตรงกับผมเลย คือในเรื่องของ สิ่งแวดล้อม หลายไอเดียสามารถที่จะต่อยอดได้ อย่างเช่นมีคนหนึ่งคิดทำตู้ใส่ขวดพีอีทีเข้าไป คือเหมือนเป็นตู้เอทีเอ็มตู้หนึ่ง แต่เราจะใช้วิธีการแลกเพื่อให้ได้รับเงินหรือผลตอบแทนด้วยการใส่ขยะลงไป เป็นถังขยะเอทีเอ็ม ผมจำชื่อไม่ได้ว่าชื่ออะไรแต่เป็นตู้ลักษณะแบบนี้แหละ ก็น่าสนใจผมเอาไปต่อยอดในสิ่งที่เราทำได้ด้วยแล้วผมก็ชวนเขาเอาของมาโชว์ที่หน้าศูนย์การเรียนรู้งานออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของผมเพื่อให้คนได้มาเห็นในไอเดียเหล่านี้
ฉะนั้นท็อปเป็นคนรักสิ่งแวดล้อมมากๆ ถูกไหม
(หัวเราะ) ไม่ถึงขนาดนั้น สารภาพว่าตัวเองไม่ได้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ 100% แล้วก็คิดว่าคนเราไม่สามารถที่จะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ 100% เต็มเช่นเดียวกัน ผมแค่ทำในสิ่งที่ผมชอบ ลองทำและรู้สึกว่าถนัด แล้วผมก็ทำต่อไป การเดินทางแต่ละครั้งก็ไม่ได้ปั่นจักรยานไปได้ทุกที่ เราไม่ได้แต่งกายที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติ 100% ไม่ฟอกหรือย้อม คือเราเป็นมนุษย์ที่สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและยังมีกิเลสติดตัวอยู่ด้วย ผมก็พยายามที่จะทำในสิ่งที่ผมรู้สึกดีและเข้ากับตัวผมได้ ผมพกผ้าเช็ดหน้าทุกวัน เลือกที่จะถือถุงผ้าซึ่งจะมีติดตัวผมตลอด ข้อดีคือผมคิดว่ามันดีต่อตัวผมเองก่อน เวลามีเหงื่อก็ไม่ต้องเอามือไปจับก็หยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ด สิ่งที่จะดีต่อสิ่งแวดล้อมต่อมาคือผมไม่ต้องดึงทิสชู เวลาที่ผมพกถุงผ้าผมก็ไม่ต้องใช้ถุงพลาสติก ของผมก็จะกองๆ อยู่ในถุงผ้า ของไม่เคยหาย เพราะถุงผ้าก็ไม่ได้ดูมีราคามาก ก็ทำเพราะรู้สึกว่ามันดีต่อตัวเราเอง
สไตล์การท่องเที่ยวแบบท็อป
ผมก็เป็นมนุษย์ Eco ที่ยังมีกิเลส ฉะนั้นการท่องเที่ยวหรือการใช้ชีวิตก็จะมีทั้งสิ่งที่เราทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีบางสิ่งที่เราก็ทำเพื่อตอบสนองNeeds ของตัวเองก็เลยทำให้การท่องเที่ยวของผมปกติเหมือนคนทั่วไป แต่ผมอาจจะคิดเยอะนิดหน่อยเวลาที่ผมทำอะไร อย่างถ้าเปรียบเทียบง่ายๆ เลย เมื่อก่อนเวลาอยู่ในห้องเปิดแอร์ทิ้งไว้เพราะเดี๋ยวกลับมาจะได้เย็นเลย คราวนี้เราก็ปรับพฤติกรรมง่ายๆ โดยการปิดทุกอย่างเพราะเราไม่ได้อยู่ ออกไปกลับมาเปิดใหม่เดี๋ยวแป๊บเดียวก็เย็นล่ะ หรืออย่างเวลาไปไหนก็ทำง่ายๆ ไม่ได้ทิ้งขยะตามที่ไม่ควรทิ้ง ไม่ทิ้งอะไรจารึกเอาไว้ ผมก็ไปทำในสิ่งที่ควรจะต้องทำในแต่ละที่ ผมไม่ได้ทำอะไรที่ผิดแปลกจากสิ่งที่ควรจะต้องทำ ผมทำสิ่งที่มันควรจะต้องทำอยู่ตรงนั้นนะแค่นั้นเอง
มองอนาคต
ผมว่าคนสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ก่อนหน้านี้อาจจะแค่รู้ผ่านๆ แต่ตอนนี้รู้สึกสนใจ รู้สึกดีมากขึ้น ก็เลยคิดว่าภาครัฐก็สนับสนุนในเรื่องสิ่งแวดล้อม เอกชนในหลายๆ บริษัทก็ทำเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อม พอคนสนใจในเรื่องนี้มากขึ้นเดี๋ยวมันก็จะมีการปรับพฤติกรรมแต่การปรับพฤติกรรมก็มีหลายระดับ เราพยายามที่จะบอกว่ามันง่ายนะ มันสื่อสารได้ง่ายๆ อย่างคลิปวีดีโอ Eco 24 ชั่วโมงที่ให้ดารานักแสดงคนมีชื่อเสียงมาแสดงว่าเราเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ตลอด 24 ชั่วโมงจริงๆ แล้วในแต่ละชั่วโมงจะเป็นมิตรได้ยังไงบ้างก็ทำให้มันง่ายๆ คิดว่าต่อไปมันก็น่าจะเป็น Community ได้อย่างที่ผมใฝ่ฝัน คือเหมือนเป็นชุมชนของสิ่งแวดล้อมครับ
งานช่วยสอนการดำเนินชีวิต
แน่นอนครับ คือโอเคขึ้นนะผมว่า อย่างเวลาที่เราลองปรับตัวเองในบางจุด มันเหมือนกับเราก็ได้แคร์สิ่งที่เราเห็นอยู่ เพราะเราจะต้องอยู่กับมันต่อไปลูกหลาน ครอบครัว เพราะฉะนั้นเวลาเราแคร์สิ่งแวดล้อมก็เหมือนกับเราแคร์คนในครอบครัวด้วย สอนให้เราแคร์มากขึ้น
ความสุขที่สุด ณ เวลานี้
คือการที่เราได้ทำในสิ่งที่ชอบนี่แหละครับ อาจจะไม่ได้มีความสุขในทุกช่วงเวลานะ มันมีปัญหาแน่นอนแหละ มีช่วงเวลาที่ทำให้เราเครียด แต่ผมก็คิดว่าเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่เราก็คงต้องเจอคงไม่ได้มีอะไรสำเร็จราบเรียบไปหมดแต่สิ่งที่ทำอยู่ทั้งหมดเนื่องจากเป็นความชอบก็เลยทำให้เรามีพลังในการที่จะแก้ปัญหามันไปเรื่อยๆ
จังหวะชีวิตตอนนี้
โอ้โห ขึ้นๆ ลงๆ ผมยังไม่สามารถที่จะแบบเป็นเส้นตรงได้ขนาดนั้นซึ่งก็รู้แหละว่ามันควรจะต้องเป็นแบบนั้นในอนาคตหรือถ้าเป็นได้เร็วหน่อยก็ดีแต่ตอนนี้มันไม่ได้ สวิง เหลือเกิน (หัวเราะ)
อัพเดทสเตตัสหัวใจ
ก็โอเคครับซึ่งก็คบกันมายาวนานมากกับคุณนุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา ตอนนี้ก็ให้นุ่นเข้ามาเหมือนเป็น CEO ของบริษัท เราก็ทำหน้าที่เป็นดีไซเนอร์ ก็เป็นการทดลองดูว่าถ้าเกิดมาทำด้วยกันแล้วอยู่แบบนี้แล้วมันจะเป็นยังไงบ้าง (ยิ้ม)
สิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนช่วยกันดูแลได้แค่ “เริ่ม” ทำจากเรื่องง่ายๆ ซึ่งท็อปเป็นเพียงคนตัวเล็กๆ ที่รักและใส่ใจสิ่งแวดล้อมและอยากจะเป็นสื่อกลางให้อีกหลายคน “ปรับ” เพื่อ “เปลี่ยน” ตัวเองให้ “เรียนรู้” ที่จะแคร์ “สังคมแวดล้อม”แม้จะไม่ 100% เต็มก็ตาม
กระแตน้อย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี