วันพฤหัสบดี ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / บันเทิง
Star Retro :

Star Retro :

วันเสาร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561, 15.06 น.
Tag :
  •  

เป็นนักแสดงหนุ่มเจ้าบทบาทที่ผ่านเรื่องราวชีวิตมาแล้วมากมาย กว่าจะพบกับความสำเร็จ และจัดอยู่ในตำแหน่งพระเอกแถวหน้าของวงการบันเทิงบ้านเราแต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป เขารับมือกับความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นอย่างไร สตาร์เรโทร จะพาทุกท่านไปร่วมค้นเรื่องราวชีวิตของ “เมฆ-วินัย ไกรบุตร”

“ตอนนี้ก็เล่นละครครับ ถ่ายละครอย่างเดียว มีเรื่อง สัมปทานหัวใจ, สมิงจ้าวท่า, ประกาศิตกามเทพ, ปะการังสีดำ, อังกอร์, พยัคฆา, นางครวญ ไม่เยอะหรอกครับ (หัวเราะ) แล้วคือผมก็ไปได้หลายช่อง บางทีเรื่องสองเรื่องมันเอาไม่อยู่ค่าใช้จ่ายปัจจุบันมันก็เยอะนะ แล้วเรามีลูกที่ต้องเลี้ยงดูอีก ก็เลยต้องทำเยอะๆ หาเงินค่าเทอมลูก เห็นว่าละครเยอะ แต่เราก็สามารถจัดสรรได้ครับ คือบางเรื่องเราก็รับเชิญ บางเรื่องเดือนหนึ่งไป 2-3 คิว เพราะว่าเราไม่ใช่พระเอก เลยพอจะรับได้ ตอนนี้ก็มีลูก 2 คนแล้ว คนโตชื่อ น้องมารค อายุ 5 ขวบส่วนน้องแมม 3 ขวบกว่า เรียนอีพีทั้งสองคน ผมทำหน้าที่คุณพ่อทุกอย่างเลย อาบน้ำ ป้อนข้าว รับ-ส่งลูกไปโรงเรียน”


คุณพ่อในสไตล์ของ“เมฆ-วินัย”

ไม่ค่อยนิ่มครับ เป็นคนลุยๆ สอนให้ลูกติดดิน สอนให้ลูกเหมือนเรา ติดดินไม่ติดหรู แข็งแรงอดทน สู้ คืออยากให้ลูกรู้จักความลำบาก ให้เขารู้จักเหนื่อยเล่นดินเล่นทรายได้ ไม่อยากให้เขาสบายเกิน กลัวว่าโตไปเขาจะลำบาก เขารู้ว่าพ่อเป็นดารา เป็นนักแสดง เขาเห็นผลงานของพ่อในละคร มีบู๊ยิงกันสู้กัน เป็นผีเขาก็ดูกันหมด แต่เขาก็เฉยๆ เพราะว่าเขารู้ว่าเป็นงานของเรา เขาเข้าใจเพราะว่าเราก็อธิบายบอกสอนเหตุผลให้เขาไปด้วย

หวังให้ลูกๆ เจริญรอยตาม

ลูกชายคนโตนี่ถ้าให้แสดงละครเขาแสดงได้นะ แต่ว่าชีวิตจริงขี้อาย เคยไปดูเขาแสดงละครที่โรงเรียน ก็บอกเขาเลยว่าถ้าจะแสดง พ่อก็จะไปดู แต่ถ้าจะไปยืนท่องบทจะไม่ไปนะ เขาก็ร้องไห้เสียใจเลย เพราะว่าเราไปดูวันที่เขาซ้อมแล้ว แต่ว่าเขายืนท่องบทเฉยๆ ไม่ได้แสดงละคร หลังจากวันนั้น เขาก็แสดงมีแอ๊กติ้ง ผมสอนตลอด ก่อนที่เขาจะไป ผมอยากให้ลูกเข้าวงการนะ อยากให้เขาเป็นนักแสดง เรื่องอื่นที่เขาจะไปเป็นนักธุรกิจ หรือว่าทำงานอะไร ผมไม่รู้ ก็แล้วแต่เขา แต่ว่าอยากให้เป็นนักแสดงด้วย ตามเชื้อสายเรา เหมือนอยากมีทายาทสืบทอด การที่จะเป็นนักแสดงแล้วทำธุรกิจไปด้วยก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร อยากให้สืบทอดอาชีพนักแสดงไม่ว่าน้องมารคหรือน้องแมม คนใดคนหนึ่ง หรือว่าเป็นได้ทั้ง 2 คนยิ่งดี

ภูมิใจในอาชีพนักแสดงอย่างสูงสุด

ภูมิใจมากครับ เพราะว่าชีวิตผมที่ได้ดีมาทุกวันนี้ น้องผมเรียนจบทุกคน พ่อ-แม่ผมได้สบายทุกวันนี้ และที่ผมมีชีวิตทุกวันนี้ เพราะนักแสดง ผมอาจจะไม่ได้รวยเหมือนคนอื่น ผมอาจจะไม่ได้ดังเหมือนคนอื่น แต่ว่าผมก็อยู่กับมันมาตั้งนานแล้ว และผมก็พอมีกินมีใช้ คิดดูว่าจะไม่ภูมิใจได้อย่างไร เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลใดที่ผมจะไม่ให้ลูกๆ เข้ามาตรงนี้

ย้อนวันวานจากเด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง

ชีวิตผม วินัย ไกรบุตร ไม่เคยคิดที่จะมาเป็นนักแสดง คืออยู่กระบี่เรียนจบ ปวช. และเป็นบ๋อยอยู่โรงแรม อยู่ชายทะเล แล้ววันหนึ่งก็ขึ้นมากรุงเทพฯ เข้ามาหางานทำ อยู่ๆ ก็พลิกชีวิตได้ไปเจอโมเดลลิ่ง แล้วเขาจับไปเทสต์ และได้โฆษณาแบงก์กรุงเทพ ซึ่งเป็นโฆษณาตัวแรกในชีวิตเลย ไต่เต้ามาจากเป็นนายแบบ มาเดินแบบแล้วก็มาเล่นละคร เล่นหนัง มันเป็นสเต็ปมาเลย ไม่ได้ไปประกวดชิงรางวัลเวทีไหนๆ ชีวิตผมกับชีวิตเด็กสมัยนี้มันต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยครับ คือชีวิตรามันเป็นโชค เป็นเหมือนกับลาภที่เดินเจอ ผมไปเจอแมวมองที่ห้างมาบุญครอง แต่ว่าเด็กสมัยนี้ต้องไปประกวด ต้องไปเรียนก่อนจะมาเป็นดารา ต้องเตรียมความพร้อม

จากที่ยังไม่มีเป้าหมายในชีวิต

ชีวิตผมยิ่งกว่าเริ่มจากศูนย์อีกนะ มาจากใต้คนเดียว ไม่รู้จักใครไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ก็มาขออยู่บ้านเพื่อน ที่บ้านเราฐานะปานกลาง มีกินมีใช้ไม่ได้รวย แต่พอเราจบปวช.เขาก็ไม่ส่งให้เรียนต่อแล้ว ผมไม่ได้เป็นคนที่มุ่งมั่นนะ แต่เป็นคนที่ต้องอยู่ให้ได้ เพื่อมีกินมีใช้ไปวันๆ ก็ไม่ได้คิดอะไรตอนนั้น แต่หลังจากที่เข้าวงการบันเทิงก็เริ่มมุ่งมั่น รู้สึกว่างานนี้มันเป็นกอบเป็นกำ และตอนนั้นรู้สึกว่าอยากจะเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย อาจจะล้างจานหรือว่าทำงานกลางคืน แล้วก็เรียนไปด้วย เพราะว่ามันมองอะไรไม่เห็นทาง คือจะเอาทางไหนถึงจะรวยได้เงินก้อนแรกที่ได้จากการถ่ายโฆษณาตอนนั้น 30,000 บาทถือว่าเยอะเลยครับ ผมคิดเลยว่าผมสามารถอยู่ได้6 เดือนแล้ว เราก็บอกตัวเองว่าเรารอดตายไปแล้วนะครึ่งปี แล้วพอมีงานมาอีกเรื่อยๆ เป็นแสนสองแสนก็อยู่ได้3 ปีแล้ว ไม่ได้คิดว่าจะต้องไปซื้อนู่นซื้อนี่ คิดแค่ว่าเราอยู่ได้ หลังจากนั้นก็ค่อยเริ่มคิดว่าเราต้องเก็บนะ ต้องส่งน้องเรียน ส่งแม่

ความฮอตพุ่งปรี๊ดเมื่อกลับไปกระบี่

ที่บ้านเขาก็ตกใจนะ อยู่ๆเป็นนายแบบขึ้นมาได้ยังไง กลับบ้านไปคนเรียกแต่นายแบบๆ ดังทั้งเมืองเลย เดินไปไหนมาไหนคนก็ตะโกนเรียก เขินมาก แล้วก็รู้สึกว่าตลกตัวเองว่าคนอื่นเขารู้ด้วยเหรอ เพราะว่ามันออกวันหนึ่ง20-30 รอบโฆษณาทางทีวี. คนก็เห็นทุกวัน ในกระบี่นี่ขึ้นรถไปคนตะโกน วินัย ไกรบุตร นายแบบมาๆ เพื่อนข้าๆ แต่ตังค์ในกระเป๋าเรามีอยู่แค่สองสามพันเอง (ยิ้ม) แต่เป็นนายแบบแล้ว ดูยิ่งใหญ่มาก ภูมิใจมาก

จุดพีคสุดของชีวิต

คือตอนที่เป็นพระเอกหนัง เป็นพ่อมาก ในภาพยนตร์เรื่องนางนาก จริงๆแล้วเข้าวงการมาตั้งนานก็ดังนะ มีคนรู้จักแต่มาพีคสุดๆ ของชีวิตเลยตอนเล่นนางนาก ตอนนั้นผมอายุ 30 พอดี หนังทำรายได้ร้อยกว่าล้าน ผมกลายเป็นพระเอกร้อยล้าน คนแรกในเมืองไทย ได้ฉายาจากหนังเรื่องนางนาก แต่ต้องบอกว่าตอนแรกผมไม่ได้ไปเทสต์เป็นพระเอกนะ ผมไปเทสต์เป็นเพื่อนของพระเอก เพราะผมคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกไม่ได้อยู่แล้ว เราเป็นตัว 3 ตัว 4 ก็ไม่คิดจะบ้ายอตัวเองไปเทสต์เป็นพระเอก ก็ไปนั่งรอ แล้ว “พี่น้อย” ทีมงานก็บอกว่าให้เทสต์เป็นพี่มากคู่กับ “น้องทราย เจริญปุระ” ไปเลย พอเทสต์ปุ๊บ เราก็พูดเป็นพี่มาก เล่นดราม่าได้ด้วยเขาก็งงกัน ซึ่งปกติเราก็ไม่เคยดราม่าได้เลยในชีวิต

กลายเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต

เราก็ไม่ได้คิดว่ารายได้หนังจะเป็นยังไง คิดว่าคนเขาคงจะด่า ว่าเล่นแข็ง เล่นไม่ได้ ทองแดง เดี๋ยวเราก็ต้องรอรับสภาพเขาด่าอีกแหละ ผมปิดโทรศัพท์ 7 วันเลยกลัวเพื่อนจะโทร.มาด่า พอเปิดโทรศัพท์เท่านั้นแหละ เพื่อนโทร.มาด่าจริงๆ ด่าว่าปิดเครื่องทำไม นี่จะไปดูหนังแกเราก็งงว่าเพื่อนจะไปดูทำไม เพราะว่าปกติเขาไม่ดู แล้วเขาก็จะด่า แต่เพื่อนบอกว่าเรื่องนี้คนดูกันทั้งประเทศ เขาไปดู3 รอบแล้ว ก็เลยไม่มีที่นั่ง ไม่มีที่ดู คือเราก็ไม่อยากจะเชื่อนึกว่าเพื่อนโกหก ก็เลยไปเช็คข่าว โอ้โห! 7 วัน รายได้ไปถึง 60 ล้าน เดินออกจากบ้านนี่คือเอ๋อเลย คนตะโกนเรียก อ้ายมากๆ ไปเรียน คนตะโกนเรียกชื่อดังมาก คือผมเรียนอยู่ที่สวนสุนันทา เดินเข้าไปคนทั้งตึกสองข้างอ้ายมาก พี่มากขา คือมองไปเหวอหมด อะไรกันเนี่ยขนาดนี้เลยเหรอ บอกตัวเองว่านี่มันดังมากเลยนะปกติมีแค่นานๆ คนจะมอง แต่ว่านี่คือคนเรียกทั้งตึกนี่สุดๆ ของชีวิตแล้วครับ น้ำตาไหลเลย คืออย่างน้อยๆ ชีวิตหนึ่งเราได้เป็นพระเอก แล้วดังขนาดนี้ ตายก็คุ้มแล้วนะไม่เสียดายชีวิต

จากคำทำนายที่ฟังแค่ผ่านหู

ก่อนหน้านี้เคยมีคนดูดวงให้นะ 2 คน คือเพื่อนดูไพ่ยิบซีให้ ว่าปีหน้าเราจะดังแล้วดังมาก แต่ตอนนั้นเราลำบาก ละครมีเรื่องเดียว เขาเปิดไพ่ออกมาคือทั้งเงินทั้งชื่อเสียง เราก็หาว่าเพื่อนบ้าอีก แล้วต่อมาก็ไปถ่ายละครเรื่อง สุรพลคนจริงสมบัติเจริญ อยู่ๆ แม่ของเพื่อนนางเอก เขาก็มาบอกว่าปีหน้าคุณจะดังมาก ดังเป็นพลุแตกเลย เราก็ครับแม่ ขอบคุณครับ คิดว่าเขาคงจะยอเรา เพราะเห็นว่าเราจีบลูกสาวเขาหรือเปล่า (ยิ้ม) แต่พอนึกย้อนกลับไป ถึงคำพูดของทั้ง 2 คนแล้วคือโอ้โห! มันจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย พลิกแบบตั้งตัวไม่ทัน ทำตัวไม่ถูกด้วย ต้องทำตัวยังไง ทุกคนก็บอกว่าต้องแต่งตัวอย่างนี้ ทำตัวแบบนี้ เพราะว่าเป็นพระเอกแล้วเราก็เฮ้ย! ทำไมต้องทำ เราเป็นแบบเดิมไม่ได้เหรอ ผมก็ใส่ขาสั้นเหมือนเดิม แต่งตัวไปกองถ่ายเหมือนเดิม นอกจากมีงาน ผมถึงจะแต่ง ทุกวันนี้ผมก็มาถูกทาง ผมไม่เคยไปเติมแต่งชีวิต ไม่เคยไปยกตัวเองสร้างภาพให้ตัวเองตัวจริงผมเป็นแบบนี้แหละ ไม่เสแสร้ง ตอนดังเป็นแบบนี้ตอนไม่ดังก็เป็นแบบนี้ ไม่ต้องไปแต่งตัวใส่แบรนด์เนม

กับกระแสข่าวด้านลบ

มีอยู่แล้วครับ ตามสภาพ ประมาณว่าหาว่าเราหยิ่ง คือจะเรียกผมไปก็ไปได้ แต่ถ้าวันหนึ่งมีคนเรียกผมหลายคนผมจะไปได้ยังไง คนนู้นก็เรียกมาถ่ายรูป แล้วผมจะไปทำงานยังไง ถ้าผมไปกับคนทุกคน คือทุกคนอยากเข้าถึงเรา ซึ่งเราก็คงจะไม่สามารถเข้าหาได้ทุกคน คนเลยมองว่าเราหยิ่ง เราเรื่องมาก ไปกองถ่ายก็ว่าเราเรื่องเยอะขึ้นแต่คือก็ไม่ใช่หรอก ขอหน่อยเถอะ คือมันเหนื่อยมาก ร่างกายเราไม่ไหวจริงๆ ที่ว่าเราเรื่องมาก คือบางทีถ่ายถึงตี 4 แล้วอีกเรื่องถ่าย 8 โมงเช้า ไม่ใช่เรื่องมากนะ คือให้ผมนอนสัก 2 ชั่วโมงเถอะ ไม่งั้นจะตายซะก่อน (ปรับตัวอย่างไร ?) ก็รับงานน้อยลง คือรับได้ทีละ 2 เรื่อง เพราะมันไม่ไหวจริงๆ แต่แค่นั้นก็จะตายอยู่แล้วนะ บอกเพื่อนที่ดูแลเลยว่าเราไม่ไหวจริงๆ น้ำตาร่วงเลย ตื่นแล้วแต่ตาเปิดไม่ได้ เป็นเม็ดทราย เพราะการปฏิเสธมั้ง เลยทำให้คนมองว่าเราเรื่องเยอะ

ชีวิตมีขึ้น-ลง

ตรงนี้เป็นอาชีพที่รักที่สุดในชีวิต เพราะเป็นอาชีพที่ทำให้ผมเกิดขึ้นมามีศักดิ์ศรี มีชื่อขึ้นมา คนได้รู้จักผมทั่วประเทศ เกือบทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ไม่มีอาชีพอื่นที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ ทำให้ผมรู้หลายๆ อย่างเกี่ยวกับชีวิตตอนผมดัง ผมก็รู้ว่าชีวิตมันเป็นแบบไหน คนรอบข้างเป็นแบบไหน ตอนผมตก ผมก็รู้ว่าชีวิตคนเป็นแบบไหนคนรอบข้างไปไหน ชีวิตจริงกับละครมันก็เหมือนกัน เวลามีขึ้นมีลงมีรวยมีตกมันเป็นไปตามวัฏจักรซึ่งเวลาดังเพื่อนก็เข้ามาหาเยอะแยะ แต่เวลาตกไม่มีคนมอง เดินหมายังเห่าเลย(แอบน้อยใจไหม ?) ตอนนั้นก็แอบนึกน้อยใจแหละแต่ว่ามันเป็นการเรียนรู้ชีวิตของความเป็นจริง ความมายาชื่อเสียง ตำแหน่งมันไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลา

กับหลากหลายฉายาที่ได้รับ

ในวงการบันเทิงผมคือคนเจ้าชู้ เพลย์บอยมากเลยนะ ส่วนมากเราเป็นคนไปจีบเขา จีบนางเอก จีบดารา จีบคนนอกวงการบันเทิงเยอะแยะ แต่ผมไม่เคยมีข่าวว่าเป็นแฟนใครในวงการบันเทิง ไปหาได้เลย เพราะผมไม่อยากมี ก็คบไปตามธรรมชาติของผู้ชาย โดยอายุโดยอาชีพเรายังไม่พร้อม เลยไม่อยากมี แต่ชอบคนนู้นคนนี้ไปตามปกติ เพราะว่าผมเป็นผู้ชาย เรื่องเกย์ก็มี เรื่องกะเทยก็มี ลิ้นสว่านก็ผม พระเอกร้อยล้าน พระเอกทองแดง พระเอกร้อยเทคก็ฉายาผม เล่นเลิฟซีนก็ดุเด็ดจูบจริงในหนังไกรทอง จนได้ฉายามา ชีวิตนี้ผมได้มาหมดแล้ว ปลื้มทุกฉายา (ยิ้ม) เพราะถือว่าผมทำจริง มันถึงมีข่าวออกมา ผมตั้งใจทำจริงๆ แต่ไม่คิดว่าเขาจะมาตั้งเป็นฉายาแบบนี้

หยุดทุกอย่างไว้ที่ภรรยาและลูก

ภรรยา “น้องเอ๋” เป็นคนนอกวงการครับ เขาทำธุรกิจเกี่ยวกับเส้นผม เจอกันในเว็บไซต์ก่อน คือผมเสิร์ชหาออร์แกนิคว่ามีน้ำยาทาหนังศีรษะที่ทำให้ผมขึ้น เพราะว่าผมหัวเถิก พอคุยกัน 5-6 เดือน ก็ไปเจอที่ร้าน ขอจีบเขา คบกันมา 2 ปีก็แต่งงานเลย ผมชอบเขา ที่เขาเป็นคนธรรมดา ไม่สวยไม่รวยแต่เป็นคนใจสู้ เป็นคนนักเลง ใจกว้าง คุยกับเรารู้เรื่อง รับเราได้ที่เป็นเรา เพราะว่าเราไม่ใช่คนดี วินัย ไกรบุตร ไม่ใช่คนดี ข่าวคราวต่างๆ ของเราผ่านมาแล้ว มันก็คืออดีต จบก็คือจบ และเราก็ให้เขาทั้งใจ อาจจะไม่เป็นคนหวาน เงินก็ให้หมดทุกอย่างให้หมดแม้แต่บาทเดียวก็ไม่เอา ในแบงก์มีไม่เกิน 500 ขอวันละ 300 ถ้าไปต่างจังหวัดก็ได้ 500 เราเที่ยวมาเยอะแล้ว พอเรามาเจอคนที่เรารัก คนที่เราถูกใจก็ให้เขาไปเลยเต็มที่ พอมีลูกมีเมียแล้ว ไม่มีปาร์ตี้เลย ไม่อยากไป อยากกลับไปหาลูก อยากอยู่กับเมีย ค่ำๆ ตีแบดเสร็จก็รีบกลับไปหาลูก เพราะลูกรอ พอมีครอบครัวแล้วชีวิตเปลี่ยน แล้วเราก็เปลี่ยนตัวเองด้วย เพราะว่าเราอยากเห็นลูกเราเติบโต อยากพาลูกไปตีแบด ว่ายน้ำ ตีกอล์ฟ ไปทำนู่นทำนี่ ถ้ามีตังค์มากกว่านี้อยากจะมีลูก 4 คน นี่ยังไม่ทำหมันเลยครับ อยากมีลูกเยอะๆ ได้เลี้ยงได้ดูแลเขาคนนั้นเป็นอย่างนั้น คนนี้เป็นอย่างนี้ คนนี้เป็นดารา คนนี้ไปทำงานอย่างอื่น ชีวิตเราไม่มีอะไรแล้ว ก็รอวันตายอย่างเดียว ทำงานส่งให้เขาต่อไป ไม่มีอะไรหรอกครับชีวิต เอาอะไรไปไม่ได้ ทำอะไรก็ให้เขา

อนาคตที่วางไว้

อยากทำอาชีพอื่นเสริมเหมือนกันครับ ที่ผ่านมาทำอะไรก็เจ๊งหมด สปา ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ปุ๋ยก็เจ๊งไปเกือบ 20 ล้าน เพราะว่าเราบริหารไม่เป็น ไม่มีความรู้ ไม่ต้องโทษคนอื่นเลยครับ เป็นคนขาดประสบการณ์คิดไม่เป็น ขอโทษตัวเองเลยที่เป็นแบบนี้ แต่ก็จะหาใหม่ที่มันลงทุนไม่เยอะ แล้วขายในโซเชียลได้ ไม่เจ็บตัวเยอะคือเรารู้แล้ว อาชีพนักแสดงก็ยังทำเป็นหลัก จะทำจนกว่าจะไม่มีแรงไม่มีคนจ้าง เป็นอาชีพหลักของผม แม้ว่าบทบาทจะเปลี่ยนไปก็ตาม ตอนนี้ผมเล่นเป็นตาแล้วนะ ไม่ซีเรียสเราสนุก สบายดีจะตาย พอเป็นคนแก่ก็จะบู๊ได้นิดหน่อย สบายเลย แต่ว่าส่วนตัวผมก็ยังพอบู๊ได้เบาๆ ละครบู๊ หรือว่าถอดเสื้อยังได้อยู่ ซิกแพ็กยังมีอยู่นิดหน่อย (ยิ้ม)

ความในใจถึงแฟนๆ

ขอบคุณแฟนคลับที่ดูแลผมตั้งแต่อายุ 23จนตอนนี้ผมอายุจะ 50 แล้ว กว่า 27 ปี ในวงการบันเทิง ขอบคุณตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายายมาถึงรุ่นปัจจุบัน ที่เป็นกำลังใจ ขอบคุณที่ดูผลงานผมและคอยให้กำลังใจตลอด ถ้าไม่มีพวกคุณผมก็คงไม่เกิด ผมจะทำผลงานให้ดีขึ้น เดินไปไหนมาไหนน้อยคนมากที่จะไม่รู้จักเรา แต่อย่างเดียวที่เขาบอกคือในทีวี.ทำไมตัวใหญ่ ตัวจริงทำไมตัวเล็ก แล้วในทีวี.แก่ แต่ตัวจริงไม่แก่ อันนี้เป็นคำพูดที่ได้ยินประจำ ก็ภูมิใจครับที่คนรู้จัก ไปไหนก็ลำบาก ลำบากตรงที่ว่าจะไปทำอะไรที่ไม่ดีไม่ได้ ก็ต้องทำในสิ่งดีๆ (ยิ้ม) และฝากทายาทไว้ด้วยครับ น้องมารคน้องแมม เผื่อเขาได้มีผลงานในวงการบันเทิง ก็ฝากเชียร์ฝากเป็นแฟนคลับไว้ในใจคุณผู้ชมทุกคนด้วยครับ

เรียกว่าทำหน้าที่การเป็นหัวหน้าครอบครัว และการเป็นคนของประชาชนได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง สมฉายา “พระเอกร้อยล้าน” คนแรกของวงการภาพยนตร์ไทย “เมฆ-วินัย ไกรบุตร”

กุหลาบสีเงิน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'กุ้ง สุธิราช-จิ้งหรีดขาว\'เปิดคำพูดสุดท้ายของแม่ ส่ง\'วิ วิรดา\'จากไปอย่างสงบ 'กุ้ง สุธิราช-จิ้งหรีดขาว'เปิดคำพูดสุดท้ายของแม่ ส่ง'วิ วิรดา'จากไปอย่างสงบ
  • มีเพียงเม็ดเดียวในโลก! ส่องแหวนหมั้น15กะรัตของ\'ใหม่ ดาวิกา\' หายาก-ราคาสมฐานะนางเอกซุป\'ตาร์ มีเพียงเม็ดเดียวในโลก! ส่องแหวนหมั้น15กะรัตของ'ใหม่ ดาวิกา' หายาก-ราคาสมฐานะนางเอกซุป'ตาร์
  • เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ใจกลางกรุง!\'Shine\'Original Gay Series by BeOnCloud กับการเผยตัวอย่างซีรีส์ (Trailer) เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ใจกลางกรุง!'Shine'Original Gay Series by BeOnCloud กับการเผยตัวอย่างซีรีส์ (Trailer)
  • \'คนใกล้ชิด\'เผยอาการ\'แม่นกน้อย\'ล่าสุด เชื่อบารมี\'พ่อขุนเดช\'ช่วย 'คนใกล้ชิด'เผยอาการ'แม่นกน้อย'ล่าสุด เชื่อบารมี'พ่อขุนเดช'ช่วย
  • 13 สตูดิโอ เปิดกาล่า \'Attack วิญญาณเลขที่ 13\'ตามหาตัวแม่ \'Prom Queen\'ก่อนหวีดเลือดสาด 13 สตูดิโอ เปิดกาล่า 'Attack วิญญาณเลขที่ 13'ตามหาตัวแม่ 'Prom Queen'ก่อนหวีดเลือดสาด
  • เรื่องเศร้าที่ไม่เลือนหาย! \'FannFiller\'เผยภาพความทรงจำสวยงามผ่าน\'หากเรารักกันอยู่\' เรื่องเศร้าที่ไม่เลือนหาย! 'FannFiller'เผยภาพความทรงจำสวยงามผ่าน'หากเรารักกันอยู่'
  •  

Breaking News

(คลิป) 60 เสียง แห่งจริยธรรม ประชาคมแพทย์ ประกาศสู้

ดับแล้ว110ราย! เหตุเครื่องบิน'แอร์อินเดีย'โหม่งโลก หลังบินขึ้นได้เพียงแค่5นาที

'บินลิง วู'นายทุนจีน คดีนอมินี ตึกสตง. ถล่ม มอบตัว DSI ส่งพนักงานอัยการพิจารณา

ขอคารวะจากใจ! 'สมชาย'ชื่นชม'แพทยสภา' กล้าหาญยืนหยัด-ไม่หวั่นเกรงอำนาจ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved