ถ้าพูดถึงวงดนตรีสากลวงใหญ่ในเมืองไทย แน่นอนว่า “วงกาญจนะผลิน” เป็นหนึ่งในวงดนตรีที่หลายคนรู้จักกันดี โดยมี ออด-จิราวุฒิ กาญจนะผลินทายาทผู้สืบทอดผลงานดนตรีของ ครูสมาน กาญจนะผลินทำหน้าที่ควบคุมวงในปัจจุบัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาดนตรีคือสิ่งที่หล่อหลอมให้เขาเป็นศิลปินได้อย่างน่าชื่นชม สัปดาห์นี้ สตาร์เรโทร จึงขอนำแง่คิดการทำงาน และมุมมองดีๆ ของศิลปินท่านนี้ มาฝากเยาวชนรุ่นหลังให้ได้ทราบและติดตามผลงาน
วันวานเมื่อครั้งยังเยาว์วัย
ผมอยู่ในวงการเพลงมาตั้งแต่เกิด ได้ยินเสียงเพลงมาตั้งแต่เล็กๆ รู้จักเพลงเหล่านี้มาตลอด ทำให้ผมได้ซึมซับ ที่สำคัญผมมีความรักในเพลงเหล่านี้ และมีความพยายามในการที่จะศึกษา คุณพ่อ (สมาน กาญจนะผลิน) ไม่ได้ยัดเยียดให้นะครับ แต่เราชอบเอง(เครื่องดนตรีชิ้นแรกที่จับ?) เปียโนครับ ตอนนั้นคุณพ่อให้ไปเรียนเปียโนที่โรงเรียนสายสมร และมาเข้าวาทศิลป์ ก็มาเล่นทรัมเป็ต จับเปียโนตั้งแต่อายุ 5-6 ขวบแต่ที่มาเริ่มเล่นดนตรีจริงๆ ก็คือ ทรัมเป็ต ซึ่งนอกจากเครื่องดนตรีเหล่านี้ ก็มีเล่นแอคคอร์เดียนด้วยครับแต่ผมจะไม่ได้อยู่ในส่วนของการร้องเลย
เรียนไปด้วยเล่นดนตรีไปด้วย
ผมเรียนจบเอกสากล ที่วิทยาลัยครูจันทรเกษม และเรียนทางด้านเรียบเรียงเสียงประสานเฉพาะทางต่อ คือส่วนมากสมัยก่อนจะเป็นเรื่องของการครูพักลักจำบ้าง เกิดจากการฟังศิลปินของต่างประเทศด้วยฟังศิลปินที่มีชื่อเสียงไม่ว่าจะเป็นทั้งของไทยหรือว่าต่างชาติ เราก็ได้ศึกษาทั้งการทำงานและการปฏิบัติ การทำเพลง การเป็นนักแต่งเพลง ได้เรียนรู้ในหลายๆ ด้านครับ
งานประจำที่เคยทำ
ครั้งแรกผมทำงานที่โรงงานยาสูบก่อน ซึ่งที่นี่ก็จะมีวงดนตรีของโรงงานยาสูบ ครูสมานเป็นหัวหน้าวงดนตรี หลังจากนั้นก็มาทำที่ธนาคารออมสิน อยู่ฝ่ายประชาสัมพันธ์เกือบ 20 ปี คืองานที่เราทำส่วนมากก็จะไม่ทิ้งงานด้านดนตรี จะเกี่ยวข้องกันไป-มาอยู่ในสายนี้มาโดยตลอด และหลังจากครูสมานเสีย ผมก็เออร์รี่จากธนาคารออมสิน เพื่อมาดูแลวงดนตรี
จุดเริ่มต้นของการคุมวงดนตรี
เริ่มตั้งแต่ที่ครูสมานเสียชีวิตครับ ท่านเสียเมื่อปี 2538 ผมก็เริ่มทำวงช่วงปลายๆ ปี 2539วงกาญจนะผลิน ก่อนหน้านั้นผมก็เห็นการทำงานกับท่านมาตลอด คือคุณพ่อมีวงดนตรีตั้งแต่ปี 2489เราก็มีโอกาสได้ร่วมงานได้เล่นดนตรีกับท่าน
สิ่งเตือนใจจากคุณพ่อที่ไม่มีวันลืม
ท่านเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ ขยัน ตั้งใจ ในการทำงาน ท่านบอกว่าเพลงทุกเพลงที่ท่านแต่งมีวิญญาณทุกเพลง เพราะว่าท่านสร้างงานมาจากจิตวิญญาณทำให้ทุกเพลงมีความเป็นอมตะอยู่ถึงทุกวันนี้
วงดนตรีที่รวบรวมสุดยอดนักดนตรีฝีมือดีไว้มากมาย
การเลือกนักดนตรีเป็นเรื่องสำคัญมากคนที่มาร่วมงานด้วยก็เป็นนักดนตรีที่มีฝีมือสุดยอดในวงการเพลง แต่ละคนทำงานมาร่วม 20 ปี ประสบการณ์นานมาก ตอนนี้วงเรามีประมาณ 20 กว่าคน ทุกคนมีความสามารถสูง งานก็มีให้อย่างต่อเนื่อง ทั้งเป็นงานที่เขาจ้างเราไปแสดง งานทั่วๆ ไป งานคอนเสิร์ตงานอีเว้นท์ คือเราไม่ได้เล่นเฉพาะเพลงลูกกรุงนะครับเราเล่นหลากหลายแนว ทั้งสตริง สากล แต่คนส่วนใหญ่จะคิดว่าวงเราจะเล่นแต่เพลงลูกกรุง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่นะเราเล่นได้หลากหลาย ทั้งเพลงไทย เพลงสากลสตริง บางคนอาจจะไม่รู้ว่ามีวงดนตรีแบบนี้ด้วย ซึ่งปัจจุบันก็มีอยู่หลายวง เช่น วงเฉลิมราชย์ วงสุนทราภรณ์เป็นวงที่คนรู้จักกันดีครับ
อีกหนึ่งผลงานที่ภาคภูมิใจ
มีโอกาสได้แต่งทำนองร่วมกับศิลปินแห่งชาติ 8 ท่าน ใน เพลงพ่อแห่งแผ่นดิน เพลงแม่แห่งแผ่นดินและเพลงอัคราภิรักษ์ ที่แต่งถวายสมเด็จพระราชินีถือเป็นเพลงที่แต่งแล้วผมภาคภูมิใจที่สุด เพราะคุณพ่อท่านก็ถือว่าเป็นผู้ที่แต่งเพลงเกียรติยศ อย่างเช่นเพลงสดุดีมหาราชา โดยครูสมานร่วมแต่งกับครูชาลีส่วนเพลงที่เกี่ยวกับศาสนาท่านก็แต่ง เพลงพระรัตนตรัยซึ่งเป็นเพลงสัญลักษณ์ของพุทธศาสนา
รวมถึงเพลงรักร่วมสมัย
มีแต่งบ้างครับ แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไป เพลงในยุคนี้ค่อนข้างจะแตกต่างจากแต่ก่อน ส่วนใหญ่ผมจะแต่งให้ลูกสาวร้อง แต่ไม่มากมายอะไร อย่างเพลงที่รัก ผมก็นำมาทำเป็นเพลงคู่ แต่งเป็นเนื้อโต้ตอบกัน ให้คุณสุเทพและคุณขวัญรวีขับร้อง ซึ่งก็ได้รับความนิยมในหมู่คนฟังเพลงนะ หรืออย่างเพลงที่รักน้องคอย ก็ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานที่เราได้สืบสานในสิ่งที่เรารักเราชอบเช่นเดียวกัน
แรงบันดาลใจในการแต่งเพลง
ถือว่าเป็นการทำงานร่วมกันทั้งผู้แต่งคำร้องผู้แต่งทำนอง มานั่งคุยกันว่าอยากให้เป็นไปในทิศทางไหนอันนี้หมายถึงเพลงที่เกี่ยวกับสถาบันนะครับ แต่ถ้าเป็นเพลงรักหรือว่าเพลงอื่นๆ ผมจะไม่ค่อยได้แต่ง เพราะว่าหนึ่งคือยุคสมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน สมัยนี้ศิลปินเยอะมาก ค่ายเพลงสังกัดและวิวัฒนาการรูปแบบของเพลงก็เปลี่ยนไปด้วย
ครอบครัวนักดนตรี
ผมมีครอบครัวตอนอายุยี่สิบกว่าๆ มีลูกสาว2 คน คนโตเป็นนักร้องชื่อ ขวัญรวี กาญจนะผลิน ออกอัลบั้มเพลง ร้องคู่กับคุณสุเทพ วงศ์กำแหงส่วนลูกสาวคนเล็ก ดวงนภา กาญจนะผลิน ก็มาช่วยดูแลเรื่องเพลงให้ผม เป็นผู้จัดการส่วนตัวผม (หัวเราะ) ด้านภรรยา (คุณสุภาพ กาญจนะผลิน) ก็มาช่วยดูแลวงเป็นแม่บ้าน เรียกว่าเป็นครอบครัวดนตรี ลูกๆก็เหมือนเป็นลูกไม้หล่นใต้ต้น เพราะผมไม่ได้บังคับเขาว่าจะต้องมาด้านนี้หรืออะไร แต่เขาชอบและสานต่อกันเอง เขาเลือกที่จะเรียน เลือกที่จะทำของเขาเองก็ดีใจครับ
สุขภาพร่างกายที่ต้องดูแล
เป็นไปตามวัยนะครับ ก็มีแพทย์ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯดูแลอยู่ตลอด แต่ผมจะมีปัญหาที่ขาคือผ่าตัดมา เนื่องจากติดเชื้อที่เท้า ก็เลยจะทำให้มีปัญหาบ้างนิดหน่อยเวลาที่ยืนนานๆ แต่ก็ยังสู้ไหวครับ คือบางทียืนตั้งแต่สิบโมงเช้าจนถึงทุ่ม ตอนทำงานเรายืนเราไม่รู้สึกหรอกว่าเราเมื่อยล้า แต่พอเสร็จงานเท่านั้นแหละรู้เรื่องเลย (หัวเราะ)
ความภาคภูมิใจฐานะทายาทครูสมาน
ถือว่าเป็นความโชคดีของผมด้วยที่ได้เกิดมาในสกุล กาญจนะผลิน เราต้องตอบแทนในสิ่งที่ครูสมานคุณพ่อได้สร้างไว้ให้ สิ่งเหล่านี้ยังอยู่คู่กับแผ่นดิน อยู่คู่กับวงการเพลงไปอีกยาวนานเลย ทั้งในปัจจุบันแล้วก็อนาคต ผมว่าเพลงเหล่านี้ไม่เลือนหายไปจากคนฟังหรอกถึงจะเป็นเพลงเก่าแต่ก็จะมีคนหยิบยกขึ้นมาแล้วแต่งตัวใหม่ก็เหมือนเพลงใหม่ อย่างหลายๆ เพลงที่เป็นเพลงเก่าเอามาใส่ในละคร เอามาทำเป็นโฆษณา ดีไซน์ให้เพลงมีความร่วมสมัยขึ้น รูปแบบก็เปลี่ยนไปแต่ก็ไม่เสียอรรถรสของเพลงลูกกรุงเพลงเก่า ไพเราะไปอีกแบบ
จัดคอนเสิร์ต “เชิดชูครูเพลง”
ปกติเราก็จะมีคอนเสิร์ตเพื่อครูสมานบ่อยอยู่แล้วเนื่องจากว่าครูสมานมีเพลงมากมายกว่า 3,000 เพลงมีทุกแนวเพลง เราก็ทำในหลากหลายรูปแบบ เพลงคู่ก็มีเพลงจากภาพยนตร์ก็มี ครั้งนี้เราอยากให้เป็นลักษณะการเชิดชูครูเพลง สืบสานและอนุรักษ์เพลง ไม่ได้หวังในผลกำไรแต่อย่างใด ฉะนั้นหลายๆ เพลงที่เรานำมาก็เป็นเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน เราไม่อยากให้เพลงเหล่านั้นสูญหายไปอยากให้มีการสืบทอดต่อโดยศิลปินที่เป็นต้นฉบับและศิลปินที่เราเชิญมา แต่ละคนที่มาร่วมร้องมีที่มาที่ไปทุกคนครับ ซึ่งผมเป็นคนเลือกศิลปินเองทั้งหมดยกตัวอย่างคอนเสิร์ตในปีนี้ก็จะมี คุณตู้ ดิเรก มาร่วมร้องด้วยคาแร็กเตอร์เขาจะเหมาะกับเพลงของ คุณมีศักดิ์ นาครัตน์ซึ่งเพลงเขาเป็นแนวสนุกสนาน คุณตู้ก็ทำได้ดีเพลงหัวใจขายขาด ซึ่ง คุณทนงศักดิ์ ภักดีเทวาขับร้อง คุณตู้ก็มาเป็นตัวแทนเพลงนี้ด้วย ส่วน คุณกบ-ทรงสิทธิ์ เขาเป็นคนที่เคยนำเพลงของครูสมานไปถ่ายทอดในตอนที่เขาเล่นเป็นพระเอกเรื่อง เงิน เงิน เงินก็เลยได้ให้เขามาช่วยร้องด้วยครับ
ความพิเศษบนเวทีในปีนี้
ทุกคนยินดีมาร่วมหมดเลยครับ เพราะว่าครูสมานท่านเป็นที่รักของคนในวงการเพลง ศิลปินแห่งชาติที่เป็นต้นฉบับมาครบทุกคนครับ คุณสุเทพคุณชรินทร์ คุณรวงทอง คุณสวลี คุณชินกร ครูชาลีฯลฯ คอนเสิร์ตเล่นใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเราอยากให้คนฟัง คนดู ได้อิ่มเอมไปทั้งเสียงเพลงและดนตรี ดังนั้นในวันคอนเสิร์ตผมก็จะทำหน้าที่ควบคุมวงให้ดีที่สุดครับอยากให้ทุกคนได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคอนเสิร์ตครั้งนี้นะ เพราะเป็นการรวมตัวของศิลปินแห่งชาติ และนักร้องดาวค้างฟ้าระดับแถวหน้าของเมืองไทยไว้อย่างมากมาย ต่างคนพร้อมใจกันมาขับกล่อมบทเพลงสุดไพเราะเพื่อรำลึกถึงครูเพลงที่ทรงคุณค่าอย่าง “ครูสมานกาญจนะผลิน” กับคอนเสิร์ต “เชิดชูครูเพลง” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน ที่จะถึงนี้ ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
วิธีอนุรักษ์วงดนตรีของครูสามาน
มีความตั้งใจในการทำงาน แล้วก็มีความจริงใจทุ่มเทในการทำงาน ยิ่งเป็นงานเพื่อสังคมเพื่อสาธารณประโยชน์ที่เกี่ยวกับงานการกุศลอย่างเช่นงานนี้ เราก็จะทำเต็มที่ทุกงานครับ แล้วผลที่ได้มันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น คือสิ่งที่เราให้กลับยิ่งได้คืนมา สิ่งนี้เป็นความจริงที่เราต้องยอมรับ คนเราบางครั้งการให้มันสำคัญที่สุด ให้กับสังคม กับส่วนรวม ให้กับครอบครัว ให้กับเพื่อนร่วมวงการ
แง่คิดสำหรับศิลปินรุ่นใหม่ที่ต้องการจะเข้ามาสืบทอดงานนี้
ผมว่าต้องมีใจรักแล้วก็มีความซื่อสัตย์ทางวิชาชีพ ต้องมีความตั้งใจจริง การที่จะเป็นศิลปินต้องเกิดขึ้นจากประสบการณ์ เกิดจากความสามารถและพรสวรรค์ ที่ต้องมีครบถ้วน และอีกหนึ่งสิ่งก็คือโอกาสที่ค่อนข้างจะหายาก ฉะนั้นผมอยากให้ทุกคนมีความตั้งใจ อย่าไปทอดทิ้ง อย่าท้อแท้และอย่าท้อถอยถ้าตั้งใจจะเข้ามาในวงการเพลงต้องมีความมุ่งมั่นและศึกษาหาความรู้อย่างสม่ำเสมอ ต้องเปิดกว้าง และที่สำคัญคือการเรียนรู้ เปิดกว้างในการฟัง ศึกษาแนวเพลงแต่ละเพลง เพื่อที่เราจะได้เป็นที่ยอมรับ คนฟังชื่นชอบและชื่นชมในผลงานเพลงของเรา
คลื่นลูกใหม่ได้ยินอย่างนี้แล้ว อย่าลืมหมั่นฝึกฝน ค้นคว้าวิชาหาความรู้ด้านเพลงให้ชำนาญรอบด้านด้วยนะจ๊ะ เพราะขนาดครูออดเองถึงแม้จะคว่ำหวอดและคลุกคลีอยู่ในวงการเพลงมาอย่างยาวนานยังไม่หยุดที่จะเรียนรู้และเปิดใจรับวิวัฒนาการใหม่ๆ เพื่อมาปรับใช้ให้ทันยุคทันสมัย แถมยังคงกลิ่นอายเพลงลูกกรุงไว้ครบถ้วนชวนแฟนเพลงได้หลงใหลเช่นเดิม
ใบพร้าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี