เป็นนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ที่กำลังมาแรงจากละครแนวซูเปอร์ฮีโร่เรื่อง “นักสู้สะท้านฟ้า” ทางช่อง 7 สี สำหรับหนุ่มเลือดอีสานจากอุดรธานี “ยูโร-ยศวรรธน์ ทะวาปี” ฮอตขนาดนี้เราไม่รอช้ารีบคว้าตัวหนุ่มยูโรมาล้วงลึกทุกซอกมุมของชีวิต
ต้องบอกว่าท้าทายมากครับ (ยิ้ม) สำหรับละครเรื่อง “นักสู้สะท้านฟ้า” และรู้สึกดีใจที่ได้เป็นซูเปอร์ฮีโร่ด้วย ได้มาเป็นขวัญใจคนใหม่ของน้องๆ แต่ถ้าถามว่าผมคาดหวังยังไงไหม ก็คาดหวังให้งานออกมาดีและทุกคนชอบในการแสดงของผมมากกว่า โดยส่วนตัวแล้วอ่านบทผมชอบนะ เพราะว่าเราได้ใช้จินตนาการเยอะมากในการแสดง ได้แปลงร่างด้วยถ้ามีเหตุการณ์ร้ายๆ อะไรเกิดขึ้นในหมู่บ้านเราก็ต้องไปช่วยปกป้องไว้ ซึ่งจะมีหน้ากากและมีชุด อาวุธคู่กายก็จะเป็นมีดอีโต้ แต่ว่าเราไม่ได้ใช่อีโต้ไปไล่ฟันใครนะครับ เราจะใช้ฟันลงพื้นหรือว่าขึ้นฟ้า แล้วจะมีวลีเด็ดคำพูดประจำตัว“ตราบใดที่ข้ายังอยู่ เหล่าอธรรมและความชั่วร้ายบนโลกนี้ต้องหมดไป” เรื่องนี้มันจะจบเป็นตอนๆมีผู้ร้ายรับเชิญมาเรื่อยๆ
ระดับความหวานกับนางเอก
สำหรับ “ชิงชิง” (คริษฐา สังสะโอภาส) เราเคยร่วมงานกันมาแล้วครั้งหนึ่ง คือไปเต้นที่งานไทยซูเปอร์โมเดล ซ้อมด้วยกัน 10 กว่าวัน เลยทำให้เราสนิทกัน พอได้มาเล่นเรื่องนี้ด้วยกันก็เลยไม่ค่อยเขินเท่าไหร่ ไม่คิดว่าจะได้มาเล่นละครด้วยกันอยู่ๆ ก็ได้ปุ๊บปั๊บมาก น้องชิงน่ารักครับ พูดไม่หยุดเลย มีฉากกุ๊กกิ๊กกันด้วย แต่ด้วยความที่เราเป็นนักแสดงหน้าใหม่มันก็เลยทำอะไรไม่ค่อยถูก นอกจอผมก็ชินกันนะคือเล่นกันได้ แต่พอ 5 4 3 2 ปุ๊บผมจะเกร็งทันทีเลย ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เกรงใจน้องเขาด้วย
กับผลงานก่อนหน้านี้
จริงๆ “เล่ห์รักบุษบา” เป็นละครเรื่องแรกของผมนะครับ ซึ่งกำลังถ่ายทำอยู่ เรื่องนั้นผมเล่นเป็นหนุ่มนักเรียนนอก เก่งทางด้านดนตรีกีฬาแล้วก็ค่อนข้างที่จะป๊อปปูล่าร์ในมหาวิทยาลัยเป็นแฟนกับ “มะเหมี่ยว” (พรชดา เครือคช) แต่ว่าพอกลับมาเมืองไทยเราก็ต้องเข้าไปทำงานในไร่ของพระเอก เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับแฟน ต้องปิดบังแอบไปเจอกัน กับบทนี้ก็โอเคชอบครับเข้ากับวัยไม่ไกลตัวเราเท่าไหร่มันมีความกุ๊กกิ๊กในบทด้วยครับ
ประสบการณ์จากงานเบื้องหลัง
ผมไปฝึกงานที่ “บริษัทมีเดียสตูดิโอ” ในกองละครเรื่อง “ไฮโซสะออน” กับ “สกาวเดือน” เหมือนไปดูงานว่าโดยรวมแล้วกองถ่ายเป็นยังไงบ้าง เพื่อเรียนรู้งาน เป็นการฝึกงานของทางมหาวิทยาลัยครับคือพอเราเรียนจบเขาก็จะให้ไปฝึกผมก็เลยเลือกไปฝึกที่มีเดีย อยู่กองผมต้องทำทุกอย่างเลยครับเรียนรู้ทุกตำแหน่ง ดูว่าผู้กำกับทำงานยังไง ผู้ช่วยผู้กำกับทำงานยังไงพี่เขาก็จะสอนว่าแต่ละตำแหน่งในกองถ่ายมีหน้าที่กันยังไงบ้างย้ายไปเรื่อยๆทำทุกแผนกครับ ใครขาดเหลืออะไรผมช่วยหมด แต่จริงๆช่วยอยู่เฉยๆ จะดีกว่าครับ (หัวเราะ) จริงๆ ผมก็ชอบตำแหน่งผู้กำกับนะพอได้เข้าไปสัมผัสรู้สึกว่าเจ๋งดี แต่ว่าผมคงเป็นไม่ได้หรอก ตอนนี้ฝึกงานจบแล้วครับ
ที่มาที่ไปก่อนจะมาเป็นนักแสดง
เริ่มต้นจาก “พี่ตั้ม” ผู้จัดการส่วนตัวผมครับ คือเขาไปเจอผมในเฟซบุ๊ค ผมออกงานงานหนึ่งซึ่งนานๆ จะเดินแบบทีแล้วพี่เขาไปเห็นรูปผมในเฟซของผู้จัดงาน พี่ตั้มเขาก็เลยไปตามและทักเข้ามาผมถามว่าอยากเป็นนักแสดงไหมอยากมาเล่นละครหรือเปล่า ผมก็คิดว่าลองดูก็ได้ และลองปรึกษากับแม่ดู เราก็ไม่รู้ว่าเขาพูดจริงหรือเปล่า เพราะว่าการเป็นนักแสดงมันไม่ใช่ว่าจะเป็นกันง่ายๆ แต่ว่าพอเข้าไปดูในโปรไฟล์ของพี่ตั้มเขาก็มีนักแสดงในสังกัดนะ ก็เลยลองเข้ามาดูแล้วก็เลยได้พี่ตั้มพาเข้ามาทำเทปที่ช่อง 7 เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งก่อนที่จะเข้ามาที่ช่อง 7 ผมก็ได้ไปเรียนรู้เรื่องการแสดงแบบปุ๊บปั๊บมาก แค่ 2 วัน คือเป็นการเรียนแอ๊กติ้งแบบเร่งรัดเพราะว่ามีนัดทำเทปแล้วซึ่งผมก็ยังไม่เคยทำอะไรแบบนี้ เพียงแต่ว่าเราพอมีประสบการณ์ในการเล่นละครเวทีของมหา’ลัย แต่ว่าพอเข้ามาตรงนี้มันเหมือนคนละแบบกันเลยครับ ละครเวทีกับละครทีวีก็เรียน 2 วันแล้วก็เข้าไปทำเทปประมาณเดือนนึงก็รู้ผลว่าเราได้เล่นละครกับทางช่อง 7
ความฝันของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
คือเราได้รับโอกาสเข้ามาแล้วเราก็อยากเป็นแหละนะนักแสดง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่า มันก็ไม่ได้ง่ายๆ แต่เราดันฟลุคได้ แค่เดือนกว่าๆ ก็รู้ผลแล้วและได้เซ็นสัญญา 5 ปีเลยครับก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ จริงๆ ความใฝ่ฝันของผมตอนเด็กนี่คืออยากเป็นนักแสดงนะ แต่เราไม่รู้ว่าจะหาช่องทางไหนเข้ามาตรงนี้เพราะว่ามันไม่ใช่ง่ายๆ ว่าเราจะเข้ามาได้ยังไงเป็นนักแสดงได้ยังไง ตอนสัก 5-6 ขวบ ก็เริ่มตัดๆ ความฝันนั้นทิ้งไปแล้วเพราะคิดว่ามันคงจะเป็นไปไม่ได้ เลยล้างความคิดนั้นไปแล้ว (แต่เรียนนิเทศ?) คือเรียนให้มันจบ (หัวเราะ) ไม่รู้ว่าจะเรียนคณะอะไร แต่ตอนที่เรียนก็พอมีคนรู้จักเราบ้าง มีกิจกรรมของมหา’ลัยเราก็ร่วมตลอด เป็นคนที่กล้าแสดงออกระดับนึงครับ
ครอบครัวผลักดัน
ครอบครัวก็สนับสนุนนะครับ ก็อยากให้เป็นนักแสดง และถ้าเรามีโอกาสแล้วก็อยากให้เราทำให้เต็มที่ พ่อเป็นครูแม่ทำธุรกิจ พ่อก็อยากให้ผมเป็นครูเหมือนกัน แต่ว่าผมไม่อยากเป็น ทุกวันนี้เขาเห็นเรามีผลงานเห็นเราตามข่าวต่างๆ ก็ดีใจแล้วครับ มันเหมือนเป็นอีกก้าวของเราก็จะทักมาในเฟซบุ๊ค ในไลน์ยินดีด้วยดีใจด้วยนะอะไรอย่างนี้ เมื่อก่อนตอนที่อยู่ที่บ้านเราจะทานข้าวด้วยกันในครอบครัวตลอด แต่ว่าตอนนี้ผมไม่ได้อยู่กับที่บ้านแล้วเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯคนเดียว ที่บ้านก็มีบ่นคิดถึงตลอดครับ
ชีวิตเปลี่ยน
ตอนนี้ก็เปลี่ยนในระดับหนึ่งครับ ยังไม่มากเท่าไหร่ยังเป็นคนเดิมอยู่ ก็เปลี่ยนอะไรที่มันต้องเปลี่ยน ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น อะไรที่มันไม่ดีก็จะทิ้งมันไปไม่ทำ อย่างเรื่องการแต่งตัวคือผมจะเป็นคนที่แต่งตัวชิลๆ พี่ตั้มก็บอกว่าถ้ามาอยู่ในนี้แล้วเราก็ต้องแต่งตัวให้มันดูดีหน่อย เราเป็นนักแสดงแล้วนะไม่ใช่ว่านึกอยากจะแต่งตัวยังไงก็ได้ เมื่อก่อนผมไปห้างจะใส่รองเท้าแตะสบายๆ แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้แล้วต้องให้เกียรติช่องให้เกียรติผู้ใหญ่ด้วย ตัวผมเป็นคนเฮฮาเฟรนด์ลี่นะครับ สนุกสนานไม่ซีเรียสอะไรเลย มองโลกในแง่ดีไม่มีร้ายครับ (ยิ้ม) ก็แอบตื่นเต้นปกติจากคนธรรมดา จากคนที่อยู่อุดรอยู่ต่างจังหวัด ใช้ชีวิตทั่วไปพอมาอยู่ตรงนี้มันก็ต้องเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งเลย วันนี้มีคนมาขอถ่ายรูปด้วย ก็รู้สึกดีครับดีใจ
เรื่องของหัวใจ
ตอนนี้ก็ทำงานอย่างเดียวครับ ไม่ว่างเลยจริงๆ มีงาน 7 วันเลย ถ่ายละคร 2 เรื่อง ก่อนเข้าวงการประมาณ 4 เดือนก็โสดนะครับ คือโสดก่อนที่จะมารู้จักพี่ตั้มอีก ไม่เกี่ยวว่าเข้าวงการแล้วเลิกกัน คือเราห้างกันเพราะว่าเราเรียนกันคนละที่ ผมคบรุ่นพี่ ซึ่งพี่เขาเรียนจบไปแล้วและมาทำงานในกรุงเทพฯ แต่ว่าเรายังเรียนอยู่ที่อุดรอีกปีหนึ่ง ก็เลยเหมือนห่างกันไปและเลิกรากันไป ไม่ได้เจอกันเลยครับ สเปกผมไม่มีครับถ้าชอบใครก็ชอบ อายุก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค แต่ว่าไม่ชอบเด็ก เพราะว่าผมเป็นคนง้องแง้งไง (ยิ้ม) ถ้าไปเจอคนง้องแง้งด้วยอีกก็น่าจะไม่รอดครับ
อนาคตทางการแสดง
ที่ผ่านมาผมก็ได้ประสบการณ์จากการฝึกงาน ได้เรียนมาสายนี้โดยตรง ก็อาจจะไม่เชิงว่าเราใช้ความรู้ที่เราเรียนและฝึกงานมาต่อยอดทางการแสดงนะครับ แต่ว่าเป็นความรู้มากกว่าก็ทำงานตรงนี้ไปก่อนเต็มที่ครับ อนาคตจะเป็นยังไงผมก็ยังไม่รู้ก็อยู่ยาวๆ ไปก่อน 5 ปี แล้วก็หมั่นพัฒนาฝีมือตัวเองให้ผู้ใหญ่เห็นครับ ก็ฝากนะครับสำหรับละครเรื่อง “นักสู้สะท้านฟ้า” ซึ่งผมได้เล่นเป็นพระเอกเรื่องแรกจะทำให้เต็มที่ครับ ฝากแฟนๆ ทุกคนด้วย ออกอากาศทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 17.15 น.เจอกันนะครับ
กุหลาบสีเงิน
รายการ Super Weir (ซูเปอร์เวียร์) วันแม่แห่งชาติที่ 12 สิงหาคมนี้ พาไปชมความงดงามของจังหวัดกระบี่ ที่เปิดความสวยงามรับสายตาผู้มาเยือน หลังมี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี