วันเสาร์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / บันเทิง
Star RETRO : 'อัยย' พรรณี วีรานุกูล เรียนรู้ที่จะท่องเที่ยว ทำงาน และ 'รัก' ด้วยหลัก Stop Think Act'

Star RETRO : 'อัยย' พรรณี วีรานุกูล เรียนรู้ที่จะท่องเที่ยว ทำงาน และ 'รัก' ด้วยหลัก Stop Think Act'

วันอาทิตย์ ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag : อัยย พรรณี วีรานุกูล Stop Think Act โปรดิวเซอร์รายการ
  •  

อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่า สตาร์เรโทรเขียนชื่อ “อัยย” ผิดกันนะคะ เพราะชื่อตามบัตรประชาชนเธอสะกดตามนี้จริงๆ ค่ะ แต่คนส่วนใหญ่จะรู้จักเธอในชื่อของ “อัยย์” นักร้องสาวเสียงดี ผู้ฝากผลงานเพลงเพราะๆ ไว้มากมาย แต่พักหลังหันไปให้ความสนใจกับการทำรายการทีวี โดยเฉพาะเรื่องของท่องเที่ยวต่างประเทศพอมีโอกาสเจอตัวในงานแถลงข่าวกรีนคอนเสิร์ต ครั้งที่ 19 ที่ “อัยย” พรรณี วีรานุกูล ร่วมเป็นหนึ่งในทัพศิลปิน จึงคว้าตัวมาอัพเดทความเป็นไปให้ทราบกัน

“ตอนนี้อัยยทำรายการท่องเที่ยว “Paza Bazaar : พาซ่า บาซาร์” ทางช่อง Now26 อยู่ค่ะ ทำมาแล้ว 2 ปีกว่า เป็นรายการที่จะพาไปค้นหาตลาดทั่วทุกมุมโลก”


ผันจากนักร้อง

สู่การเป็นโปรดิวเซอร์รายการ

ต้องบอกว่าจริงๆ อัยยชอบเรื่องของสารคดีมาตั้งแต่เด็ก เพราะเป็นคนไม่ค่อยดูการ์ตูน ชอบดูที่สุดคือสารคดี ทุกอย่างที่เป็นสารคดีจะชอบมาก สมัยนั้นจะมีอยู่ 3-4 รายการ ที่ดูจนติด อย่างรายการ “ครอบจักรวาล” ของหม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ เป็นรายการที่สร้างแรงบันดาลใจให้อัยยอยากออกเดินทางรอบโลก พอช่วงหนึ่งของชีวิตที่หยุดทำงานอัลบั้ม ไปทำงานประจำ
แล้วก็ไปเรียนต่อปริญญาโท เพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกัน พอรู้ว่าอัยยชอบทำสารคดี แต่ไม่มั่นใจตัวเองในการเริ่มต้นทำอะไร เขาก็จัดการไปสมัครงานให้เสร็จสรรพ ตอนนั้นพี่เช็ค (สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ) ทีวีบูรพา เปิดรับพิธีกร “กบนอกะลา”

ก็ได้เข้าไปร่วมงานกัน ต้องบอกว่าที่นั่นเป็นโรงเรียนสอนอัยยทำงานด้านทีวีอย่างจริงจัง พี่เช็คชวนให้ทำรายการเด็ก “แผ่นดินเดียวกันบ้านฉันบ้านเธอ” นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อัยยได้ทำงานในด้านของโปรดักชั่นทีวี เพราะเราไม่ได้เข้าไปในฐานะของพิธีกร หรือศิลปิน เราเป็นพนักงานคนหนึ่ง ไปทำทุกสิ่งทุกอย่าง ทำได้ดีบ้างไม่ดีบ้างเพราะเราก็ไม่เคย เรียนรู้ผิดถูก แล้วพี่เช็คก็สอนเยอะมาก ทีมงาน น้องๆ ทุกคนที่นั่น ทำให้เรารู้สึกว่า เออ..สิ่งที่เราอยากทำมาตลอด หรือสิ่งที่เราคิด ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด แต่ก็ไม่ได้แย่ไปกว่าที่เราคิด ถือว่าที่นั่นคือโรงเรียนแห่งแรกของอัยย

จริงจังกับการทำรายการทีวี

ใช่ค่ะ พอหลังจากหยุดร้องเพลง ก็ได้ทำงานหลากหลายมากขึ้น รวมถึงได้ทำโปรดักชั่นด้านทีวีที่ ไทยพีบีเอส เป็นโปรดิวเซอร์อยู่ 3 รายการในตอนนั้นนะคะรวมถึงรายการดนตรีกวีศิลป์ และจัดรายการวิทยุ “ลูกทุ่ง อีซี่” จัดวิทยุครอบครัวข่าว “คนชอบเที่ยว” จัดมา 7 ปี เมื่อเดือนที่ผ่านมาเพิ่งมีการเปลี่ยนผังใหม่ ใจหายเหมือนกันนะคะ แต่อัยยได้ความรู้เรื่องการท่องเที่ยวจากตรงนั้นมามากมาย หลังจากนั้นก็ได้มาทำในสิ่งที่ชอบคือการเดินทาง เพราะเป็นคนชอบเดินตลาด ไปทุกที่ต้องเสาะหา ไม่ฟรีมาร์เกต ก็ตลาดเช้า-สาย-ดึก เป็นกิมมิกซ์ของรายการ เลยได้ชื่อว่า “พาซ่า บาซาร์” คือพาไปซ่าส์ที่บาซาร์(ตลาด)

ออนแอร์ทุกวันเสาร์ บ่ายโมงครึ่งจัดกันสองคนกับพี่กาญ (กาญจนา หงษ์ทอง) ที่เป็นนักเขียนพอคเกตบุคแนวท่องเที่ยว อัยยเป็นโปรดิวเซอร์เองและเป็นตากล้องเองในบางครั้ง ที่งบไม่พอค่ะ (หัวเราะ) และก็กำลังลุ้นกับรายการใหม่ ซึ่งจะมาในไตรมาสที่ 3 เพิ่งไปเสนอช่องมาค่ะ เดี๋ยวถ้าผ่านก็จะได้เห็นกัน กับรายการสำหรับคนวัยทำงาน เพื่อเตรียมว่าทำอย่างไรเราถึงจะเกษียณได้อย่างมีความสุข ตั้งใจทำเพื่อคนวัยเกษียณและก่อนเกษียณ โดยเฉพาะคนอายุ 35 อัพ ก็ควรจะเตรียมตัวได้แล้วค่ะ โดยทำในนาม “ไอวี่ โปรดักชั่น” บริษัทอัยยเองที่เปิดมา 7 ปีแล้ว

ผู้บริหารสไตล์ ‘อัยย’

เหมือนตัวเองเลยค่ะ สบายๆ คือจริงๆ บริษัทไม่ได้มีกำไรเลยนะคะ ที่เปิดมาทุกวันนี้ขอแค่ไม่ขาดทุนก็พอ ให้เลี้ยงตัวอยู่ได้ พอแล้ว (หัวเราะ) ไม่ติดลบก็โอ้โห..แทบจะจุดธูปบูชา (หัวเราะ) คือจริงๆ ผิดหลักการการทำธุรกิจนะ แต่อัยยทำธุรกิจแบบ ขอให้ได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำ ทุกคนมีเงิน มีรายได้ที่เหมาะของแต่ละคน แล้วทุกคนมีความสุขกับการทำงาน เราถือว่ากำไรของเราคือสิ่งเหล่านี้ ถามว่าอยากได้เงิน อยากได้กำไรไหม อยากได้นะคะ แต่อัยยเป็นคนทำมาร์เกตติ้งไม่เก่ง ทำไม่เป็นเลย แต่จะทำในส่วนของการครีเอทรายการได้ดีกว่า เพราะฉะนั้นขอให้ไม่เข้าเนื้อ แล้วก็ไม่เครียดพอแล้วค่ะ เพราะงานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เราต้องมีความสุขกับงานที่เราทำ เลยจะบอกกับพนักงานทุกคนว่าถ้าอยู่ได้ก็อยู่ เรามีกันอยู่ 6-7 คน ไม่ได้ใหญ่มาก แต่เราอยู่กันแบบครอบครัว

สาวนักเดินทาง

อย่างที่บอกค่ะ อัยยเป็นคนชอบเดินทางมาตั้งแต่เด็ก ตอนที่เป็นศิลปินก็มีโอกาสได้เดินทางบ่อย แล้วการเดินทางของอัยยคือเข้าไปเรียนรู้ อย่างเดินทางไปเล่นคอนเสิร์ต พอเสร็จงานหลัก ก็จะขออยู่ต่อเสมอประมาณ 5-10 วัน แล้วก็ไปซอกแซกดูที่ต่างๆ ไปเรื่อยๆ เราจะหาข้อมูล หรือไม่ก็คนพื้นที่พาเราไปลุยขึ้นป่า อยู่บนดอย เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยทำงานเพลง พอวันหนึ่งเราเริ่มอยากเดินทางไปต่างประเทศ ก็พยายามหาข้อมูลเอง แล้วก็เดินทางไปกับเพื่อน

ปักหมุดเส้นทางนอกประเทศ

พอตั้งใจจะเริ่มเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก ก็มาคิดว่าจะไปที่ไหนดี เลยเริ่มจากฮ่องกงก่อนใกล้ๆ ก็ไปหลงทางที่ฮ่องกง (หัวเราะ) ตอนนั้นยังไม่ได้ออกอัลบั้มเลยค่ะ 20 กว่าปีที่แล้ว ไปกับทัวร์ คือพี่นก กรกนก พาไปแกจะไปดูเสื้อผ้ามาทำแฟชั่น เราก็ไปหลงกับกรุ๊ปทัวร์ เพราะดูเวลาผิด พอหลงปุ๊บกลายเป็นเราชอบอารมณ์ที่หลงทาง (ไม่กลัวเลย?) กลัวค่ะ(หัวเราะ) แต่ว่าความรู้สึกตรงนั้นทำให้เรา Alert(ตื่นตัว) และต้องคอยหาข้อมูล เพราะอัยยเป็นคนไม่กล้าพูด ไม่กล้าถาม กลัวเขาหาว่าโง่ แต่ตอนนั้นกัดฟันใช้ภาษาแบบมั่วเลย จนสุดท้ายหาทางกลับโรงแรมไม่ได้ แต่เรามีกลักไม้ขีดที่เป็นตราโรงแรมอยู่ก็เลยเรียกแท็กซี่ให้ไปส่ง ปรากฏว่าเดินทะลุซอยก็ถึงแล้วค่ะ แต่แท็กซี่พาไปวนแล้วมาปล่อยลง(หัวเราะ) เป็นประสบการณ์เริ่มต้น ที่ทำให้มีอีกหลายๆ ทริปตามมาและเป็นคนที่เดินทางเมื่อไหร่เพื่อนๆ จะชอบเรียกว่า “พี่เฉิน” คือ เฉินหลง พาเขาหลงตลอด (หัวเราะ)

การเดินทางทำให้เรากล้าที่จะเจอคนใหม่ๆ กล้าที่จะคุยกับเขา กล้าที่จะลอง แต่จริงๆ ก็ไม่ควรที่จะกล้าเกินไปนะคะ(หัวเราะ) เพราะล่าสุดปีที่แล้ว ไปฝรั่งเศสเพื่อถ่ายรายการ ก็ได้รับคำเตือนว่าที่นั่นขึ้นชื่อเรื่องของมิชฉาชีพ เราก็ระวังของเรา แต่ช่วงที่กำลังจะขึ้นรถไฟมีเด็กผู้หญิง 3 คน พยายามจะล้วงกระเป๋าตากล้องในทีม แต่คว้าตัวไว้ได้ ก็ค้นดูของไม่มีอะไรหายเพราะเขาล้วงไม่สำเร็จ ก็ปล่อยไป แต่พอขึ้นรถไฟก็ไปเจอเด็กกลุ่มนี้อีก กำลังล้วงกระเป๋าคุณตาคนหนึ่ง

ซึ่งเขาทำกันเป็นกระบวนการมาก เด็กกลุ่มนั้นจำอัยยได้ อัยยก็กำลังจะเดินเข้าไปบอกคุณตา แต่เพื่อนบอกว่าอย่าไปยุ่ง เพราะเราไม่รู้ว่ามีคนอื่นในแก๊งเขาอีกหรือเปล่า หรือมีอาวุธรึเปล่า เราก็ได้แต่มองและสงสารคุณลุง พอเด็กกลุ่มนั้นขโมยเสร็จ ยังหันมาบ๊ายบายอัยยด้วยนะ นี่แหละทำให้เรารู้ว่าทุกที่ที่ไปเราต้องระวังตัวเองเวลาเดินทางเราต้องระมัดระวังกระเป๋า หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่เขาเอง ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย เพราะตอนที่เพื่อนโดนล้วงก็โวยวาย แต่ไม่เห็นเขาตรวจตราหรือสนใจอะไร

งานจับไมค์ในปัจจุบัน

ยังคงมีโอกาสได้ร้องเพลงบ้างค่ะ เวลาเพื่อนๆ ชวน อย่างตอนทำดนตรีกวีศิลป์ถือว่าเป็นรายการที่จรรโลงชีวิตอัยยมาก เพราะปกติเป็นคนชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ รายการนี้ทำให้อัยยได้ร้องเพลงทุกครั้ง ร้องเพลงแจมกับศิลปินที่เราเชิญ เขาไม่ให้ร้องก็ขอร้อง (หัวเราะ) คือเรามีความรู้ที่ได้ทำ ได้ร้อง เพราะฉะนั้นใครมีงานอะไรให้ไปร้อง ไปหมด ร้องหมด ถ้าไม่ติดเรื่องการทำรายการนะคะ

ล่าสุดที่ตื่นเต้นมากคือกำลังจะได้ขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ Green Concert # 19 “The Lost Love Songs To Be Continued 6-7 สิงหาคมนี้ ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ปีที่แล้วที่จัด อัยยซื้อตั๋วไปดูด้วยนะคะ แต่ไปถึงตอนคอนเสิร์ตจะจบแล้ว เพราะติดถ่ายรายการ เสียดายมาก กลายเป็นว่าปีนี้เราได้มาร่วมขึ้นแสดง ได้ขึ้นร้องในคอนเสิร์ตกับอีก 50 กว่าศิลปินในดวงใจ กรี๊ดเลย นี่ก็ยังตื่นเต้นนะคะ เพราะบัตรขายหมดเร็วมาก แต่อัยยยังไม่รู้จะร้องเพลงอะไรเลย และเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ขึ้นเวทีของทางเอไทม์ด้วย ปกติเคยแต่เป็นผู้ชม เป็นแฟนคลับแทบจะทุกคอนเสิร์ต ซึ่งเขาจัดได้อลังการทุกครั้ง ยังเคยคิดเล่นๆ ว่าถ้าครั้งหนึ่งในชีวิตที่ฉันยังเป็นนักร้องอยู่ถ้าได้ขึ้นเวทีของเอไทม์ก็คงจะตายตาหลับ ตอนทีมงานโทร.มา..อัยยคิดว่าเขาชวนมาดูคอนเสิร์ต ก็ตอบไปค่ะแต่พอบอกว่าชวนไปร้องเพลง กรี๊ด..รีบตอบรับทันทีเลยค่ะต้องขอบคุณพี่ฉอด (สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา) และพี่ๆ ทุกคนที่ให้โอกาสอัยยในครั้งนี้

ซิงเกิ้ลใหม่ในกรุ

เพลงมีทำไว้เรื่อยๆ ค่ะ แต่ไม่รู้จะปล่อยยังไง อย่างที่บอกเป็นคนที่หัวธุรกิจไม่มี คิดๆ นะ เต็มไปหมดเลย แต่ยังไม่รู้จะทำยังไง รอจังหวะอยู่ค่ะ อย่างตอนที่ทำอัลบั้ม อัยยก็เขียนเพลงเองบ้าง แต่รู้สึกว่าเขียนไปแล้วคนจะเข้าใจเราหรือเปล่า (หัวเราะ) อย่างตอนนั้นทำเพลงภาพยนตร์เรื่อง “นางเอก” เขียนๆ ไปเราเข้าใจนะแต่ไม่รู้คนอื่นจะเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังพูดไหม ก็เลยกลายเป็นคนไม่มั่นใจในการเขียนเพลง จะให้คนอื่นเขียน เราเป็นโปรดิวเซอร์เอง หยิบในสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เราอยากทำถึงจะห่างจากการทำอัลบั้มแต่ก็ยังได้ทำเพลงอย่างมีความสุขอยู่ ทำเองฟังเองค่ะ (หัวเราะ)

กำลังใจจากแฟนคลับ

อัยยเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองว่าคนจะรู้จักหรือชอบเราไหม เพราะไม่คิดว่าคนจะรู้จัก แต่พอมีงานรวมศิลปินหรือมีงานที่เพื่อนๆ ชวนไปร่วมร้อง คนส่วนใหญ่ตลกดีมักจะได้เจอกับคนที่รู้จักเพลงแต่ไม่รู้จักคนร้องเยอะมาก บางคนเดินชนกันเลยนะ รู้ชื่ออัยย แต่ไม่รู้ว่าร้องเพลงนี้ เพราะยุคนั้นไม่ได้โปรโมทหน้าตาอะไรมาก ซึ่งอัยยชอบมาก รู้สึกว่าเขาชอบเพลงของเราจริงๆ เขาไม่ได้ชอบเราเพราะอย่างอื่นเลย ยิ่งทำให้เรารู้สึกดีมากๆ ที่เจอคนที่เขาชอบงานเรา เพลงที่ถูกขอให้ร้องบ่อยๆก็จะมี “บอกเขาว่าเจอฉัน” เพลงที่ทุกคนบอกว่าใจร้ายมากแล้วก็มีเพลง “ใส่ใจ”, “นานเหลือเกิน” เพลงแรกของการทำอัลบั้ม รวมถึง “เพราะอะไร” ซึ่งจริงๆ แล้วเพลงนี้เป็นเพลงของพี่ป้าง (นครินทร์ กิ่งศักดิ์) อัยยได้นำมาร้องประกอบละครเรื่อง “รองเท้าแก้ว”

ไม่เคยหยุดที่จะศึกษา

อัยยจบปริญญาตรีทางดนตรีเอกว้อยซ์ คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ พอมีอัลบั้มสักพักใหญ่ๆ ก็ลงเรียนต่อปริญญาโทที่นิด้า ด้านวิเคราะห์และวางแผนนโยบาย คณะพัฒนาสังคม (อีกใบก็จะได้เป็นดอกเตอร์?) ตอนแรกตั้งใจว่าเรียนจบแล้วจะต่อดอกเตอร์เลยค่ะ เพราะไม่อยากเป็นนางสาวอัยยแล้ว อยากเป็น ดอกเตอร์อัยยแต่พอสักพักคิดว่าเราจะเรียนไปทำไม เราไม่ได้ต้องการใบปริญญา คือตั้งแต่อัยยเรียนจบปริญญาตรีมาแล้ว อัยยไม่ได้ใช้ใบปริญญาเพื่อทำงานเลย พอมาเรียนปริญญาโท ก็เรียนเพราะอยากรู้เรื่องนี้ เลยไปเรียน หลังๆ เลยเน้นไปทางวิชาชีพมากกว่าค่ะ เป็นพวกประกาศนียบัตร เรียนในสิ่งที่เราสนใจ ยังคิดว่าถ้ามีเวลาอยากจะเรียนทำกับข้าวกับแม่ค่ะ เพราะแม่อัยยเป็นคนทำกับข้าวเก่งมาก เติบโตมาด้วยอาชีพขายข้าวแกงของแม่ อัยยก็ทำอร่อยนะ (หัวเราะ) คือเป็นคนชอบทำกับข้าว ชอบทำอาหาร ชอบครีเอทไปเรื่อย แต่ไม่เคยมีโอกาสได้ทำ เพราะคุณแม่จะครองครัวตลอด

อนาคตของอัยย

ทุกวันนี้คืออนาคตของอัยยนะคะ เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตเราจะอยู่อย่างไร แต่ว่าทุกวันที่อัยยทำคือจะแบ่งเงินเป็นส่วนๆ ก้อนนี้เผื่อฉุกเฉิน ก้อนนี้เก็บไว้เพื่อดูแลตัวเองตอนเจ็บป่วย อันนี้เอาไว้ออกเดินทาง อันนี้เอาไว้ให้พ่อแม่ ก็จะพยายามเป็นหนี้ให้น้อยที่สุด อย่างซื้อบ้านก็ทำงานๆ เพื่อโปะบ้านให้หมดเร็วๆ อัยยรู้สึกว่าชีวิตทุกวันคืออนาคต คืออยู่กับปัจจุบันให้มีความสุข เพราะเราออกเดินทางตลอด เพราะฉะนั้น อยากทำอะไรทำเลย เช่นมีเวลาว่างอยากพาพ่อแม่ไปเที่ยว พาไปกินข้าว ทำเลยทำทุกอย่างที่ทำได้และมีเวลา จะไม่แปะเอาไว้ว่าเดี๋ยววันนั้นวันนี้ค่อยทำ วางแผนครอบครัวไว้ระดับหนึ่งที่เราจะไม่ประมาท แต่เราทำอะไรได้เราทำไว้ก่อน

ชีวิตคู่ที่ไม่หรูหราแต่มีความสุขมาก

สถานะปัจจุบันคือมีแฟน แต่ไม่ได้แต่งงานค่ะ แล้วก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลาด้วย (ผู้หญิง?) ค่ะ แฟนผู้หญิง คือเมื่อก่อนอัยยเคยคิดจะแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้แต่ง เราก็โอเคเขาอาจจะไม่ใช่คู่เรา ทำให้แคล้วคลาดกันไป แต่พอเจอใครสักคนที่ สมัยก่อนเด็กๆ เราคิดว่าเป็นแฟนต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่พอวันหนึ่งเรามารู้ว่า เรานิสัยแบบนี้คนคงอยู่กับเรายาก (หัวเราะ) ทั้งเอาแต่ใจตัวเองมาก ขี้โมโห เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่เริ่มปรับตัวเองก่อน คนจะอยู่กับเรายาก พอวันหนึ่งเราเริ่มรู้แล้วว่า อ๋อ..เราเป็นคนแบบนี้ เราปรับตัวเองแบบนี้ แล้วเรามีช่องว่างให้ตัวเราด้วย มีช่องว่างให้กับแฟนเราด้วย เออ..เราก็อยู่กันได้ และอยู่ได้อย่างดีมากกับ 7 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยทะเลาะกัน ทะเลาะกันแทบนับครั้งได้ หรือนับประโยคได้ด้วยซ้ำค่ะ

อัยยว่าการมีความรักอย่าไปคาดว่าจะเป็นอย่างไร ใช้ชีวิตทุกวันให้ดีที่สุด ให้เหมือนว่าไม่รู้เราจะได้เจอเขาอีกหรือเปล่า เพราะว่าเคยคบกันแว่บหนึ่งแล้วเลิกตอนเลิกกันไปทรมานใจมาก คิดไปต่างๆ นานาว่าวันนั้นเราน่าจะคิดแบบนี้ ทำแบบนี้ ดูแลเขาแบบนี้ โดยที่ไม่คิดว่าจะได้กลับมาเจอกันอีก พอวันที่กลับมาเจอกันอีกครั้ง เลยไม่ตั้งเป้าละ เราอยู่ให้ดีที่สุด อยากทำอะไรทำให้ดีที่สุด อะไรที่เรารู้ว่าเขาชอบทำให้ทุกอย่าง กลายเป็นต่างคนต่างทำในสิ่งที่อีกคนชอบ คือถ้าเราไม่ชอบให้เขาทำอะไร เราต้องไม่ทำ ไม่ชอบให้เขาเหวี่ยงวีน เราต้องไม่หวียงวีนใส่เขา เราอยากให้เขาเป็นแบบไหน เราจงทำแบบนั้นให้เขา เราเปลี่ยนตัวเราได้ เปลี่ยนความคิดเราได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าอัยยจะเป็นคนดีนะคะ ก็มีงอแงบ้าง แต่ไม่ถึงกับเกินพอดี

มีช่วงหนึ่งอัยย์เฮิร์ทมาก นั่งเขียนข้อดีของตัวเองว่ามีอะไรบ้าง ได้ 20 กว่าข้อ แล้วพอเขียนข้อเสีย โอ้โห..มาเป็นร้อยข้อ (หัวเราะ) คือถ้าเรากล้าที่จะยอมรับตัวเองได้ ว่าเรามีข้อเสีย แล้วปรับตัวเองซะ อัยยว่าเราเปลี่ยนได้นะ อย่าไปคิดเปลี่ยนคนอื่นหรือเปลี่ยนสังคม เราอยากให้สังคมเป็นอย่างไร เราต้องเป็นคนแบบนั้นให้สังคม เปลี่ยนที่ตัวเราเองดีที่สุดค่ะ

สุขภาพกายที่ต้องดูแล

เมื่อก่อนออกกำลังกาย เดี๋ยวนี้แย่มากไม่ค่อยได้ทำ จริงๆ เป็นภูมิแพ้ตั้งแต่เกิดแต่ไม่เคยรู้ตัวค่ะ มารู้ตอนอายุเยอะขึ้น ภูมิแพ้เริ่มส่งผลเด่นชัด อัยยแพ้ข้าวทุกอย่าง วานิลลา พริกไทยขาว พริกไทยดำ แพ้เยอะมาก ข้าวก็กินได้นะแต่กินน้อยลง อาการคือหายใจไม่สะดวกเพราะว่าบวมข้างในแล้วก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เคยไปตรวจจริงจัง กินยาก็หายไป จนล่าสุดเมื่อ 6 ปีก่อนอัยยแพ้จนไม่ไหวแพ้แบบเห่อ หาหมอเจาะเลือดตรวจโอ้โห..แพ้เยอะมาก แพ้ทุกสิ่งที่ชอบหมดเลย มีทางเดียวคือออกกำลังกายเท่านั้นค่ะ

เป้าหมายสุดท้าทาย

ตอนนี้ตั้งเป้าไว้จะไปปีนภูเขาไฟฟูจิค่ะ เพราะยังไม่เคยปีนเขาเลย เลยเริ่มจากเล็กๆ ไปฟูจิก่อน แล้วค่อยไปหิมาลัย แต่ยังไม่รู้จะสามารถไหมนะคะ แต่ก่อนอื่นต้องเริ่มออกกำลังกายโดยการเดินก่อน(หัวเราะ) อยากทำอะไรที่ยังไม่เคยได้ทำ เมื่อก่อนเคยคิดว่า ใช้ชีวิตให้เต็มที่ตายก็คุ้ม แต่ตอนนี้คิดได้ว่า ตายตอนนี้ไม่ได้ คนเราไม่ควรตายก่อนพ่อแม่ เป็นสิ่งที่อัยยท่องไว้เสมอ ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะใช้ชีวิตบ้าระห่ำมาก จนวันหนึ่งอัยยเห็นลูกสาวของเพื่อนเสีย แล้วเขานั่งร้องไห้แบบแทบจะขาดใจตายตามลูกวันนั้นคิดเลยว่า เราต้องไม่ตายก่อนพ่อแม่ อัยยก็จะสอนน้องๆ ที่มาคุยด้วยเสมอ ยุติธรรมแล้วเหรอที่พ่อแม่ให้ชีวิตเรามาแล้ววันหนึ่งเขาต้องมาจัดงานศพให้เราเอาจริงๆ นะคนสมัยนี้ใช้ชีวิตลืมคิดไปว่ามนุษย์มีพ่อมีแม่บางคนไม่สนใจครอบครัว หาเรื่องเดือดร้อนให้ครอบครัวเสมอ อัยยก็จะแนะเขาให้ Stop Think Act หยุดก่อนคิดนิดหนึ่ง แล้วค่อยแอ๊กชั่นต่อไปว่าจะเดินยังไง อย่าคิดว่าเกิดมาแล้วฉันจะทำอะไรก็ได้กับชีวิต

และนี่คือชีวิตที่น่าอิจฉาของสาวนักเดินทาง “อัยย” พรรณี วีรานุกูล ผู้เปลี่ยนสิ่งที่รักมาเป็นงานที่ชอบ และมีความสุขที่ได้ลงมือทำ แม้จะพบเจอกับช่วงเวลาลำบากบ้าง เธอบอกว่า “ไม่รู้จะซึมเศร้ากับสิ่งที่ผิดหวังหรือเสียไปแล้วทำไม เลยมองเป็นบทเรียน
ที่สอนให้เราระวังและก้าวต่อไปแทน” นับเป็นข้อคิดดีๆ ที่ “อัยย” มักมีเผื่อแผ่ให้กับคนรอบข้างเสมอๆ

ใบพร้าว

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

เพื่อไทย ส่ง 'อนุสรณ์' ลุยช่วย 'อัศนี' เบอร์ 3 นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่

วิชัยเวชฯ จับมือโรงเรียนบ้านด่านโง ร่วมใจปลูกป่า เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ

อะไรของเขา? 'วันชัย'จวกสังคมไร้ความเมตตา 'ทักษิณ'วัย 75 ป่วย เอากันถึงขั้นวิกฤตเลยหรือ

จบที่ศาลดีที่สุด! 'หนุ่ม กรรชัย'ตอบชัดปมฟ้อง'นักร้องสาว' หากอยากเคลียร์ก็ยินดี

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved