วันจันทร์ ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / บันเทิง
Star Retro : ‘ชัย พองพอง’ ต่อยอดชีวิต มุเรียนศาสตร์ฮวงจุ้ย

Star Retro : ‘ชัย พองพอง’ ต่อยอดชีวิต มุเรียนศาสตร์ฮวงจุ้ย

วันอาทิตย์ ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag : ศาสตร์ฮวงจุ้ย ชัย พองพอง วงพองพอง
  •  

ย้อนอดีตเพลงอินดี้มีสไตล์ เพลง “หน้าใสใส” ของ วงพองพอง มักติดอยู่ในลิสต์เพลงฮิตติดหูคนฟัง หลายคนถามถึง “ชัย” ชัยอนันต์ ตรีสารศรี หรือ ชัย พองพอง นักร้องนำ สตาร์เรโทรสัปดาห์นี้จึงขอพาไปอัพเดทกัน กับเส้นทางอดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงเรื่องราวก่อนหลังที่เจ้าตัวบอกแทบล้มลุกคลุกคลาน!?

ชีวิตครอบครัว?


“ผมเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิดครับ ที่บ้านค้าขาย คือคุณพ่อเคยทำงานอยู่กระทรวงสาธารณสุข แล้วออกมาเปิดร้านขายยาแถวฝั่งธนบุรีตั้งแต่ปี 2523 พ่อแม่ผมเป็นเภสัชกรทั้งคู่ ผมมีพี่สาวหนึ่งคน ชีวิตครอบครัวตอนนั้นอบอุ่นอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ตอนหลังคุณพ่อแยกทางไป คุณแม่รับหน้าที่ดูแลร้านขายยาหาเลี้ยงพวกผมมา แต่ผมก็ยังเจอกับพ่ออยู่นะครับ เพราะพ่อกับแม่ไม่ได้ทะเลาะกัน เพียงแต่เขาแยกทางกันไป ตอนนั้นผมประมาณ 13 ปี ก็เลี้ยงดูกันไปตามอัตภาพ แม่เลี้ยงให้เป็นคนที่อดทน เอาตัวรอด แต่อย่าเอาเปรียบคนอื่น ทุกวันนี้แม่ผมยังเปิดร้านขายยาอยู่นะครับ ชื่อร้านชัยอนันต์ฟามาซี ตรงซอยวุฒากาศ 36คุณแม่ผมยังแข็งแรงดีมาก แต่พี่สาวผมเพิ่งเสียไปเมื่อปีที่แล้ว”

เส้นทางดนตรี?

“ช่วงเรียนบริหารการตลาดที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผมได้เข้าชมรมดนตรีสากล ผมชอบการร้องเพลง ก็เลยไปสมัครประกวดโค้กมิวสิกอวอร์ด ได้เป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัย แต่ว่าไม่ผ่าน เพราะผมร้องไม่ดี พอไปฟังคนอื่นร้อง โอ้โหเราเทียบไม่ได้เลยก็คิดใหม่ว่า ถ้าเราร้องเพื่อจะได้เงินล่ะ ต้องทำยังไงโทร.ไปถามพี่ที่ชมรมดนตรี และได้เจอแก๊งเพื่อนวงพองพองนี่แหละครับ ถึงได้เริ่มต้นทำเพลงกัน ผมไม่เคยรู้ว่าผมเขียนเพลงเป็น โดนบังคับทำอยู่พักหนึ่งจนพี่เอ๊ะแต่งเพลง “หน้าใสใส” มา คนในระแวก ม.หอการค้าฯร้องเพลงนี้ได้กันหมด คือเป็นเพลงดังในยุคนั้นของกลุ่มพวกเราวางซาวเบาท์กันกลางห้องซ้อม เพื่อซ้อมกันแล้วเอาผลงานไปเสนอกับทางค่ายจนผ่าน โดยมีพี่ไก่- สุธี แสงเสรีชน เป็นโปรดิวเซอร์ให้พวกผมในตอนนั้น”

ความมั่นใจที่จะเป็นนักร้อง?

“มั่นใจมากครับ เพราะเรามีเพลงของตัวเอง อย่างน้อยพวกเราคิดงานกันเป็น ในยุคนั้นนักดนตรีทุกคนต้องมีเพลงของตัวเอง ความคิดเราออกมาหลากหลายมาก กลายเป็นการกระตุ้นให้เราไม่ต้องไปรอว่าจะให้ใครมาทำอะไรให้ เรามีเพลงของตัวเอง ซึ่งเป็นผลดีมาถึงวันนี้ คือไปร้องที่ไหนไม่มีคนมาตามทวงค่าลิขสิทธิ์ เพราะเพลงเราเอง แต่งเอง ทำเองกับมือ ถึงไม่ใช่ผมแต่งก็พี่ผมแต่ง(ยิ้ม)”

ความเปลี่ยนแปลง เมื่อชื่อเสียงเข้ามา?

“ผมได้เป็นศิลปินตั้งแต่ตอนอยู่ปี 2 แล้วก็ดร็อปเรียนไปเทอมหนึ่ง เพราะช่วงนั้นต้องทัวร์คอนเสิร์ต งานเยอะมาก แต่เพื่อนๆ ในวงก็จบตามเกณฑ์ทุกคน ซึ่งเหนื่อยมาก ถามว่าอยากไปถึงจุดนั้นอีกไหม ผมเชื่อว่าไม่มีใครหรอกที่ไม่อยากเป็นที่รักของคนฟัง เราก็พยายามคิดงานกันให้ออกมาจากความรู้สึกจริงๆ ไม่ใช่ว่าตั้งใจแต่เพื่อที่จะดัง ทุกวันนี้วงพองพองยังคงเป็นวงที่รู้ใจกัน อารมณ์ดี ชีวิตทุกคนมีอะไรทำหมดแล้ว โดยที่ผมก็ใช้ชีวิตเป็นนักดนตรี นักร้อง ทุกคนมีอาชีพนักดนตรีของตัวเอง เมื่อไหร่พร้อมคิดอะไรปิ๊งๆ ออกมาก็ค่อยมาคุยกัน สำหรับผมบังเอิญว่าดังเป็นศิลปินแล้วทำเงินได้เยอะและได้ง่าย แต่พอขาลงโอ้โห..ได้ยากมากๆ แต่ผมไม่ท้อนะ คิดว่าเราต้องหาโอกาสแล้วก็มีโอกาสจริงๆ แต่ช่วงขาลงนี่ถ้าไม่มีแม่ ผมก็คงเป็นเหมือน วนิพกพเนจรเลยล่ะ ผมล้มหลายทีเลย สุดท้ายแม่ก็ให้กำลังใจ ไม่มีที่ไปก็ให้กลับไปอยู่บ้าน”

ความหมายของชื่อ พองพอง?

“คิดมาหลายชื่อจนได้ชื่อนี้เอาไปเสนอพี่น้อย- ปฏิมา นุชะยะ ตอนนี้ท่านเสียแล้ว พี่เขาบอกคิดได้ไง ครีเอทดี น่ารักด้วย ก็เลยเป็น “พองพอง” ผมก็ได้พี่น้อยกับพี่ไก่-สุธี สอนและให้วิชา พี่น้อย พี่ไก่สอน เทคนิคการเข้าห้องอัดเสียง การร้องกับไมค์ในห้องอัด ส่วนการร้องประสานเสียงในวงผมก็จะได้ความละเอียด แต่อาจจะไม่ได้เนี้ยบอย่างพี่ไก่ขนาดนั้น ได้รู้ว่าที่ถูกต้องควรใช้แบบไหน พี่น้อยกับพี่ไก่ให้ความรักความอบอุ่นเหมือนเป็นพ่อแม่ทางดนตรี สมาชิกพองพองทุกคนในวงรู้ดีว่า ถ้าไม่ทั้ง 2 คนพวกเราไม่ได้มีวันนี้หรอกครับคงไถลออกนอกทางกันหมดแล้ว ถ้าไม่ได้คำพูด คำดุว่าจากพี่น้อยและพี่ไก่-สุธี ผมไม่เคยลืม ทุกวันนี้รู้สึกว่าโชคดีที่เราเจอแบบนั้น เราถึงเป็นอย่างนี้ได้ ผมดีใจในเส้นทางดนตรีของผม และรู้สึกภูมิใจกับคนในวงทุกคน ผมรักเพื่อนทุกคนในวง ผมภูมิใจกับพวกเขา มีแต่ผมต่างหากที่ล้มบ่อยไปนิดหนึ่ง(หัวเราะ)”

อัลบั้มที่ทำในนามวง พองพอง?

“เราเริ่มด้วยอัลบั้มแรกด้วยชื่อ “พองพอง” แล้วก็มีอัลบั้มอะคูสติกทั้งอัลบั้ม ออกมาช่วงซัมเมอร์ มีเพลง รักในซิกเนเจอร์ ที่คนรู้จัก จากนั้นก็มีอัลบั้ม “เก้าอี้ขาวในห้องแดง” มีเพลงอย่าง เพื่อน, เพียงความทรงจำ แล้วก็ปิดตัวไป พี่เอ๊ะที่เป็นนักแต่งเพลงเขาก็ไปเป็นนักแต่งเพลงเต็มตัวเลย แต่งเพลงให้กับหลากหลายศิลปินมาก และมามีผลงานอีกทีโดยไม่มีพี่เอ๊ะในชื่อ“ซาวด์เซิร์ฟ” ทำเพื่อแก้ความอยาก ผมกับเค มือกีตาร์ก็แต่งกันเองทั้งอัลบั้ม คือเราเป็นวงที่ชอบทำเอง เพราะเราภูมิใจว่านี่คือความรู้สึกของเราจริงๆ ที่อยากจะถ่ายทอดให้แฟนเพลงได้ฟัง เราก็เลยพยายามที่จะทำเอง ก็เป็นซาวด์เซิร์ฟอยู่ 4 ปี มีเพลงดังอยู่ 2 เพลงคือ คนใจง่ายที่ไหนเขาทำ กับ โลกใหม่ๆ ตอนหลังกลับมาเป็น พองพอง โดยมีสมาชิกแค่ 3 คน”

แม้ชื่อวงจะเงียบหาย แต่งานดนตรีไม่เคยขาด?

“เรามีงานตลอดครับ แต่กระแสอาจจะไม่ค่อยดียุคสมัยเปลี่ยนไปเยอะ วิธีการขาย วิธีทำให้คนรู้จักก็ง่ายขึ้น เราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุค และเร็วๆ นี้แหละครับคงจะมีผลงานเพลงใหม่ของ พองพอง ให้ได้ฟังกัน เป็นหน้าเดิมออริจินัล กับความรู้สึกเหมือนเดิม เพราะทุกครั้งผมร้องเพลง ผมมีความสุข ผมโชคดีที่ได้ทำงานที่เรารัก ถามว่าเก่งไหม ผมไม่ใช่คนเก่ง แต่ว่าผมอยากร้องเพลง ผมอยากให้คนฟังมีความสุข คือเราโชคดีที่อยู่กับความสุขที่เป็นเงินกลับมาหล่อเลี้ยงชีวิตประจำวันได้ด้วย ไม่มีวันไหนเลยที่ผมมีความรู้สึกว่าผมไม่อยากร้องเพลง ถ้าวันไหนผมรู้สึกแบบนั้น ผมจะอยู่ยังไงไม่รู้ คงจะทรมานเหมือนกับเราทำงานที่เราไม่อยากทำ”

โลดแล่นในนาม ชัย พองพอง?

“เกือบ 20 ปีแล้วครับ เมื่อก่อนผมเคยคิดนะว่าเราจะร้องเพลงได้อีกเท่าไหร่ จะอยู่เป็นวงได้นานแค่ไหนแยกวง ทะเลาะกันเถียงกันก็เคยมาหมดแล้ว ผมเคยคิดว่าผมจะอยู่ในอาชีพนี้ได้กี่ปีกัน แต่ทุกวันนี้ผมเลิกคิดแล้ว ผมจะทำไปจนกว่าจะร้องไม่ไหว ไม่มีคนจ้าง ผมก็จะไป เพราะผมรู้ว่าผมร้องเพลงเพราะ (หัวเราะร่วน) ผมรู้ว่าผมทำสิ่งนี้ได้ดี และมีความสุขกับมัน”

ความสัมพันธ์กับเพื่อนสมาชิกในวง?

“คือเราไม่เคยแตกกันเลย ผมโชคดีที่ได้วงดีได้เพื่อน ได้พี่ที่ดีมากๆ ทุกครั้งที่ผมล้มลงไปทุกคนจะให้กำลังใจกันแบบเพื่อนๆ กินเหล้า กินเบียร์ พี่เอ๊ะเป็นหัวหน้าวง ซึ่งเป็นพี่จริงๆ ผมเคยเอากีตาร์ไปจำนำกับเขานะ คือไม่มีเงิน เลยเอากีตาร์ที่ซื้อกันมาตั้งแต่ได้เงินก้อนแรก ตอนนั้นซื้อกันคนละตัว หลังๆ เริ่มทยอยหายกันไปทีละตัว เหลือของผมคนเดียว ผมก็ตั้งใจจะไปจำนำไว้กับพี่เอ๊ะ แต่พี่เขาไม่เอา เขาให้เงินมาใช้ ผมก็เลยฝากกีตาร์ไว้บอกวันหลังจะไปเอาคืน จนวันนี้ยังไม่ได้ไปเอาครับ (หัวเราะ) มีครั้งหนึ่งผมรู้สึกโดดเดี่ยวจนแม่บอกว่า “ชัย ยังมีญาติพี่น้องนะลูก” คือตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนโดนทิ้งไม่มีใครสามารถมารับฟังเรื่องของผมได้ ไม่มีใครเข้าใจแม้กระทั่งคนที่เรารักเป็นแฟนกัน เพราะภาวะที่เรียกว่าอกหัก แต่เพราะคนในวงทำให้ผมรู้สึกไม่โดดเดี่ยว”

ช่วงที่ล้ม?

“ผมเป็นคนไม่ค่อยสมหวังในความรักครับผมอยากจะมีครอบครัวที่อบอุ่น แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นอย่างที่เราคิด เกิดเรื่องที่เราไม่คิดว่าจะเกิด แต่หลังจากผ่านมาหลายครั้ง ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่มีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น เลิกกินเหล้า เพราะผมไม่อยากให้ที่บ้านต้องเสียอะไรอีกแล้ว และไม่อยากให้แม่เสียใจกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เป็นช่วงจังหวะชีวิตที่ทำให้เราเข้าใจการใช้ชีวิต หันมาดูแลตัวเองมากขึ้นอย่างจริงจังครับ”

ธุรกิจไม่เป็นดังหวัง?

“มีทั้งที่เป็นประสบการณ์ที่ดีและไม่ดี ผมทำโรงพิมพ์อยู่พักหนึ่งกับแฟนเก่า แล้วก็ไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ชีวิตต้องแยกย้ายกันไป ปีที่แล้วเป็นปีที่ผมแย่มาก พี่สาวเสียชีวิต งานก็ไม่มี เลิกกับแฟน เศรษฐกิจไม่ดีอีก ผมเฟลนะ แต่รู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติของชีวิต สักวันหนึ่งทุกคนต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ทั้งความผิดหวัง สมหวัง ไม่มีอะไรง่าย ผมรู้ดี”

เหตุการณ์ไม่คาดฝันกับการสูญเสียพี่สาว?

“ผมรู้สึกว่าที่ผ่านมาผมไปทำอะไรอยู่ ทำไมผมไม่ดูแลพี่สาวของผม เขามีพฤติกรรมบางอย่างแสดงออกให้เห็นและเรารู้ แต่เรามองข้ามไป และไม่รู้ว่าต่อมาจะส่งผลหนักจนทำให้เขาเสียชีวิตกะทันหัน คือเขาซึมเศร้าถึงขนาดว่าไม่อยากจะรับรู้โลกภายนอกคุณแม่ก็พาเขาไปหาหมอโดยต่อเนื่อง แต่ว่าแม่ก็พยายามปิดไม่ให้เรารู้ เพราะกลัวผมจะเครียด และอีกอย่างตอนนั้นครอบครัวเราไม่ได้คุยกันบ่อยเท่าที่ควร ผมรู้เลยว่าเราคุยกันน้อยไป ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเอง ลืมที่จะหันมาสนใจเรื่องเล็กน้อยกับคนใกล้ๆ ตัวอย่างครอบครัวเราเอง ถ้าเราได้ทำตรงนั้น ใส่ใจมากขึ้นก็คงไม่มานั่งเสียใจแบบนี้ แต่ตอนนี้ทุกคนในบ้านหันหน้ามาคุยกัน ผมเจอกับพ่อบ่อยขึ้น เหมือนเป็นชีวิตที่ต้องเริ่มใหม่ไปด้วยกัน ทุกครั้งที่ผมทำอะไร แม่จะแอบภูมิใจอยู่ข้างหลังเสมอ แล้วคิดเหรอว่าทุกครั้งที่เราไปทำอะไรไม่ดีมา เขาจะไม่เสียใจ ทุกวันนี้ผมก็ยังคิดนะว่าผมเป็นลูกที่ใช้ไม่ได้ วันนี้อายุเท่านี้แล้วเราจะให้อะไรแม่ได้มากกว่านี้นะ แต่เราก็ตั้งใจว่าจะดูแลเขาให้ดีที่สุด เพราะเราพลาดไปเยอะ เมื่อก่อนท่านอาจจะบอกว่าไม่ต้องก็ได้ แต่ไม่จริงหรอกครับ ทุกคนต้องการคนเอาใจใส่และดูแลจากลูกเสมอ”

อาชีพหลักยังคงเล่นดนตรี?

“ผมไม่เคยมีความคิดที่จะเลิกหรือทิ้งงานเพลงเลยผมรู้ว่าผมเป็นนักร้องตั้งแต่เกิด ผมชอบร้องเพลงตั้งแต่เด็กๆ ออกไปร้องเพลงหน้าเสาธง ร้องเพลงให้เพื่อนเต้น แถมคิดท่าเต้นให้เพื่อนอีกด้วย สนุกกับการทำตรงนี้ ทุกวันนี้เราเล่น เราไม่เขิน เรามาโชว์ให้แฟนเพลงได้ฟัง ผมตั้งใจร้องทุกเพลง รักในการเล่นการร้องเพลง อาชีพหลักของผมทุกวันนี้คือเล่นดนตรีกลางคืน และก็กำลังทำเพลงใหม่ของวงพองพองคิดว่าอีกไม่นานคงได้ฟังกันครับ”

ปัจจุบันเล่นดนตรีอยู่ที่ไหนบ้าง?

“ผมเป็นคนที่สู้งานมากครับ มีกี่ร้านรีบบอกรีบมาจ้างผมเลยนะครับ (หัวเราะ) ตอนนี้เล่นอยู่ที่ร้านวีต้า ทาวน์อินทาวน์ ทุกวันพฤหัสบดี ร้านหมาข้างถนนเล่นกับพี่แซ็กวันศุกร์ วันอังคารเล่นกับน้องอีกคนหนึ่งใช้ชื่อวงว่า ชูชัย ไม่ขายเพชรนะ (หัวเราะ) คือมือกีตาร์ชื่อชู ส่วนผม ชัย เลยใช้ชื่อว่า ชูชัย เลือกเล่นเพลงอะคูสติก แล้วก็มีที่เซ็นทรัลเฟสติวัล ร้านแฟตกัสผมรู้สึกว่าทุกอย่างตอนนี้ลงตัวแล้ว ชีวิตแฮปปี้ครับ”

เป้าหมายต่อไปในชีวิต?

“ผมกำลังสนใจศาสตร์ฮวงจุ้ยครับ มีความสุขในการเรียนฮวงจุ้ยมาก แต่ยังไม่อยากพูดอะไร เพราะเรายังเรียนไม่จบ อยากเรียนให้รู้จริง หลังจากมีเหตุการณ์หลายๆอย่างที่ผ่านมาทำให้เชื่อในศาสตร์นี้ คือแฟนคนปัจจุบันของผม เขาน่ารักมาก เขาเห็นว่าเราชอบ ก็เลยสมัครให้ ตอนแรกถูกแฟนบังคับให้ไปเรียน ตอนนี้จบคอร์สฮวงจุ้ยแล้วครับ กำลังจะจบคอร์สดวงจีน19 มิ.ย.นี้ แล้วก็จะเรียนต่อ ฤกษ์ยาม ครับ กลับตัวไม่ได้แล้ว ยิ่งเรียน ยิ่งมีเรื่องที่อยากรู้ มีความสุขไม่น้อยกว่าการร้องเพลงเลย ถึงจะ ยาก แต่ มันส์ ยิ่งไม่ได้ไปเรียนแล้วตามเพื่อนไม่ทัน มันกดดันสุดๆ เกือบธาตุไฟแตกตั้งหลายที(หัวเราะ) ผมค่อยๆ เก็บเกี่ยวความรู้ไปเรื่อยๆ ดีใจนะครับที่ได้เรียนศาสตร์นี้ และอยากขอบคุณ อ.บัณฑิต แซ่ลิ้ม ซือเฮีย ซือเจ๊ และเพื่อนๆรุ่น 15 สถาบันศาสตร์ฮวงจุ้ยแห่งประเทศไทยด้วยครับ ใครที่มีความสนใจฮวงจุ้ย ผมว่ามาเรียนที่นี่ ได้ความรู้จริง ใช้ได้จริง และ แฮปปี้ครับ”

วันนี้ยังเป็นแค่นักเรียน แต่อนาคตดูเหมือนว่า “ชัย พองพอง” อยากจะเป็นอาจารย์ทางด้านฮวงจุ้ยเพราะคนใกล้ชิดบอกกำลังขะมักเขม้นเอาจริงเอาจัง“ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ

ลูกหมี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'THX'สวยสะกดทุกสายตา!! ร่วมเดินบนพรมม่วงสุดลักชัวรี่

วงCOCKTAILปีสุดท้าย!คว้ารางวัลศิลปินกลุ่มแห่งปีNINEENTERTAIN AWARDS 2025

'ปรัชญ์'ฟิวส์ขาดแฉ 'เฌอเบลล์'บงการแผนชั่ว'อีฟ'ได้ยินปล่อยโฮ ช็อกล้มทั้งยืน

‘ดนุพร‘ชวนคนรุ่นใหม่ร่วมโครงการ YPP ปั้น New Gen พา'พท.'กลับเป็นพรรคอันดับ 1 ในเลือกตั้งปี 70

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved