ฐานแฟนคลับอาจไม่เปรี้ยงเท่าทีมนักแสดงร่วมในซีรี่ส์โอเนกาทีฟ แต่ความแรงจากบท ดิว ฮอร์โมนฯ ทำให้ชื่อของ “ก้อย” อรัชพร โภคินภากร เป็นที่จดจำ และจากจุดนั้นกำลังสานฝันด้านการแสดงให้กับเธอ ด้วยการเป็นหนึ่งในตัวละครหลักของซีรี่ส์ O-Negative (โอเนกาทีฟ) รักออกแบบไม่ได้ ที่กำลังเป็นที่จับตามองอย่างมาก Rookie สัปดาห์นี้เลยถือโอกาสคว้าตัวบัณฑิตป้ายแดงจาก นิเทศศาสตร์ จุฬาฯ มาทำความรู้จักกัน
วิถีชีวิตเด็กหญิงก้อย
จริงๆไม่ต่างกับตอนนี้เท่าไหร่นะคะ(หัวเราะ) แต่ตอนเด็กจะเรียบร้อยกว่านี้ค่ะ ก้อยมีพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันเป็นหัวหน้าแก๊งในบ้าน ส่วนพี่ชายแท้ๆ ของก้อย จะห่างกัน 8 ปี แล้วเขาไปเรียนที่ออสเตรเลีย เราก็เลยจะไม่ค่อยได้เล่นด้วยกัน แต่ว่าโตขึ้นมาก็สนิทกันนะคะ ก้อยก็จะเรียบร้อยตามพี่สาว พอโตขึ้นสลับกันกลายเป็นพี่ชายเรียบร้อย แล้วก้อยเป็นอย่างงี้แทน (หัวเราะ) คือแต่ก่อนคุณแม่เคยอยู่ในกลุ่มสมาคมผู้ปกครอง เราก็จะถูกวางกรอบ แต่พอเราโดนบังคับถึงจุดหนึ่ง ก็จะถึงจุดระเบิด แต่สุดท้ายก็เข้าใจกับแม่ค่ะ มาถึงตอนนี้ได้แม่ก็โอเคค่ะ(หัวเราะ)
ช่วงเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ช่วงขึ้น ม.4 ค่ะ ก้อยเรียนโรงเรียนบดินทร์เดชา อยู่ห้องคิง แม่ก็ยิ่งแวดล้อมด้วยผู้ปกครองที่เป็นห้องคิง เขาก็จะคาดหวังกับเรามาก มีจุดหนึ่งที่ตลกมากคือ ก้อยเรียนได้ 4 มาตลอด มีครั้งหนึ่งได้ 3.8 เราร้องไห้ แม่ก็ร้องไห้ ตอนหลังเราก็คิดว่ามันไม่ได้แปลว่าเราทำไม่ได้ แต่เราไม่ทำเอง และพอเป็นช่วงสอบเตรียมฯ แม่ก็ทุ่มเงินมหาศาลให้เราเรียนพิเศษ แต่ก้อยโดดตลอดค่ะ สุดท้ายพอสอบเตรียมไม่ติด เห็นแม่ร้องไห้ เราก็เริ่มรู้สึกตัวเราทำให้แม่เสียใจหนักเกินไปแล้ว ทั้งที่เราพร้อมมาก มีโอกาสมากมาย แต่เราไม่เห็นค่าก็เลยเริ่มคิดได้ กลับมาตั้งใจเรียนหนังสือ
เอนทรานซ์ติด นิเทศศาสตร์ จุฬาฯ
จริงๆ แม่อยากให้เป็นหมอค่ะ แต่คงไม่ใช่เราจริงๆ พอเราไม่ได้ทางหมอ ไม่ติดแพทย์ ก้อยก็ขอมาทางที่เราเป็นดีกว่า เพราะก้อยทำกิจกรรมเยอะตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยมาทางนิเทศศาสตร์แทน เรียนเอกประชาสัมพันธ์ โทการแสดงค่ะ
ความชอบทางด้านการแสดง
ก้อยเริ่มจากละครเวทีค่ะ คือที่คณะมีแคสละครเวทีทุกปี แล้วก้อยก็ไปแคสติดตอน ปี 2 ตอนนั้นบอกเขาว่าขอแคสเป็นตัวผู้ชายค่ะ แล้วความห้าวที่เราเล่น คงไปพอดีกับตัวละครผู้หญิงที่เขากำลังหา เขาก็เลยให้กลับไปแคสอีกวันเป็นตัวนั้น และก็ได้เล่นค่ะจากนั้นก็มีพี่ๆผู้กำกับ ทีมแคส มาเห็นเราตอนเล่นละครเวที ก็เลยเรียกก้อยไปแคสซีรี่ส์ฮอร์โมน และจากนั้นก็ได้เข้าวงการค่ะ
ฟีดแบ๊กของครอบครัวหลังจากเข้าวงการ
ตอนแรกแม่ก็งงๆ แต่พอเห็นเราได้ทำงาน เขาก็โอเคค่ะ เหมือนก้อยได้พิสูจน์ตัวเองให้เขาเห็น ว่าเราอยู่จุดนี้ได้ แม่เขาก็แค่อยากให้เรามีงานมีการที่ดีทำ พอเห็นเราทำได้ เขาก็ดีใจค่ะ
แพลนหลังเรียนจบ
ก้อยอยากแสดงให้สุดก่อนค่ะ และก็มีงานเขียนบท เทศกาลละครของตัวเอง แล้วก็มีเล่นหนังสั้นประกวด ซึ่งพอแสดงไปถึงจุดหนึ่งแล้ว ก้อยก็อยากเป็นครูสอนการแสดงค่ะ อาจจะมีไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แล้วกลับมาเป็นครู แต่ตอนนี้รักงานแสดงมากค่ะ
จากฮอร์โมนฯ มาถึงโอเนกาทีฟ
ก้อยแฮปปี้นะคะ ที่มีคนรู้จัก และดูผลงานเรา ตอนเป็น ดิวในฮอร์โมนฯ มีคนเข้ามาทักเล่นดีจัง ในใจเราจะคิดละ เกลียดเราแน่ๆ (หัวเราะ) เพราะฟีดแบ๊กความร้ายของดิวในเรื่อง ค่อนข้างแรงพอสมควร ส่วนของความกดดันเรื่องงานแสดง ก้อยรู้สึกว่าคนอื่นจะทำอะไรเราไม่ได้ แต่เราจะทำตัวเองมากกว่า คือจะกดดันตัวเองมากกว่า ซึ่งช่วงที่จะเล่นได้ดีส่วนใหญ่ จะเป็นตอนที่เราไม่เครียดค่ะ เพราะฉะนั้นก็จะพยายามผ่อนคลายกับงานที่ทำให้มากที่สุด
มาถึงโอเนกาทีฟ ก้อยได้เล่นเป็น ชมพู่ เป็นตัวละครที่พี่อ้น-ศรีพรรณ เคยเล่นไว้ในพาร์ทของหนัง พอมาเป็นซีรี่ส์ก็จะขยายเรื่องของแบ๊กกราวนด์เข้ามา มีพ่อแม่ มีแฟน เป็นตัวละครที่สนุกสนาน สร้างสีสัน และก็มีพาร์ทสอนคนดูด้วยค่ะ เพราะพ่อแม่ของชมพู่เป็นคนจีน อยากให้ลูกเรียนเภสัช แต่ชมพู่อยากเรียนแฟชั่น ชมพู่ก็จะรู้สึกว่าพ่อ-แม่รักน้องมากกว่า เขาก็จะใช้เวลากับเพื่อนมากกว่าที่บ้าน พาร์ทไหนที่เป็นเสน่ห์ของเวอร์ชั่นเก่า เขายกมาหมด ในเชิงของคาแร็กเตอร์นะคะ แต่สิ่งที่ก้อยว่าเป็นสีสัน ที่นำมาขยายคือแบ๊กกราวนด์ นักแสดงที่เสริมเข้ามา อย่างแม่หนูในเรื่องคือพี่ตุ๊ดตู่ แม่ของเก้า เป็นพี่อุ๋ม-อาภาศิริ ซึ่งทุกคนมีของกันหมด มีรายละเอียดที่น่าสนใจมากขึ้นไปอีกค่ะ(กับผู้กำกับฯ) พี่กู่ชิลล์มากค่ะ เขาเป็นผู้กำกับที่มีภาพชัดเจนมาก ทำให้นักแสดงตื่นตัวกับการทำการบ้าน แต่หลังฉากพี่กู่จะสนุกมากค่ะ กับการแถะโลมผู้ชายในกอง(หัวเราะ) ทำให้บรรยากาศในกองเฮฮา ไม่เครียด
เตรียมรับข้อเปรียบเทียบจาก อ้น มาเป็น ก้อย
พอได้บทโอเนกาทีฟมา ก้อยก็ไปหาหนังมาดูนะคะ ซึ่งก้อยไม่ได้มานั่งเทียบว่าเราต้องเหมือนหรือต่างกันยังไง เพราะพี่อ้นเขาจัดมากในทางของเขาอยู่แล้ว คิดว่าคงไม่น่ามีใครเหมือนเขา แต่ก้อยก็ทำการบ้านเพิ่ม ด้วยการดูคอเมดี้เยอะๆ เพราะในเรื่องชมพู่จะเป็นตัวเอนเตอร์เทนเพื่อนๆ เราก็ไปหาจังหวะ หาอาวุธใส่ตัว เพราะไม่มีใครเหมือนพี่อ้นได้อยู่แล้วค่ะ ก้อยก็คงเป็นชมพู่ในแบบอื่นแทน
เผชิญหน้าทีมนักแสดงโอเนกาทีฟ
ตอนแรกมีความเจื่อนเบาๆ (หัวเราะ) ไม่หรอกค่ะ คืออีก 4 คน(เก้า-จิรายุ, ต่อ-ธนภพ, เก้า-สุภัสสรา, วี-วิโอเลต) เขาจะมีความเป็นสตาร์ของเขาอยู่แล้ว แรกๆ ก้อยก็จะรู้สึกว่า “เรามาทำอะไรที่นี่” (หัวเราะ) แต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนกับวีอยู่แล้ว เรียนมาด้วยกัน ก็ตัวติดวีเลยค่ะ จนพอไปสักพักก็เนียนไปเองค่ะ เพราะเป็นคนรุ่นเดียวกัน ทำงานด้วยกันสักพัก รู้ตัวอีกทีก็สนิทกันไปแล้ว (หัวโจกในกลุ่ม?) แต่ล่ะคนชัดเจนในความเป็นตัวเองมากค่ะ อย่างเก้า-สุภัสสรา ตัวจริงเรียบร้อย ผิดจากภาพสไปร์ท ฮอร์โมนฯมาก เก้า-จิรายุ ที่ดูหล่อๆตัวจริงก็ด๊องๆ มาก (หัวเราะ)
ผลงานในอนาคต
ฝากเรื่อง O-Negative (โอเนกาทีฟ) ค่ะ จะออนแอร์ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ 2 ทุ่ม ช่อง GMM25 เริ่มตอนแรก 27 ตุลาคมนี้แล้วก็มีละคร Princess Hour ทางช่องทรู 4 ยู รวมถึงงานที่ก้อยทำเอง อย่างเขียนบทละครเวที Sorrow Society แสดงที่หอศิลป์และก็ทำหนังสั้นประกวด ได้ขึ้นฉายที่โรงด้วยค่ะ เรื่อง Lost in Blue ก้อยชอบในหลายๆพาร์ทของงานบันเทิง ไม่ใช่แค่เบื้องหน้า คือเริ่มมาจากว่า เราแสดงแล้วเรารู้สึกว่าการที่รู้แค่พาร์ทนี้มันไม่พอเป็นนักแสดงจริงๆ ควรรู้ว่าบทถูกสร้าง ประกอบขึ้นมาได้ยังไง คือเริ่มจากความอยากรู้ค่ะ แล้วพอได้ลองเขียนบท ก็เริ่มสนุก ถ้ามีโอกาสก็อยากทำด้านนี้เพิ่มค่ะ
วันว่าง
เขียนบท ดูหนัง ดูซีรี่ส์ไปเรื่อย การเสพเยอะมันช่วยกับงานเรามากเลยค่ะ แล้วก็เที่ยวกับเพื่อน อยู่กับแม่ก็จะตระเวนกิน ชีวิตไม่มีอะไร (หัวเราะ) (มุมเครียด?) ก็จะลุกขึ้นเต้นเลยค่ะ คือจะมีเป็นสเต็ป น้อยๆ ก็ฟังเพลง ถ้ามากหน่อยก็เต้น คือเป็นสิ่งที่เรียนมาจากละครเวทีค่ะ ว่าเวลารู้สึกแย่ให้ทำแบบนี้ แล้วหนูก็ทำมาตลอด ซึ่งช่วยได้จริงๆ
หัวใจสีชมพู
ก้อยเป็นไบเซ็กชวลมาก่อนค่ะ (หัวเราะ) คือเป็นคนที่ไม่ได้รู้สึกว่าผู้หญิงต้องคู่กับผู้ชาย ตอนนี้มีแฟนเป็นผู้ชายนะคะ แต่เด็กๆ ก็จะมีแฟนเป็นทอม (ความรักครั้งแรก?) สมัยม.ต้นค่ะคบกัน 4-5 ปี คือก้อยมีแฟนมา 3 คน 2 คนแรกเป็นทอมคนปัจจุบันเป็นผู้ชาย (คนปัจจุบันเจอกันได้ยังไง?) เป็นรุ่นพี่ที่คณะค่ะ รู้จักกันเพราะละครเวที คบกันมา 3 ปีครึ่งแล้วค่ะพอเราชอบอย่างเดียวกัน ก็จะคุยกันได้เรื่อยๆ นี่เขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ค่ะ เจอกันอาทิตย์ละครั้ง (เขาหึงไหมเราทำงานในวงการ?) ไม่มีค่ะ เขาชอบค่ะ บอกรู้สึกดีแฟนสวย (หัวเราะ) ก้อยจะไม่ค่อยได้ปิดบังอะไร ถ้าคนที่ตามไอจีก็จะเห็นลงรูปคู่กันปกติค่ะ
เป็นคนเปิดเผย จริงใจแบบนี้นี่เอง เสน่ห์ของ “ก้อย” ถึงได้ถูกเพ่งเล็ง เข้าตาผู้จัดฯ อย่างต่อเนื่อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี