ทุกชีวิตล้วนมีเรื่องราว ผ่านร้อนผ่านหนาว กว่าที่จะสุข บางครั้งเหมือนจะหมดทุกข์ แต่ความสนุกกลับไม่ได้ยั่งยืนอย่างที่คาดหวังกัน!! เช่นเดียวกับชีวิตของร็อกเกอร์สาวเสียงห้าว “สุกัญญา มิเกล” ที่ขอยกให้เป็นอีกหนึ่งหญิงแกร่งของสตาร์เรโทร เธอสู้อดทนจนบั้นปลายเกือบเคว้ง แต่ไม่คิดเกรงกลัวต่อโชคชะตา!?
เริ่มต้นเส้นทางเพลงในรูปแบบร็อก
จริงๆ เกลเริ่มหลงใหลดนตรีตั้งแต่ 6 ขวบ เพราะว่าเด็กลูกครึ่งที่ไม่มีพ่อ แม่ไม่ได้อยู่ด้วย อยู่กับตายายก็ค่อนข้างเครียด สับสน เราโดนล้อว่าแตกต่าง แปลกประหลาดเราเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดสำหรับชุมชนนี้ แล้วพอได้ยินเพลงจากวิทยุของคุณตา ก็มีความรู้สึกว่า อือ..ทำให้เราลืมทุกอย่าง ตอนนั้นอยู่นครสวรรค์ จะมีเพลงเป็นเพื่อนตลอด แต่ไม่เคยคิดหรอกว่าจะได้มาเป็นนักร้อง แต่ชอบร้องนะ เพราะว่าร้องแล้วมีความสุข ส่วนที่มาชอบเพลงร็อก เพราะสมัย 8-9 ขวบ แม่มีเทปคาสเซ็ทเยอะมาก มีทั้ง ดิสโก้ เซาท์เทิร์น คันทรีร็อก ฮิปฮอป อะไรพวกนี้ เขาก็เปิดฟัง แล้วพี่ชายกำลังเป็นวัยรุ่น สมัยนั้น สกอร์เปี้ยนส์ดังมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าร็อกจนกระทั่งเป็นนางแบบแล้ว เริ่มเข้าหาดนตรีตอนอายุ 19 ก็สอบถามจากนักดนตรีว่าเพลงที่เป็นแบบนี้ดนตรีหนักๆ คือเพลงแนวอะไร เพื่อนที่เล่นในวงก็บอกว่า เขาเรียก “ร็อก” เราก็แบบอ้าว..ที่เราชอบนี่คือร็อกเหรอก็เริ่มซึมซับ เรียนโรงเรียนนี่ไม่มีเลย เพราะเราจนไม่มีตังค์ หนังสือให้อ่านก็ไม่มี มีวิธีเดียวที่จะได้เรียนรู้ด้านเพลงคือไปเที่ยวผับ ไปนั่งคุยกับนักดนตรีเป็นพรแสวงของเราที่จะต้องไขว่คว้าหาเอง
เส้นทางออกอัลบั้ม
ตอนนั้นเป็นนางแบบมีงานถ่ายแบบที่ไหนก็ไป สนุก มีความสุขอย่างเดียวเลยค่ะ บ้าบอมาก เล่นกับวงอยู่ที่ผับได้ประมาณเกือบปี ก็มีพี่เชนมาติดต่อ เขาจะทำค่ายใหม่ชื่อ วี.ไอ.พี. เขามาติดต่อว่าลองดูไหม เสียงเกลน่าจะขายได้ คือเสียงแบบนี้ไม่ค่อยมีในท้องตลาดตอนนั้น เราก็ถามว่าต้องเสียค่าอะไรไหม เขาบอกไม่ต้องเสียอะไร ก็ไปทดลองดู แต่จริงๆ สิ่งที่เสียคือการเข้าไปอยู่ในรูปแบบบริษัท ต้นสังกัดจะห้ามเรารับงานเดินแบบถ่ายแบบทุกอย่าง สองปีเหมือนโดนขังคุก แล้วเงินเราก็ไม่มี กลับไปจนอีกเหมือนเดิม พอสองปีอัลบั้มออกมา Release ขายได้ประมาณสี่หมื่นกว่าม้วน ชุดแรก“หน้ากาก” ซึ่งถือว่าเยอะมากในยุคนั้น เพราะว่าโปรโมทน้อยมาก แล้วเราก็เป็นหน้าใหม่ด้วย แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ได้คือว่าเป็นศิลปิน ได้ส่งชื่อเข้าชิงรางวัลศิลปินหน้าใหม่ติดหนึ่งในห้า และหลังจากนั้นมาก็ติดอยู่ตลอด เกลได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตกับคาราบาวทั่วประเทศ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เวทีใหญ่เขาทำกันยังไง วางระบบกันแบบไหน คาราบาวเล่นกันยังไง ทำไมเข้าไปในใจคนได้ เราไปไหนก็แล้วแต่เราจะไม่เคยหยุดคิด นี่คือลักษณะที่คนมองว่า “เยอะ” ของเรา แต่จริงๆ เกลถือว่าเราไม่ได้เรียนในโรงเรียนนะ เพราะฉะนั้นทุกที่คือโรงเรียนของเรา (เรียนจบชั้นไหน?) ไม่จบ ม.2 ค่ะ แต่ตอนหลังไปเรียน กศน.ต่อจนจบม.6 แล้วค่ะ เพราะว่าพอมีลูกปุ๊บ เราต้องมีภูมิความรู้ เพื่อวางให้เขาดูได้ว่า ม๊ามี่ยังจบม.6 เลย อย่างน้อยๆ ยูก็ต้องจบเหมือนกัน เป็นตัวอย่างให้ลูก เพราะเวลาที่เขาเกเร อย่างที่เราเคยเกเร เราก็จะได้บอกเขาได้ ยังไงยูก็ต้องจบ ต่อจากนั้นจะบ้าบออะไรก็เรื่องของคุณ
ไม่เคยทิ้งงานเพลง
ไม่มีเลยค่ะ ส่วนธุรกิจ เกลเคยคิดอยากทำเหมือนกัน เพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เป็นช่วงรอยต่อระหว่างอนาล็อกกับ ดิจิทัล ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่เราสับสนมาก จะเดินต่อดีไหม เราเป็นศิลปินยุคอนาล็อกตั้งแต่กดอัดกันทีละท่อน ไม่สามารถตัดต่อได้ ร้องเสียงเดิมตลอด แล้วกว่าจะได้มาแต่ละอย่าง การจัดคอนเสิร์ต มีแบนด์ การซ้อมคอนเสิร์ตทุกอย่างใช้เวลาหมดเลย แต่ตอนนี้ทุกอย่างเร็วหมด ร้องดังก็ไม่ได้ ต้องร้องเบาๆเราก็อึดอัด เลยเริ่มรู้สึกว่า ยุคสมัยเปลี่ยนไป สงสัยจะไม่ใช่ยุคเราแล้วมั้ง ทุกคนต้องร้องเบากันหมดเหมือนกระซิบ เกลมีปัญหาในเรื่องของเส้นทางสายดนตรีที่เขาเรียกว่าเป็น อาร์ติสท์ ก็เลยรู้สึกว่าถ้าอย่างงั้นเราคงจะต้องหาอาชีพอื่นไหม ทำอย่างอื่นไปเลยดีกว่า ปล่อยไปเลย เคยคิดแบบนี้ แต่มีเพื่อนหลายคนเข้ามาดูในผับแล้วบอกว่า เกลหยุดไม่ได้ เกลยังมีกำลังอยู่ ยุคสมัยอาจจะยังไม่ใช่ของเรา แต่ว่าวัดกันที่เล่นสดไหม ซึ่งเล่นสดเกลไม่เคยแพ้ใครนะ สำคัญคือเราไม่ได้มีดนตรีเพื่อเอาไว้ใช้สร้างชื่อเสียง เราต้องคิดใหม่ เรามีดนตรีไว้ในชีวิตเราเพื่อความสุข ดังนั้นเราก็เลยตัดสินใจว่า ไม่ว่าต่อจากนี้ไปเราจะมีอาชีพอะไรเสริมก็แล้วแต่ เราจะไม่หยุดร้องเพลง แล้วเราก็ทำมาเรื่อยๆ
ยังคงทำเพลงใหม่ออกมาเรื่อยๆ
ใช่ค่ะ ลงยูทูบแชนแนลของตนเอง ชื่อว่า Migael World (มิเกลเวิลด์) เมื่อปีที่แล้วปล่อยเพลงชื่อ “สาวใหญ่ใจสวย” ล่าสุดกำลังนำงานเก่าๆ ซึ่งไม่ติดลิขสิทธิ์กับใคร และเป็นเพลงที่เราเขียนเองมาลงยูทูบ โดยใช้เวอร์ชั่นเดิม แต่อาจจะต้องทำเอ็มวีเพิ่ม เพราะว่าที่ผ่านมามีเอ็มวีอยู่ไม่กี่ตัว อีกอย่างสมัยนี้เพลงฟังอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูด้วย ซึ่งเพลงใหม่ที่จะทำ ได้แรงบันดาลใจจากการไปภาคใต้มาค่ะ รู้สึกว่าเพลงแถวเซาท์เทิร์นน่าสนใจ มีกลิ่นอายทางใต้ แต่ยังจะเน้นดนตรีร็อก ซึ่งมิเกลไม่มีสูตรหรือสไตล์แน่นอน ถ้าเข้าไปฟัง “สาวใหญ่ใจสวย” จะรู้ว่าเสียงดนตรีพาไป ดังนั้นใครอยากเสพงานที่แตกต่าง ลองเข้าไปดูกันค่ะ เป็นงานดนตรีจากหัวใจเกลจริงๆ เรื่องจะดังไม่ดัง เราผ่านมาแล้ว ความดังไม่จีรัง ขอแค่เห็นคนเข้าไปคลิกฟังงานเรา หรือตัวเราเองได้นั่งฟังผลงานของตัวเอง ก็มีความสุขแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นเราถือว่าความดังมาแป๊บเดียว แต่ตัวดนตรีจะอยู่ตลอด ตรงนี้แหละที่สร้างความสุขให้เราได้มากกว่า
ฝึกฝนและเรียนรู้งานทีวี.เพิ่มเติม
มีช่วงหนึ่งได้ทำรายการทีวี. โชคดีมาก ได้ฝึกฝนในเรื่องของการตัดต่ออยู่ 7 ปี ก็เลยตัดเอ็มวีเองซะเลยตอนนี้ไม่ต้องจ้างใครแล้ว เพราะบางทีคนที่เรียนมาระบบการคิดจะเป็นขั้นเป็นตอน แต่อย่างเราน่ะเรียนน้อยระบบความคิดเราไม่ดีพอ เราคิดในหัวได้ แต่เราไม่สามารถถ่ายทอดมาเป็นสตอรี่บอร์ด เลยโชคดีมากที่ได้ฝึกฝนเรื่องของการตัดต่อเอง งบน้อยเลยไม่ต้องจ้างใคร (หัวเราะ) ข้อดีของเราคือเราไม่ได้เรียนสูข้อเสียของเราก็เราไม่ได้เรียนสูงเหมือนกัน เกลนอกกรอบจนไม่มีฐาน พอไม่มีฐานปุ๊บบางทีคนที่ทำงานร่วมกับเราเขาไม่เชื่อ จนกว่าเราจะทำให้เขาเห็น
สถานที่พบปะของแฟนเพลง สุกัญญา มิเกล
ตอนนี้เกลเล่นดนตรีร้องเพลงอยู่ตามผับค่ะแล้วก็รับงานโชว์ตัวทั่วไป ขึ้นคอนเสิร์ตร่วมแจมกับคนอื่นๆ บ้าง ล่าสุดกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ไปเล่นกับพี่เป้ ไฮร็อก ที่จังหวัดแพร่ ส่วนงานที่เราขายเองก็มีคือเล่นประจำที่ร้าน “บราวน์ชูการ์” เฉพาะวันอาทิตย์ เป็นอะคูสติก ร็อก เวลาสองทุ่มครึ่ง แล้วก็มีที่ “ปาร์คกิ้งทอยส์” ผับแอนด์เรสเตอรองท์ อันนี้เล่นมาสิบปีแล้วค่ะ จะเล่นทุกวันอังคาร เวลาเที่ยงคืน เป็นฮาร์ดร็อกแบนด์และที่ร้าน “ไรโน่บาร์” พระราม 2 คือใช้ชีวิตตอนกลางคืนเป็นหลักค่ะ (หัวเราะ)
กลับมาขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่
ก่อนอื่นต้องบอกว่ามีความสุขมาก ขอบคุณกรีนเวฟสุดๆ ที่ชวนขึ้นคอนเสิร์ต กรีนเวฟ ครั้งที่ 19The Lost Love Songs To Be Continued ร้อยเพลงรักที่กลับมา เพราะว่าอย่างน้อยๆ เป็นการให้เกียรติศิลปินอย่างเรา เพราะเราเองก็ไม่ได้อยู่ค่ายใหญ่อะไร อยู่วอร์เนอร์มิวสิก แล้วก็หลุดจากวอร์เนอร์มิวสิก มาเป็นสิบๆ ปีแล้ว แต่โชคดีที่แฟนๆ ยังชอบเพลงอยู่ ไม่ว่าจะเป็น “รักเธอจริงๆ”, “ดีดีกันไว้” ทุกครั้งที่ร้อง จะบอกตัวเองตลอดว่าพระเจ้าส่งเพลงนี้มาให้จาก พี่ตู๋ (ปิติ ลิ้มเจริญ) กับ พี่ปุ้ม (พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) แล้วพระเจ้าประทานให้มันเข้าไปในใจทุกคนที่ได้ยิน ทำให้เรามีอาชีพร้องเพลงอยู่ได้ และยังได้ขึ้นคอนเสิร์ตดีๆ อีกด้วย
รายได้ไม่ค่อยดี แต่มีความสุข
ทุกวันนี้ยังจนเหมือนเดิมค่ะ ไม่มีตังค์เหมือนกับศิลปินท่านอื่นเขา ศิลปินบางคนขึ้นคอนเสิร์ตได้ทีเป็นหมื่นแต่ของเกลบางทีห้าพันบาท แถมยังต้องแบ่งวง เพื่อให้นักดนตรีมีงาน เราก็ต้องยอมลดหลั่นของเรา ไม่ได้คิดว่านี่คือการเสียสละนะคะ แต่เป็นการเดินไปด้วยกัน อย่างน้อยๆเราก็ไม่ใช่กรรมกรไม่ต้องลำบากเหมือนคนอื่นเขา แต่ถามว่าชีวิตเราร่ำรวยไหม ไม่เลย แล้วยิ่งหลังๆ มายิ่งกระท่อนกระแท่นค่ะ
ความเสี่ยงครั้งใหม่
ฐานะกระท่อนกระแท่นอยู่ยาวนานตั้งแต่ปี 2541แล้วค่ะ เพราะว่าค่าครองชีพประเทศไทยไม่ได้ลดลงมีแต่เพิ่มขึ้น แล้วทุกอย่างที่เพิ่มขึ้นไม่เคยสูญสลายไป แต่รายได้ของเราสูญสลายไป เพราะฉะนั้นทำงานอย่างเดียวไม่พอ ต้องพยายามที่จะคิดต่อไปว่าเราจะทำอะไร มีคนเตือนนะว่าอย่าเพิ่งลงทุนทำอะไร แต่เราคิดว่า การลงทุนคือความเสี่ยง การใช้ชีวิตก็คือความเสี่ยง การเลือกเส้นทางในชีวิตของเราที่เราเลือกเพลงร็อกตั้งแต่ต้น นี่ก็คือความเสี่ยงอย่างหนึ่ง ถ้าไม่เสี่ยง ไม่ล้มก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จไหมฉะนั้นปลายปีนี้ก็ว่าจะลองทำอะไรบางอย่างเป็นฐานไว้สำหรับตัวเอง แต่เราก็ต้องคัดสรรสิ่งที่เราอยู่ด้วยแล้วเราไม่เกิดความทุกข์ คือถ้าจะให้ไปเป็นพนักงานหรือเป็นครู เข้า- ออกงาน ตามเวลา ผจญกับรถติดเช้าเย็นอย่างชาวบ้านเขาก็ไม่เอานะ ไม่ใช่ตัวเรา หรือบางทีการทำงานอยู่ในช่วงเวลาจำกัด ในบริษัทจำกัด การคิดแบบแตกยอดในการสร้างสรรค์น้อยลงไปเยอะนะ ถึงอายุจะมากขึ้น แต่เกลยังไม่รู้สึกว่าตัวเองแก่ เราแก่เฉพาะหน้า แต่ใจเรายังซู่ซ่าอยู่เลย(หัวเราะ) เลยอยากใช้ชีวิตให้คุ้มค่ะ
ประเด็นหย่าร้างที่ผ่านมา
เป็นเรื่องปกติที่มนุษย์เราคาดหวังจะให้ชีวิตสมบูรณ์แบบ ยายสอนเกลไว้ว่าเกิดเป็นผู้หญิงเดี๋ยวก็ต้องมีครอบครัว ต้องมีลูก เพราะฉะนั้นเรียนรู้การทำหน้าที่ของแม่และภรรยาซะ นับแต่เราเริ่มเป็นประจำเดือนมาเลย ทีนี้สิ่งที่ยายสอนเราก็มองว่าเป็นเรื่องที่ Success ในชีวิต คือสูตรสำเร็จของคน แต่ในความเป็นจริงแล้ว พอเราพยายามที่จะเป็นภรรยา พยายามที่จะเป็นแม่ สิ่งที่ได้กลับคืนมาคือความว่างเปล่า เลยหันกลับมามองย้อนดูตัวเอง เราเกิดมาเป็นผู้หญิง พระเจ้าให้เราเกิดมาทำหน้าที่แค่นี้เหรอ แล้วชีวิตเราอยู่ไหน ความสุขเราอยู่ไหน ถ้าเราทำหน้าที่อย่างเดียว แต่เป็นหน้าที่ที่เราไม่มีความสุขล่ะ แล้วแบบนี้เราจะตายเร็วไหม เครียดดังนั้นเมื่อลงทุนลงแรงลงใจแล้วได้กลับคืนมาในสิ่งที่ไม่คุ้มค่า คือไม่ได้รับคุณค่าในฐานะภรรยา ไม่ได้รับคุณค่าในฐานะแม่ เท่านี้ก็จบแล้วชีวิตคู่ เพราะฉะนั้นเราก็ถอนหมดทุกอย่าง
ชีวิตคู่ที่ไม่สมหวัง
เกลไม่รู้สึกเสียใจกับการใช้ชีวิตคู่ เพราะว่าเราได้เรียนรู้ว่าศักยภาพในการอดทนของเรามีมากขนาดไหน ซึ่งไม่เคยรู้มาก่อน ถ้าเป็นคนอื่นอาจฆ่าตัวตายไปแล้ว แต่เกลยังอยู่ เรารู้สึกว่าเฮ้ย…เกลคนนั้นแกร่งมากเลยนะ แกร่งกว่าตอนนี้อีก แต่ว่าเราผ่านมาแล้วเราเริ่มมองและรักตัวเองมากยิ่งขึ้น แทนที่จะฝากความรักไว้กับคนอื่น แบบที่เรามีความสุขได้ถ้าเขามีความสุข ทำไมเราจะต้องคอยเก็บเกี่ยวความสุขจากการที่เขาสุขอย่างเดียว ดังนั้นเกลไม่รู้สึกเสียดายที่เราไม่ประสบความสำเร็จเรื่องชีวิตคู่ แต่ถือว่าเราได้รู้ศักยภาพของตัวเอง ได้หันมามองตัวเองว่าจริงๆ แล้วตัวเองอยู่เพื่ออะไรอันนี้สำคัญมากสำหรับชีวิตมนุษย์ หลายครั้งที่นั่งอยู่คนเดียวหลังบ้าน แล้วถามตัวเองกับพระเจ้าว่า เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร แล้วสิ่งที่เสียดายก็คืออายุ ขวบปีที่เดินผ่านไปในฐานะภรรยา แทนที่เราจะได้ทำงานในสิ่งที่เรารักต่อเนื่อง คือการครีเอทงานเรามีมาตลอดนะ แต่ดรอปไปด้วยหลายๆ สิ่ง ดรอปด้วยการที่เขาไม่โอเค ดรอปด้วยการที่เราท้อง ดรอปด้วยการที่เราจะต้องหาเงินตลอดเวลาเหล่านี้ร่วม 18 ปี ที่ทำให้การทำงานเราดรอป ช่วงเวลาขนาดนี้ถ้าเราทำอัลบั้มจะได้ตั้งกี่อัลบั้ม นั่นเป็นช่วงชีวิตของการเป็นอาร์ติสท์ของเกลที่หายไป เหลือแค่การเป็นนักร้องหาเงิน แต่เรารู้สึกขอบคุณชีวิตคู่ที่ทำให้รู้ว่าตัวเราจริงๆ คืออะไร และทำให้เรารักตัวเองเป็น มีความสุขได้โดยที่ไม่ต้องมีใคร เมื่อก่อนไม่ได้นะ เป็นคนที่จิตใจอ่อนปวกเปียก ต้องคอยพึ่งพาอาศัยคนอื่นในการที่จะอยู่อย่างมีความสุข แต่ตอนนี้เราแข็งแรงแล้ว
ความสัมพันธ์กับลูกๆ
คนเล็กตอนนี้เกลดูแลอยู่ค่ะ ชื่อ “น้องทาร์เนียร์” 7 ขวบ ส่วนคนโต “น้องเลอร์เบียร์” เป็นผู้หญิง อยู่กับพ่อเขา ต่างคนต่างดูแลลูก ไม่ต้องมีใครส่งเสียกันและกัน เพราะเกลไม่สามารถเป็นเพื่อนกับเขาได้เลย ตอนนี้ก็พยายามมีความสุขกับลูก แต่ถ้าวันใดที่พี่น้องเขาพร้อมที่จะมาหากัน เราก็โอเค ตอนนี้เขายังไม่พร้อม ความสัมพันธ์ของแม่กับลูกมันไม่มีทางขาด พอเขาโตขึ้นน่าจะเข้าใจ เกลเคยกังวลมากช่วงที่หย่ามาใหม่ๆ ว่าลูกอาจจะได้รับอะไรมาผิดๆ คิดอะไรแผลงๆ แต่ก็มีเพื่อนมาเตือนสติว่า อย่าดูถูกศักยภาพสมองของลูก เพราะเราก็เชื่อว่าไอคิวเราก็สูงพอสมควร เขาน่าจะคิดคำนวณได้ในอนาคตค่ะ
กลับมาสนุกกับชีวิตอีกครั้ง
ใช่ค่ะ ตอนนี้กำลังสนุกกับการคิดงาน สร้างงาน ตังค์ก็ไม่ค่อยมีหรอก(หัวเราะ) แต่ว่าได้ใช้สมองเยอะเกลชอบทำเอ็มวี และชอบที่จะเห็นเอ็มวีตัวเอง เมื่อก่อนนะกว่าจะได้เอาเอ็มวีตัวเองออกทีวี.โคตรยากนาทีละเก้าหมื่นบาท!! แต่ตอนนี้พอมียูทูบ ลงสนุกเลยทีนี้ (หัวเราะร่วน)
แหม!!! สนุกกับของเล่นชิ้นใหม่แบบนี้แฟนเพลงคงได้ฟินกับเสียงเท่ของมิเกลได้ไม่ยาก แถมยังได้ฟังกันแบบเต็มอิ่มดูกันอย่างมีความสุข เพราะฟังฟรีดูง่ายขนาดนี้ มิเกล เขาจัดให้ค่ะ
ใบพร้าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี