วันพุธ ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / บันเทิง
Star Retro : ‘ฮันนี่’ ภัสสร บุณยเกียรติ ชีวิตที่ถูกจับวาง ดัง ‘หุ่น’ แต่รุ่งได้ เพราะรักที่จะทำ!!

Star Retro : ‘ฮันนี่’ ภัสสร บุณยเกียรติ ชีวิตที่ถูกจับวาง ดัง ‘หุ่น’ แต่รุ่งได้ เพราะรักที่จะทำ!!

วันอาทิตย์ ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2558, 06.00 น.
Tag :
  •  

ได้โอกาสใกล้ชิดกับนางงามวัย 40 กะรัตกว่าๆ ทั้งที สตาร์เรโทรสัปดาห์นี้ขอพื้นที่ล้วงแคะแกะเกาเรื่องเล่าจากอดีตจนถึงปัจจุบันของ “ฮันนี่” ภัสสร บุณยเกียรติมาฝากกันค่ะ

เปิดประตูสู่เมืองมายา ด้วยการประกวดนางงาม


ถ้าพูดถึงการประกวด เวทีแรกของฮันนี่ คือ มิสโตคิวค่ะ เป็นเวทีเดียวที่ประกวดก่อนขึ้นนางสาวไทย ตอนนั้นโตคิวเป็นห้างสรรพสินค้าในมาบุญครอง ประกวดเสื้อผ้าปกติ ไม่มีชุดว่ายน้ำ ไม่มีอะไรโป๊ เราเห็นว่า น่าสนใจ ก็เลยลองดู เพราะเจ้าของโตคิวเขาเป็นญี่ปุ่น เขาก็จะชอบสไตล์คาวาอิ น่ารักๆตอนนั้นอายุ 18 ปี อยากลองดู ว่าตัวเองจะได้ไหม ก็แอบแอ๊บแบ๊วนิดหนึ่ง(หัวเราะ) จนได้เป็นมิสโตคิว จากนั้นคุณป้า(พี่สาวคุณพ่อ) บอกไหนๆก็ประกวดมิสโตคิวแล้ว ลองประกวดเวทีนางสาวไทย อีกสักเวทีดูไหม เพราะเราไม่ใช่นางงามเดินสายประกวดอะไร คุณป้าเขาบอกเอาเวทีใหญ่เลย ให้เราลองสมัครเข้าไปดู ถึงได้ขึ้นประกวดเวทีนางสาวไทยปีพ.ศ. 2531 และได้ตำแหน่งขวัญใจช่างภาพ

เข้าวงการแบบไม่ได้ตั้งใจ

จริงๆ คือไม่คิดเลยค่ะ ว่าจะได้ตำแหน่งอะไรแล้วก็ไม่ได้มองถึงเรื่องวงการบันเทิงเลย คิดแค่ว่าลองดูแล้วตอนนั้นฮันนี่ก็ไม่ได้ติด 1 ใน 5 ด้วย แต่ว่าได้ขวัญใจช่างภาพ ซึ่งปีนั้นคนที่ได้นางสาวไทย คือปุ๋ย(ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ไซม่อน) และเขาก็ไปได้นางงามจักรวาล, ที่ 2 คือพี่นุช (ปรียานุช ปานประดับ)พี่นุชก็ไปได้มิสเอเชียแปซิฟิก ตัวฮันนี่เองเขาก็ส่งให้ไปประกวดอินเตอร์เนชั่นแนลที่ญี่ปุ่น ก็ไปได้ขวัญใจช่างภาพเหมือนกัน ทุกวันนี้สามีก็เป็นช่างภาพ(หัวเราะ) เป็นของคู่กันค่ะ

ถูกจับวางจนได้ชิมลางงานแสดง

ตอนนั้นเราอยู่ในตำแหน่งที่เป็นคนของช่อง 7 ค่ะ ซึ่งมีผู้ใหญ่ที่ดูแลในตอนนั้นคือ คุณแดง (สุรางค์เปรมปรีดิ์) คุณแดงจะดูแลทุกอย่าง ว่าคนนี้ให้เล่นเรื่องนี้ คนนี้ให้ทำนั่น คุณแดงเป็นคนมอง แล้วก็หยิบวางเห็นฮันนี่หน่วยก้านดี ส่งไปเล่นหนังเรื่องแรกก่อนเรื่อง “นักเลง” เป็นแนวบู๊ ของ อาคมน์ (คมน์ อรรฆเดช)พอเล่นปุ๊บเขาก็มอง เออ..ลุคไม่เหมือนนางงามเลยนะมีดวงตาที่แปลกๆ แล้วพอดี “แม่เบี้ย” จะทำหนังก็ส่งฮันนี่ไปเล่น แล้วเกิดดัง!! คือตอนเรื่อง “นักเลง”ได้รับรางวัลตุ๊กตาเงิน จนมาถึง “แม่เบี้ย” ในปีเดียวกันผลตอบรับดีมาก ทุกคนชอบความแปลก การเล่นกับงูทำให้ได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง พระสุรัสวดี จากเรื่องแม่เบี้ย (เรียกว่าเป็นปีทอง?) เรียกว่าเป็นความโชคดีมากกว่าค่ะ ต้องใช้คำนี้ เพราะผู้ใหญ่ทุกคน ไม่ใช่แค่คุณแดงคนเดียวนะคะ ทั้งผู้จัด ผู้สร้าง ทุกคนเขามอง แล้วคิดว่าเราทำได้ ทั้งที่เราไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ ว่าเราทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน แต่แค่เป็นคนตั้งใจทำงาน ชอบทำงาน และก็พร้อมที่จะทำงานให้ดีที่สุด (ไม่ได้เรียนการแสดง?)ไม่ได้เรียนเลยค่ะ เรียนเลขานุการมาด้วยซ้ำ(หัวเราะ)

จากงานแสดง ต่อยอดมาสู่การร้องเพลง

ความที่เราเป็นดารา จะต้องมีการโชว์ตัวตั้งแต่เป็นนางงามแล้วค่ะ ไปโชว์ตัวต่างจังหวัด โน่นนี่นั่นแล้วการโชว์ตัวก็ไม่หนีเรื่องของงานร้องเพลง ตอนนั้นเพลงส่วนใหญ่ที่เลือกมาร้อง จะเป็นเพลงลูกทุ่ง ของพี่ผึ้ง(พุ่มพวง ดวงจันทร์) และก็เพลงที่ฮิตๆในสมัยนั้น และก็ได้ร้องเพลงที่ผับดังๆ ในสมัยนั้นอย่าง Take It Easy ทำให้เหมือนเราได้ฝึกฝนการร้องเพลงไปเรื่อยๆแล้วพี่จิก (ประภาส ชลศรานนท์) ก็มาเห็นความเป็นเราเลือกจากตัวฮันนี่ขึ้นมา คือ “ดวงตาข้างขวาของฉันคล้ายเป็นเนื้อเยื่อพิเศษ” อันนี้พี่จิกเป็นคนกำหนดประโยคนี้ขึ้นมา เป็นชื่ออัลบั้มที่ยาวมากกก(ลากเสียงยาว)ยาวที่สุดของการสร้างศิลปินมาทั้งหมดในตอนนั้นเลยค่ะ แต่คนไม่เรียกชื่ออัลบั้มนี้เลย คนเรียกแต่ “เสือ” (หัวเราะ) ดี๊ดีค่ะ (หัวเราะ) ตอนนั้นตั้งแต่เด็กอนุบาล ลูกเด็กเล็กแดงใส่ชุดเสือเต้นงานโรงเรียนกันเต็มไปหมดค่ะ เรียกว่าเป็นเพลงสนุกที่สร้างความสนุกสนานให้กับคนฟัง

มีอัลบั้มเพลงชุดที่ 2-3ตามออกมา

จากชุดแรก ก็มีอีก 2 ชุดตามมาค่ะ แต่ไม่ได้รับความนิยมเท่าชุดแรก แทบจะไม่มีใครพูดถึงเลยด้วยซ้ำ (เสียใจไหม?)ไม่ค่ะ อาจจะเป็นเพราะการที่เราเล่นละครด้วย เรามาเน้นทางการแสดงซะมากกว่า ตอนนั้นเล่นละครช่อง 7 มาตลอด แต่เรื่องที่สร้างคุณค่าให้กับตัวฮันนี่มากที่สุด คือเรื่อง “แผ่นดินของเรา” ค่ะ เป็นละครเรื่องแรกของทางเอ็กแซ็กท์ หม่อมน้อย(หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล) เป็นผู้กำกับฯหม่อมเอาเราเข้าไปฝึกการเป็น อัจฉรา ว่าต้องเป็นยังไง ต้องเรียนการแสดง ต้องเวิร์กช็อปตลอดเวลา ทำให้เราค่อนข้างมีภูมิความรู้การเป็นนักแสดงแน่นขึ้นมาก เข้าใจการเป็นนักแสดงได้ดีขึ้น แล้วรู้จักการแสดงจริงๆ ว่าเราควรจะทำงานตรงนี้ยังไง เพราะก่อนหน้านั้นที่เล่นละครของช่อง 7 ก็จะเป็นละครสนุกๆธรรมดา ไม่ได้มีอะไรซีเรียส แต่พอได้เล่นแผ่นดินของเรา คราวนี้เน้นสายการแสดงยาวเลยค่ะ

ด้านชีวิตครอบครัว

เจอกับพี่บี๋ (ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์) ครั้งแรกตั้งแต่ตอนถ่ายละครเวทีเรื่อง พรายน้ำ ค่ะ แล้วก็ไม่ได้เจอกันเลยนานมาก จนต่างคนต่างมาเจอกันอีกทีที่สมุย แล้วก็ติดต่อให้พี่บี๋ มาเล่นมิวสิกวีดีโอให้ตอนนั้นคิดว่าเขามีครอบครัวแล้ว ก็เลยไม่ได้สนใจอะไรค่ะ แต่ตอนหลังพอทราบว่าเขาเลิกกันไปแล้วก็เลยคุยกันต่อมาเรื่อยๆ (สไตล์การจีบของพี่บี๋?)สไตล์เขาเลยค่ะ นิ่งๆ เฉยๆ เขาเป็นคนมีเสน่ห์มีแรงดึงดูดให้เราอยากจะค้นหา ตอนนั้นก็คุยกันมาเรื่อยเวลาเราเล่นคอนเสิร์ต พี่บี๋เขาก็จะดูเรื่องเสื้อผ้าให้ เพราะเขาเป็นช่างภาพ พวกเสื้อผ้าแนบเนื้อเขาจะมีเยอะ เขาก็ดูแลให้เป็นอย่างดี ตีโจทย์ทุกอย่างออกมาได้เหมาะเจาะกับเรา จนมามี “อินดี้” ตอนนั้นหยุดพักงานละครไปเลี้ยงลูก 2 ปีค่ะ พอลูกเข้าโรงเรียนก็กลับมาเล่นละครต่อ เพราะหนึ่งเป็นคนชอบทำงาน รักในการทำงานมาก ลูกก็ไม่ได้ทิ้งนะคะเลี้ยงกันเอง ไม่ได้จ้างใครให้ญาติผู้ใหญ่ช่วยกันดูโรงเรียนอยู่ใกล้ๆ ไม่ได้ไปไหนไกล เราไปส่งเขาแล้วเราก็ไปถ่ายละครต่อได้ ก็เลยรับงานแสดงยาวมาตลอด

เลือกที่จะมีทายาทคนเดียว

คนเดียวพอค่ะ เพราะหนึ่งเลยคือเราอยากทำงาน สองการจะดูแลคนสักคนให้ได้ดี มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ไม่ใช่มีแล้วก็ปล่อยให้พยาบาลเลี้ยงให้ปู่ย่าตายายเลี้ยงอย่างเดียว ไม่ใช่ เราอยากเลี้ยงเอง(อินดี้ได้ตามที่หวังไว้ไหม?) เขาก็อินดี้ สมชื่อนะคะ(หัวเราะ) กับเราจะเหมือนเพื่อนกันมากกว่า ไม่เหมือนแม่ลูก (ลูกกลัวใครมากกว่ากัน?) น่าจะกลัวพี่บี๋เพราะเขามาแนวนิ่งๆ ดุๆ พี่บี๋เขามีคุณแม่เป็นคนอังกฤษ เพราะฉะนั้นเขาจะมีกฎระเบียบพอสมควร ส่วนทางแม่ยังไงก็ได้ บ้าๆ บอๆ (หัวเราะ)

ข้อตกลงของครอบครัวที่รักษาไว้

ไม่มีอะไรเป็นกิจจะลักษณะค่ะ คือด้วยความที่หลังจากทำงาน เราเป็นคนไม่เที่ยว ไม่ไปไหนไม่สังสรรค์กับใคร เพราะฉะนั้นทำงานแล้วก็กลับบ้านให้เวลากับครอบครัว น่าจะเป็นตรงนี้มากกว่าค่ะกับลูกก็ไม่ได้มีข้อตกลงอะไรเลยค่ะ เราแค่อยากให้เขาทำหน้าที่ของเขาตรงนี้ให้ดีที่สุด สิ่งที่บอกอินดี้ประจำคือ ให้รู้จักมีสัมมาคารวะ และให้เคารพทุกคนในกองถ่าย ตั้งแต่ผู้กำกับฯ ยันสวัสดิการ เพราะเราเป็นเด็ก ไปถึงจะไปกร่างไม่ได้ ก็จะคอยบอกว่าถ้าลูกเราไปกวนใครอะไรยังไงให้มาบอกนะ เพราะเราอยากให้ทุกคนรักเขา

ความรู้สึกอยากเปลี่ยนงาน

ไม่เคยมีเลยค่ะ การแสดงเป็นความสนุกเพียงแต่จะมีบ้างที่รู้สึกว่าบทบาทที่ตัวเองได้รับมันเหนื่อย มันยาก ไม่สนุก เครียดไป เพราะเราเป็นคนชอบสนุก ชอบคอเมดี้ ไปกองแล้วจะได้สนุกสนานเฮฮา เพราะเป็นคนเสียงแหลม เสียงสูง เวลาพูดจะต้องถูกผู้กำกับฯคอยเตือนว่า “พี่ฮันนี่ครับเสียงสูงไปแล้วครับ” (หัวเราะ) เราก็ต้องถ่ายใหม่ หรี่เสียงลงมา (ถึงวันนี้แล้วยังต้องมีการปรับตัวตลอด?) มีค่ะ มีทุกคน(เสียงสูง) เพราะว่าเราจะติดความเป็นตัวเอง ที่ไม่ใช่ติดสวยหรือติดหล่อนะคะแต่เป็นที่คาแร็กเตอร์ บางทีล้นไป โอเวอร์ไปก็ต้องปรับให้พอดี ตามที่ผู้กำกับเห็นสมควร

ต้นแบบของนางแบบลุคเซ็กซี่

อันนี้บอกเลยว่าแล้วแต่คนมองค่ะฮันนี่ก้าวมาจากการเป็นนางงาม มาร้องเพลงเล่นละคร คือคนละภาพกันหมดเลย การนำเสนอการดึงความเป็นฮันนี่มาให้คนดู ขึ้นอยู่กับคนที่จับวางและมองค่ะ ตัวเองเป็นเหมือนหุ่น คนนั้นอยากได้แบบนี้ คนนี้อยากได้แบบนั้น เราก็ทำให้ตามที่เขาต้องการ แต่อยู่ในสัดส่วนที่เรายอมรับได้ค่ะ

อัลบั้มภาพลับส่วนตัว

ไม่มีค่ะ ไม่มีเลยยยย(ลากเสียงยาว) ถ่ายลงนิตยสารก็เท่าที่ทุกคนเห็น ไม่เคยถ่ายเก็บไว้ดูเอง ไม่มีค่ะเพราะเราทำงาน เล่นละคร ไม่มีภาพลับเฉพาะอะไร (หัวเราะ) พี่บี๋เขาก็งานเยอะ ถ้าจูนมาเจอกันก็เพื่องาน ถ่ายเสร็จก็ตีพิมพ์ ทุกคนก็ได้เห็นเหมือนกันหมด ไม่มีที่จะมาถ่ายเก็บเป็นแกลเลอรี่ส่วนตัว มุบมิบไปเที่ยวกันสองคน ถ่ายรูป ไม่มีค่ะ ไปรื้อบ้านดูได้เลย (หัวเราะ)

นักแสดงต่างรุ่น ต่างกิริยา

ยุคนี้นักแสดงมีความเป็นตัวของตัวเองเยอะกว่าแต่ก่อน มีมุมมอง ความคิด ความรู้สึกในการแสดงออกได้มากกว่ารุ่นของเรา ซึ่งก็เป็นเรื่องดีเปิดกว้างมากขึ้น แต่ในความเป็นคนไทย การมีสัมมาคารวะนอบน้อม ก็ยังต้องมีอยู่ ซึ่งก็จะมีคนพูดให้ได้ยินเหมือนกันว่า คนนี้ไม่ไหว้ผู้ใหญ่ คนนี้ไม่มองไม่อะไร แต่โดยส่วนตัวไม่เคยเจอนะคะ ก็งงเหมือนกัน ทำไมตัวเองไม่เคยเห็น บางทีก็นึกในใจว่าเป็นที่ผู้ใหญ่คนนั้นด้วยไหม เพราะส่วนใหญ่ที่เล่นมากับเด็กๆ หลายรุ่นก็จะเป็นเพื่อนกัน รักเขา เราก็จะเข้าหาเขา ไม่มีอะไรมากั้น (ไม่มีชนชั้น?) ไม่ใช่พระค่ะ ไม่ต้องอะไรขนาดนั้นแล้วจริงๆ ฮันนี่ไม่ได้มายด์ ไม่ไหว้ไม่เป็นไร เราคุยสนุกเราคุยเปิดอก เราจะได้รู้ว่าเขาคิดอะไร ตรงนี้จะแฮปปี้มากกว่า ฮันนี่อาจจะไม่เหมือนคนอื่นนะคะต้องใช้คำนี้ ก็เลยทำให้เราทำงานกับเด็กได้ทุกคนไม่มีปัญหาอะไรกับใคร

เคล็ดลับการคงอยู่ในวงการ

ในความรู้สึกของฮันนี่ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไร เพียงแต่ว่าทำตัวเองให้ดีที่สุด ข้อหนึ่งคือ ตั้งใจทำงาน ข้อสองคือให้ความเคารพผู้ใหญ่ ข้อสามรักคนอื่นก่อนที่จะให้เขามารักเรา 3 ข้อนี้สำคัญที่สุด ไอ้การที่จะมาอัพค่าตัวหรืออะไรอีกเรื่องหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีคุณค่าพอที่เขาจะขึ้นให้ไหม อันนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถและอีกหลายๆ ปัจจัยค่ะ

กับบทบาทมามี้ดัน

สนุกมากกกก(ลากเสียงยาว) ภาคภูมิใจเมื่อก่อนเรียกคนอื่น มี้ อย่าง มี้-พิสมัย ตอนนี้ฮันนี่เริ่มเป็นมี้บ้างแล้วค่ะ ทุกคนเรียกมามี้ คือก็เป็นตัวเราที่เราสร้างขึ้น เป็นลูกที่เราเลี้ยงเขามาเอง เราเห็นขั้นตอนการเจริญเติบโต ในช่วงวัยนี้เป็นยังไง ความรู้สึก ความคิด สิ่งที่เขาชอบ สิ่งที่เขาไม่ชอบ จนมาถึงทุกวันนี้ เราไม่ได้คาดหวังอะไรเลยค่ะ แค่เห็นเขายืนได้ด้วยตัวเองอย่างทุกวันนี้ และสามารถที่จะทำให้ทุกคนรัก ให้ทุกคนชื่นชอบ และอยู่ได้ ถ้าไม่มีเรา เท่านั้นพอแล้วค่ะ

เตรียมจับไมค์ขึ้นคอนเสิร์ตอีกครั้ง

พอดีพี่ฉอด (สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา) ติดต่อมาให้ร่วมงาน GREEN CONCERT หมายเลข 18 THE LOST LOVE SONGS “ร้อยเพลงรัก..ที่หายไป” เราก็คิดว่าน่าสนใจ เพราะมีศิลปินร่วมรุ่น ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องตอบรับมากันมากมาย เราก็อยากเป็นส่วนหนึ่งของคอนเสิร์ตดีๆ คอนเสิร์ตจะมีวันที่ 29-30 สิงหาคมนี้แล้วค่ะ ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ใครมีบัตรไปเจอกันได้ค่ะ รับรอง “เสือ” ออกวาดลวดลายแน่นอน

รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของผู้หญิงคนนี้ มักจะสร้างความครื้นเครงให้กับคนรอบข้างอยู่เสมอค่ะใครที่เป็นแฟนคลับของเธอ และติดตามอินสตาแกรม@honeygoldie น่าจะสัมผัสได้ถึงตัวตนที่แท้จริงของ“ฮันนี่” ภัสสร บุณยเกียรติ ผู้หญิงที่แต่งแต้มหลากหลายลวดลายให้กับวงการบันเทิงไทย

ลูกหมี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ช่อง 7HD\' ชวนลุ้น \'มิลลิ\' ประเดิมฟาดหมัดคู่ชกชาวจีน 'ช่อง 7HD' ชวนลุ้น 'มิลลิ' ประเดิมฟาดหมัดคู่ชกชาวจีน
  • XG ปล่อยซิงเกิลใหม่ \'MILLION PLACES\' XG ปล่อยซิงเกิลใหม่ 'MILLION PLACES'
  • \'Good Doctor TH หมอใจพิเศษ\'เข้าชิงรางวัลอันทรงเกียรติ 'Good Doctor TH หมอใจพิเศษ'เข้าชิงรางวัลอันทรงเกียรติ
  • \'Inferno โลกันตนรก\'คืนจอ! \'ทอม แฮงส์\'นำทีมลุยปริศนา หยุดหายนะโลก 'Inferno โลกันตนรก'คืนจอ! 'ทอม แฮงส์'นำทีมลุยปริศนา หยุดหายนะโลก
  • อายุเยอะมีลูกยากฟังทางนี้!\'ครูก้อย\'ภรรยา\'เจมส์\'เผยเคล็ดลับเตรียมตั้งครรภ์สำหรับคนท้องยากวัย 40+ อายุเยอะมีลูกยากฟังทางนี้!'ครูก้อย'ภรรยา'เจมส์'เผยเคล็ดลับเตรียมตั้งครรภ์สำหรับคนท้องยากวัย 40+
  • โลกอาจโหดร้ายแต่\'SOLENCE\'จะเหยียวยาคุณเอง! ส่งซิงเกิลใหม่ \'Where Were You..?\' โลกอาจโหดร้ายแต่'SOLENCE'จะเหยียวยาคุณเอง! ส่งซิงเกิลใหม่ 'Where Were You..?'
  •  

Breaking News

(คลิป) 'จตุพร'เปลือยนิสัย'ทักษิณ' เล่าหมดเปลือกแผนหนี'ตระกูลชินวัตร'หากบอก ไม่หนี คือ หนี !!

มาทีมแรก!เพเซอร์สทุบแคฟส์คารังลิ่วชิงแชมป์สายNBA

ดับฝันขาโจ๋!!! 'พิชัย'รับทบทวนเงินหมื่นเฟส 3 เซ่นพิษภาษีทรัมป์

ตำรวจเตรียมนำตัว 'สจ.กอล์ฟ' พร้อมลูกน้องรวม 7 คนฝากขังต่อศาลจังหวัดสงขลา

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved