วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / บันเทิง
star Retro : ชีวิตที่ออกแบบไม่ได้ ‘บ๊อบ’ ทูน หิรัญทรัพย์

star Retro : ชีวิตที่ออกแบบไม่ได้ ‘บ๊อบ’ ทูน หิรัญทรัพย์

วันอาทิตย์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558, 06.00 น.
Tag :
  •  

“ตอนเกิดมาเราไม่มีอะไร เพราะฉะนั้นตอนที่เราอยู่ก็ควรสร้างอะไรไว้ให้คนอื่นบ้าง ถ้าเรามีโอกาสทำได้ อย่างน้อยๆ วันที่เราตาย ก็มีคนมางานศพเรา มีคนพูดถึงคุณงามความดี ผมคิดที่จะทำเพื่อสังคม ก็เพราะว่าอยากให้กำลังใจคนอื่นไม่ใช่ว่าจะให้ตัวเองมีชื่อเสียงอะไร”

เป็นบทสนทนาที่เตือนสติได้ดีทีเดียวหลังจากที่ “ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” ได้ใช้เวลาพูดคุยกับนักแสดงมากฝีมือ ที่กำลังง่วนอยู่กับการถ่ายละครบ๊อบ-ทูน หิรัญทรัพย์ หลังจากที่เขาได้ผ่านร้อนผ่านหนาว รวมไปถึงช่วงวิกฤติที่สุดในชีวิตมาอย่างโชกโชน “บ๊อบ” ต่อสู้กับปัญหาเหล่านั้นแบบไหน อะไรคือกำลังใจในการทำงานเพื่อเดินต่อไปข้างหน้า สตาร์เรโทร ขอพาแฟนๆ ตามติดอีกมุมหนึ่งของชีวิตบ๊อบ-ทูน หิรัญทรัพย์


l ก่อนจะมาเป็น ทูน หิรัญทรัพย์

เข้าวงการแรกๆ อายุประมาณ 23-24 ปี ยังไม่รู้ว่าวงการบันเทิงหรือหนังใหญ่เขาทำกันยังไง แต่ว่าก็ได้มีการศึกษามาก่อน เพราะผมเรียนโฆษณาที่ออสเตรเลีย พอกลับมาเมืองไทยเราก็เริ่มทำงานเปิดบริษัทเล็กๆ ของเราร่วมกันทำกับเพื่อนๆ พอเข้าวงการทำงานได้ 2 ปี ไปเจอคุณเปี๊ยก โปสเตอร์ ชวนมาร่วมงาน ผมถามว่าทำอะไร อาเปี๊ยกก็บอกว่าทำหนังใหญ่ ผมก็บอกว่าจริงเหรอๆ ผมชอบขอจองตำแหน่งนี้เลยเป็นตากล้อง (หัวเราะ) อาเปี๊ยกบอก ไม่ใช่ ผมจะให้คุณเป็นพระเอก ผมก็ตกใจสิ ผมเนี่ยนะพระเอก ตัวดำ ผอม มีหนวด เพราะชอบไว้หนวดไงตอนนั้น อยากเป็นผู้ใหญ่จะได้ดูแก่ๆก็มองตัวเองว่าเฮ้ยเราก็ไม่น่าจะใช่นะ เพราะลุคพระเอกหนังไทยต้องมีกล้าม มีชื่อภาษาไทย ผมไม่มีชื่อภาษาไทย ตอนนั้นผมชื่อ โรเบิร์ต โจเซฟ เชสเปเดส ฝรั่งจ๋าเลย ทูน หิรัญทรัพย์ ยังไม่เกิดเลย(หัวเราะ) ก็บอกอาเปี๊ยกไปว่าไม่ได้หรอกผมเป็นพระเอกไม่ได้ ก็ต่อรองกันไป-มา แล้วอาเปี๊ยกก็รู้ว่าเราเป็นคนสนุกสนานแกก็บอกว่า เฮ้ยเล่น เรื่องแก้ว ให้อาก่อน ซึ่งเรื่องแก้วเป็นเรื่องราวชีวิตของแก แต่ก็มีดัดแปลงบ้างจากที่เป็นนักวาดภาพก็มาเป็นนักดนตรีเพราะชีวิตจริงผมก็เป็นนักดนตรีด้วย ตอนที่แกไปเจอผมก็ไปเจอที่ดิสโก้เธค วันนั้นไปเที่ยวแล้วไปเจอเพื่อนเป็นดีเจ เพื่อนก็สอนเต้นดิสโก้ อาเปี๊ยกมาเห็นตอนนั้นพอดี ซึ่งคนที่พาอาเปี๊ยกมาก็คือ คุณลินดา ค้าธัญเจริญ เพราะลินดากับผมเป็นเพื่อนกันมาก่อน ตอนนั้นลินดาก็ยังไม่ได้เล่นหนังเลยเป็นนางแบบเฉยๆ ลินดาเห็นผมก็เลยเรียกอาเปี๊ยกมาดูตัว พออาเปี๊ยกมาดูก็บอกว่า ใช่เลย เขาต้องการคาแร็กเตอร์แบบนี้สนุกสนาน มีความเป็นศิลปินในตัว เล่นกีตาร์ เปียโนได้ ผมเล่นเรื่องแรกแก้ว คู่กับ ลินดา ค้าธัญเจริญ เปิดตัวครั้งแรกที่โรงหนังเอเท็น ผู้ผลิตก็คือบริษัทไฟว์สตาร์

l ที่มาของชื่อ ทูน หิรัญทรัพย์

อาเปี๊ยกตั้งให้ เขาบอกว่าหนังไทยไม่เคยมีชื่อพระเอกที่เป็นฝรั่งนะ ก็เลยไปหาชื่อมาตั้งให้ได้มาเป็น ทูน หิรัญทรัพย์ ถามว่าชอบไหม ผมไม่ค่อยเข้าใจภาษาไทย ก็เลยรู้สึกว่าชื่อไหนก็ได้ แต่ก็ยังเป็น บ๊อบ ช่วงนั้นไปไหนมาไหนคนก็จะจำชื่อได้จากหนัง คนเรียก ทูน ทูน ผมก็ยังไม่ชินไม่หัน เพราะไม่คิดว่าเป็นตัวเอง แต่พอมาเล่นเรื่องที่ 2 ไข่ลูกเขย โอ้โห ไปไหนมาไหนคนรู้จักเราแน่นอนชัวร์เลย

l แจ้งเกิดเต็มตัว

จากเรื่องไข่ลูกเขย คิดว่าด้วยเนื้อเรื่องความเป็นชนบทคน เข้าถึงง่ายนะ ที่ให้หนังเป็นที่นิยมชมชอบ แล้วก็อย่าลืมว่าคนดูสมัยก่อนจะอยู่ต่างจังหวัดคราวนี้คุณเปี๊ยก โปสเตอร์ แกบอกว่า เนื่องจากว่าคนดูตรงนั้นเยอะก็ต้องทำตรงให้คนทั่วประเทศดู ไม่ใช่ดูในกรุงเทพฯอย่างเดียว แต่ที่เลือกเรื่องแก้ว ก็เพราะแกอยากทำเรื่องชีวิตของแก ว่าอกหักผิดหวัง ก็ได้กลุ่มเป้าหมายเป็นนักศึกษาขึ้นมา อย่างพวกนิตยสารภาพยนตร์บันเทิง เขาก็บอกว่า ก่อนคุณมายังไม่มีพวกนักศึกษาเขียนจดหมายมาถามดาราเลยนะว่าอะไรยังไง พอตอนหลังต้องเปิดคอลัมน์หนึ่งไว้ให้พวกเขาเขียนมา เพราะว่าเขาจะเขียนคำถามอีกระดับหนึ่งคือถามถึงผมจากเรื่องแก้ว เพราะเรื่องแก้วจะเข้าถึงกลุ่มนักศึกษาวัยรุ่น ส่วนอีกเรื่อง โทน ก็จะเข้าถึงคนทั่วไป สองเรื่องนี้ก็เข้าฉายห่างกันอยู่ประมาณ 4-5 เดือนหนังสมัยก่อนเร็วนะเพราะว่าหนึ่งกล้องไม่มีโอบี ไม่มีสี่ห้ากล้อง ต้องคอนตินิวเอง เสื้อผ้าเอาไปเองยกเว้นอาหาร อย่างเรื่องไข่ลูกเขย ก็จะเป็นอะไรที่ได้อรรถรสของการอยู่ต่างจังหวัด เพราะผมก็ไม่เคยไปต่างจังหวัดมาก่อน ได้เรียนรู้ชีวิตชาวบ้านไปด้วย เรื่องที่ 3 คุณปู่ซูซ่า เรื่องนี้จะเปรี้ยงกว่าไข่ลูกเขยอีก เพราะได้ทั้งต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ เรื่องไข่ลูกเขย เล่นกับ จิ๊ก-เนาวรัตน์ ได้ต่างจังหวัด ส่วนเรื่อง คุณปู่ซู่ซ่า ได้ทั้งสอง ได้เล่นกับนางเอกยอดนิยมอย่าง คุณเปิ้ล-จารุณี พอไฟว์สตาร์ ประสบความสำเร็จจาก คุณปู่ซูซ่า ปั๊บเขาก็ทำเรื่องต่อไปคือ คุณย่าเซ็กซี่ ก็เป็น คุณปู่ซูซ่า คุณย่าเซ็กซี่ ก็เล่นต่อทั้งสองเรื่อง ดีใจและภูมิใจเราเป็นพระเอกคนแรกที่ได้เล่นกับอาเปี๊ยกโปสเตอร์ 4 เรื่องติด ก็ทำลายสถิติของคนอื่นที่เคยเล่นกับอาเปี๊ยก

l เคล็ดลับที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการแสดง

ผมว่าต้องขึ้นอยู่กับตัวเราเอง และมีองค์ประกอบอยู่ 3 อย่าง 1.ต้องมีพรสวรรค์ 2.มีคนสนับสนุน อย่างผมก็ได้คุณเปี๊ยกโปสเตอร์ หรือจะเป็น คุณพ่อ คุณแม่ พี่ ป้า น้า อา เพื่อนเรา คนดูผู้ชม 3.จังหวะชีวิต ของผมน่าเป็นจังหวะที่เขาอาจจะเบื่อพระเอกกล้ามใหญ่กันแล้ว เริ่มอิ่มตัวตรงนั้น แล้วเราก็มาพอดี ทุกอย่างคือจังหวะชีวิต ไม่ใช่ดวง เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็น พรสวรรค์ โอกาสที่คนเขาให้เรา และจังหวะที่พระเอกขาดตลาด ก็เลยพอเหมาะพอเจาะของผมในช่วงเวลานั้น

l ชีวิตครอบครัว

สมัยก่อนทางเจ้าของหนังจะขอร้องไม่ให้เปิดเผยเดี๋ยวขายไม่ออก ตอนนั้นก็มีแฟนก่อนเข้าวงการอีกนะ แล้วหลังจากนั้นปีสองปีก็มีลูก ตอนนี้ลูกคนโตอายุ 32 แล้ว คนที่สองก็ 29 คนที่สาม 20 เป็นลูกสาวหมดเลย ตอนนั้นเราก็คิดแบบฝรั่งนะว่าเอ๊ะทำไมเราไปไหนมาไหนด้วยกันไม่ได้ ไปกินข้าวก็ไม่ได้ เพราะเจ้าของหนังก็ขอไว้ว่ายังไม่ต้องเปิดเผยได้ไหม พออยู่ไปนานๆ สังคมไทย วัฒนธรรมไทย นิสัยคนไทยบางทีก็ไม่ชอบอะไรที่ตรงมาก อ้อมๆ บ้างก็ได้ ก็ได้เรียนรู้ไปด้วย

l ความประทับใจในผลงานของตัวเอง

มีสองลักษณะครับ คือ ได้เล่นแล้วหนังทำเงินให้ผู้สร้างมากๆ และเหตุผลที่สองประสบความสำเร็จในฐานะที่ว่าคนยอมรับเรา พระ-นางต้องเป็นคนนี้ บ๊อบทูน-เปิ้ล จารุณี เพราะพระ-นางสำคัญมากในอุตสาหกรรมบันเทิงหนังไทย ถ้าไม่มีพระนางก็ไม่มีประโยชน์อะไร แล้วเขาใช้คุ้มมาก เหนื่อย ถ้าเดือนหนึ่งหนังออกมา 5 เรื่อง ก็จะมี เราสัก 4 เรื่อง ผมน่าจะเป็นพระเอกคนแรกที่บอกว่า น่าจะมีพระเอกเยอะๆ นางเอกเยอะๆ จะได้ช่วยกันแบ่งเบาความเหนื่อย (หัวเราะ) แต่เราก็ไม่รู้ว่าวัฒนธรรมไทยประเพณีคนดูหนัง จะเป็นแบบนั้น ต้องคู่นี้อะไรแบบนี้ ก็เลยไม่รู้เรื่อง พูดตามความรู้สึก ผมก็จะเป็นคนตรงๆ ไม่มีการค้าการขาย

l จับพลัดจับผลูออกเทป

มีคนบอกว่าพูดไทยไม่ชัดเป็นพระเอกได้ยังไงกล้ามก็ไม่มีไม่เหมือนพระเอกคนอื่น พอไปงานรับรางวัลต่างๆ ก็ไปเจอพี่เต๋อ-เรวัติ เราก็บอกว่า พี่เต๋อผมอยากทำเทป พี่เต๋อก็เหรอ! ตกใจ แกกับไพบูลย์ก็มาที่บ้าน คุยคอนเซ็ปต์เพลงเป็นยังไง แล้วแกก็บอกบริษัทแกเล็กๆ นะ ตอนนั้นก็มีแหวน-ฐิติมา, ตู่-นันทิดา, พี่เต๋อ ศิลปินมีไม่กี่คน ผมเป็นดาราคนแรกที่ไปออกเทปกับพี่เต๋อ คราวนี้เขาระดมเลยนะ เอาอัสนีมาช่วยเขียน ศราวุธ มาช่วยเขียน เยอะแยะไปหมดเลย แล้วก็ทำเทปชื่อ “ผู้ชายเฉิ่ม เฉิ่ม” เพลงฮิตก็จะเป็นเพลง “โปรดตัดสินใจ” แล้วก็มีเพลงจังหวะสนุกๆ เป็นงานที่ยากนะเพราะภาษาไทยไม่เก่ง แต่เราก็ต้องเอาชนะ ต้องการลบคำสบประมาท สุดท้ายก็ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ว่า ลูกครึ่งคนนี้ใช้ได้นะ แต่ว่าเราก็ต้องศึกษาคำจริงๆ เพราะเราก็ร้องแบบเราท่อง เราไม่เข้าใจภาษาไทยประโยคนี้ตีความไม่ออก อย่างที่สองที่ต้องไปปรับก็คือ อย่าให้เสียงเหมือนพี่เต๋อ เพราะเราเรียนกับพี่เต๋อ ขนาดพี่เต๋อฟังเองยังคิดว่าเสียงตัวเอง หลอกพี่เต๋อได้ (หัวเราะร่วน) พอเปิดตัวอัลบั้มมาคนรู้จัก หลังจากนั้น 6-7 ปี ก็มาทำกับช่อง 3 คุณประชา มาลีนนท์ เขาทำ เอสพี ศุภมิตร คุณไบรอัน บอกเฮ้ย!บ๊อบต้องผมยาว คุณต้องร็อก ผมก็ตกใจสิครับ ผมจะร็อกได้เหรอ 38 แล้วนะตอนนั้น เขาก็บอกไม่มีใครมาเป็นผู้ใหญ่ให้หน่อยเพราะนอกนั้น 20 กว่าหมดเลยก็ออกอัลบั้ม “ทูนเต็มร้อย”

l ผลงานการสร้างด้านละคร

“เพื่อนรักสามมิติ” ของช่อง 3 เป็นละครเด็กได้รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ประเภท ละครโทรทัศน์สร้างสรรค์เยาวชนดีเด่น ผมผลิตแล้วก็กำกับเอง หลังจากนั้นก็มาทำเรื่อง “แม่มดแจ๋วแหวว” ได้พี่ตุ๋ย- มลฤดี มาเล่น ผมเป็นคนที่ชอบแนวแฟนตาซี อยากให้เด็กดูอะไรพวกนี้ แล้วก็มีรายการเกมโชว์ มิวสิกเกม เป็นเกมทายเพลง ทำสารคดีให้ช่อง 5 ด้วย

l รางวัลเชิดชูเกียรติในการแสดง

ถ้าสมัยหนังจะได้จากบริษัทโกดักฟิล์ม ฟูจิฟิล์ม แล้วก็ได้รับความนิยมจากประชาชน แต่จะมีครั้งหนึ่งของหนังสือพิมพ์บ้านเมือง เขาจัดโหวตมั้งตอนนั้น ก็ได้รางวัลมหาชน ได้คู่ขวัญกับเปิ้ล-จารุณี (ไม่ได้รางวัลการันตีเหมือนคนอื่นเขา รู้สึกอย่างไร?) อาจจะเป็นเพราะด้วยความที่เราเป็นคนตรงไปตรงมาแบบนี้เราก็บอกเราไม่อยากได้ เขาก็เลยไม่อยากให้ เราก็ไม่สน(หัวเราะ) ผมว่าเราทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยใจที่เรารัก ขนาดทำอิมพอร์ต เอ็กซ์พอร์ต ไม่ได้เรียนมาก็ทำ แต่ใจเราอยากจะทำ เราได้ทำแล้วเราก็ไปถึง เป็นบริษัทไทยบริษัทแรกที่ไปจดทะเบียนเป็นตัวเป็นตนที่รัสเซีย มอสโก แล้วก็ไปเปิดสาขาที่วอร์ซอ ที่โปแลนด์ สินค้าที่ใช้ในตลาดทุกวันนี้ก็มีบางตัว ถ้าเอ่ยชื่อก็คงรู้จัก ณ ปัจจุบันก็เป็นที่ปรึกษาสำนักงานตัวแทนการค้าไทยที่ทำเนียบรัฐบาล เป็นที่ปรึกษาทำกับ ดร.โอฬาร คุณวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ก็เป็นเซตเดียวกัน แต่ในฐานะที่ปรึกษาก็รับปรึกษาด้านการค้าระหว่างประเทศอินเดียกับไทย เพราะว่าเราถนัดเรื่องของการที่ว่าอุตสาหกรรมบันเทิง แล้วเราจะทำวงการบันเทิงยังไงให้บูมได้ ทำไงให้เอาเม็ดเงินจากต่างประเทศมาประเทศไทยได้

l ย้อนถามถึงเรื่องปัญหาสุขภาพ

คือประมาณ 5 ปีแล้ว ตอนนั้นทุกข์มากนะ จริงๆ แล้วการเป็นต้อหินมุมปิดฉับพลันเกิดจากที่ว่า หนึ่งไม่ดูแลสุขภาพ ไม่หมั่นไปตรวจ เพราะเราก็คิดว่าเราเป็นซูเปอร์แมนตลอดชีวิตได้ จริงๆ ไม่ใช่ ก็เลยไม่รู้ว่าแม้แต่มนุษย์ทั่วไป เวลาไปตรวจก็จะไม่ตรวจตาเราก็คิดว่าเราไม่เป็นไร ไม่ต้องไปหาหมอ แต่เราก็ไม่รู้ว่าเราใช้อวัยวะร่างกายเราไปเยอะแยะมันก็ต้องมีเสื่อมบ้างเป็นธรรมดา สุดท้ายเป็นเรื่องของการที่ว่าเป็นเบาหวาน ซึ่งเกิดขึ้นได้สองกรณีคือ พันธุกรรม แล้วก็เครียด ส่วนของผมเกิดจากพันธุกรรม ที่ว่าต่อมของเราไตของเราทำงานผิดปกติ มันไม่ผลิตอินซูลินเพื่อไปลดหรือทำให้น้ำตาลมันบาลานซ์กัน เราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้พอเป็นปั๊บมันก็กลายเป็นปัญหาที่ตามมา เราไปแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไปเจาะลูกตา ผ่าตัดอะไรต่างๆ จริงๆ เราไม่รู้ว่าเส้นประสาทตาเรามันหายไปหมดแล้ว เหมือนลูกกอล์ฟเส้นประสาทตาสีแดงๆ เต็มไปหมดเลย เพราะเบาหวาน ความดันขึ้นตา ตอนนั้นไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเบาหวานไม่ได้ตรวจอะไรทั้งสิ้นรู้อย่างเดียวว่าเป็นไมเกรน คือปวดข้างเดียวเบาหวานขึ้นตาไม่เป็นไรถ้าร่องน้ำตาเรามันไม่อุดตัน เขาถึงเรียกว่ามุมปิด ซวยซ้ำซ้อน น้ำตาจะไหลก็ไหลไม่ได้ มันตัน ทรุดเลย คราวนี้น้ำตาไม่ไหลตาบวมก็เลยกลายเป็นว่าความดันขึ้นตา ทำให้เส้นประสาทตาแตก คือชำรุดไปหมด ตอนนั้นไปประชุมมูลนิธิเมาไม่ขับแล้วก็ไปหาหมอนักข่าวเต็มเลย ซึ่งเราก็ตกใจไม่คิดว่าจะต้องบอกใคร คิดว่าตัวเองเป็นคนธรรมดา ไม่จำเป็น ตอนนั้นไปหาทุกหมอ เครียดกลัวตาบอด แล้วก็มีตัวแทนพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ จะมารับเป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์ แต่ก็เหมือนแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เวลาถ่ายรูปออกมาจะเห็นเลยตาข้างหนึ่งขาวโพลน แต่อีกข้างยังมีแดงมีเส้นประสาท ก็มีคนโทร.มาว่าจะบริจาคตาให้ ทุกวันนี้ก็ทำใจแล้วครับ ไปตรวจตาไม่ให้ข้างซ้ายมันเป็น ก็ชะลอได้โดยการควบคุมเบาหวาน ไม่เครียดแล้วก็หมั่นไปหาหมอ ดูแลรักษาสม่ำเสมอครับ

l สิ่งที่ภูมิใจที่สุด ณ บั้นปลายชีวิต

การได้เขียนทฤษฎีว่าเด็กจะต้องคิดเป็นมีกระบวนการคิดที่ถูกต้องเป็นพลเมืองดี แล้วก็ผลิตสื่อรณรงค์ให้กับสังคม ผมพูดมา 11 ปี คนฟังไม่รู้เรื่อง สอนมา 100 กว่า โรงเรียน ก็ค่อยๆ ปรับมาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันที่ภูมิใจที่สุดในชีวิตก็คือ มูลนิธิเดอะบอส รับอุปการะโครงการเราชื่อว่า ศูนย์เยาวชนพลเมืองดีสร้างสรรค์สื่อสร้างสรรค์สังคม YCM คือเราสร้างให้เยาวชนจิตอาสาได้คิดเป็นมีกระบวนการในการคิดที่ถูกต้อง รู้ว่าตัวเองเกิดมาเพื่ออะไรและจะทำอะไรตอบแทนสังคม สองเป็นพลเมืองดีเป็นยังไง ถ้าเรียนแล้วเป็นความรู้แล้วเก็บไว้กับตัวคุณต้องสร้างสื่อรณรงค์ เพื่อไปบอกคนอื่นต่อไป ช่วยกันรักษาประเทศไทยไว้ คำว่ารักษาก็ต้องรักษ์ทุกอย่าง เราก็ไปร่วมกับ Rotary club แล้วเราก็เอาเข้าสหประชาชาติ เข้าไม่ได้ง่ายแต่พอเข้าไปแล้วเขาบอกเขาขอให้เอาทฤษฎีที่เราสอนเด็กและเยาวชนนี้ไปทำทั่วเอเชียได้ไหม ไม่ว่าจะเป็นสหประชาชาติ Unescap,Unesco,Usaid,Uspeace Corp ก็คือเรื่องของสันติภาพ แล้วก็ Global Peace Foundationเป็นมูลนิธิที่ทำในเอเชีย เอาเยาวชนมาทำความดีสร้างความดี ช่วยเหลือสังคม คนที่เป็นวิทยากรก็จะมีอาจารย์จามหาวิทยาลัย จากมหานคร จากเกษตรฯ แล้วก็คนที่มีประสบการณ์ ผมไม่เอาน้ำผมเอาเนื้อคุย 5 นาที ให้เขียนเลย มีกระดาษให้ลองดูเลย ให้เวลา3 นาที ก็สอนหมดเลย ผมอยากให้นักแสดงรุ่นใหม่มองถึงอนาคตว่าตัวเองไม่ใช่ว่าจะหาเงินอย่างเดียว แต่ว่าให้คิดด้วยว่าคุณจะทิ้งอะไรไว้ให้เยาวชนคนรุ่นหลังวันนี้คุณหนุ่ม คุณสาว วันหนึ่งคุณอาจจะแก่ ตอนที่คุณแก่คุณมีค่าแค่ไหน เหมือนผม ที่อาจจะไม่มีค่าในวงการบันเทิงแต่ผมมีค่าในข้างนอก ผมอยากเป็นสตีฟ จ๊อบส์ ทางด้านความคิด เพราะตอนเขาจะทำไอโฟนคนหาว่าเขาบ้า จะเอามือถือทำเป็นทุกอย่างบ้าหรือเปล่า แต่เขาทำได้ โชคดีที่มีตัวอย่างแบบนี้ ผมอยากมีความคิดที่แตกต่าง เอดิสัน ค้นคิด ยังไงให้มันเก็บแสงสว่างได้ ไส้ มันเขาคิดว่าทำยังไงให้มันเก็บได้ แต่คนอื่นก็เอามันมาพัฒนาต่อทำเป็นหลอดไฟทำเป็นอะไรต่อมิไร คนเดียวคิดแต่อานิสงส์เกิดขึ้นทั่วโลก

l แนวคิดในการดำเนินชีวิต

คนอื่นอาจจะวางมาตรฐานอะไรเยอะแยะ แต่ของเราไม่มีเพราะมาตรฐานไม่ได้เกิดขึ้นกับที่เราวาง มันเกิดขึ้นกับตัวเองเป็น เราก็วางไว้ว่า ตอนเกิดมาไม่มีอะไร เพราะฉะนั้นตอนเราไปเราก็ไม่มีอะไร ตอนที่เราอยู่ตอนนี้เราก็สร้างให้คนอื่นซะ ถ้าเรามีโอกาสสร้างได้เราก็สร้าง อย่างน้อยๆ วันที่เราตายก็มีคนมางานศพเราแล้ว (หัวเราะ) มีคนพูดถึงคุณงามความดีเราคิดที่จะทำเพื่อสังคมก็เพราะว่าอยากให้กำลังใจคนอื่น ไม่ใช่ว่าจะให้ตัวเองมีชื่อเสียงอะไรนะ นั่นคือจุดประสงค์ที่ว่า ปิดทองหลังพระ


เป็นอีกหนึ่งมุมมองชีวิตของนักแสดงคุณภาพ ที่นอกจากจะสร้างสรรค์ความบันเทิงให้แก่ประชาชนแล้ว ทูน หิรัญทรัพย์ ยังเลือกที่จะช่วยเหลือและมอบสิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคมอีกด้วย

กุหลาบสีเงิน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • แซ่บ!ถึงเครื่อง\'เต้ กันตนา\'ถอดจริงเปลือยท่อนล่างโชว์ผิวเนียนสวย สะกดทุกสายตา! แซ่บ!ถึงเครื่อง'เต้ กันตนา'ถอดจริงเปลือยท่อนล่างโชว์ผิวเนียนสวย สะกดทุกสายตา!
  • ปรากฏการณ์ระดับเอเชีย! เปิดตัว  ‘Dating Game เดทเกมนี้ ต้องได้ใจนาย’ สู่สายตาผู้ชมครั้งแรก ในงาน ‘Heart Opening Day’ ปรากฏการณ์ระดับเอเชีย! เปิดตัว ‘Dating Game เดทเกมนี้ ต้องได้ใจนาย’ สู่สายตาผู้ชมครั้งแรก ในงาน ‘Heart Opening Day’
  • ‘เต’  มอบภารกิจสุดท้าย!! ทำลายรัก ‘ออฟ-โจริญ’ ‘เต’ มอบภารกิจสุดท้าย!! ทำลายรัก ‘ออฟ-โจริญ’
  • ‘ทรูวิชั่นส์’ จัดให้ ปิดโรง !! ดูมันส์ก่อนใคร สุดเอ็กซ์คลูซีฟ แฟน F1 ต้องไม่พลาด ‘ทรูวิชั่นส์’ จัดให้ ปิดโรง !! ดูมันส์ก่อนใคร สุดเอ็กซ์คลูซีฟ แฟน F1 ต้องไม่พลาด
  • \'ดี้ นิติพงษ์\'โพสต์เดือด!! \'ภูมิใจไทย\'ถอนตัวรัฐบาล คือ\'จังหวะมันกว่าสามช่า\' 'ดี้ นิติพงษ์'โพสต์เดือด!! 'ภูมิใจไทย'ถอนตัวรัฐบาล คือ'จังหวะมันกว่าสามช่า'
  • \'แทค ภรัณยู\'เดือดจัด! ลั่น\'กูคือคนไทย อยู่เคียงข้างแผ่นดินไทย\' พร้อมให้กำลังใจ\'มทภ.2\' 'แทค ภรัณยู'เดือดจัด! ลั่น'กูคือคนไทย อยู่เคียงข้างแผ่นดินไทย' พร้อมให้กำลังใจ'มทภ.2'
  •  

Breaking News

แซ่บ!ถึงเครื่อง'เต้ กันตนา'ถอดจริงเปลือยท่อนล่างโชว์ผิวเนียนสวย สะกดทุกสายตา!

ยธ.มอบเงินเหยื่อถูกซ้อมดับตามพ.ร.บ.อุ้มหาย

‘อิ๊งค์’ยังไม่ออก! แถลงขออภัยคนไทย ลั่นถูกอัดคลิปถือเป็นภัยคุกคาม บอกต่อไปจะระวัง

จับสึก'มารศาสนา'คากุฏิ! ตั้งสำนักสงฆ์บังหน้าซุกแรงงานเถื่อนกว่า 20 เคส

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved