แม้ว่าความร้ายในจอจะแรง แต่ออร่าความหล่อใสดูท่าจะพุ่งแรงกว่า สำหรับนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ “ไบรท์-รพีพงศ์ ทับสุวรรณ” จากละครสะท้อนสังคม “ข้ามสีทันดร” ทางช่อง 3 ที่ตอนนี้สาวๆ ต่างอยากจะรู้จัก “ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” ไม่รอช้า รีบจับมานั่งเล่าแถลงไข ถึงความเป็นไปกันแบบหมดเปลือก
“ตอนนี้ไปไหนก็เริ่มมีคนรู้จักมากขึ้นครับ มีคนมองๆ แล้วไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า และในสื่อโซเชียลไอจีก็มีคนมาติดตามมากขึ้น ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าร้ายมาก เกลียด แล้วก็ให้ “พี่พีช” (พชร จิราธิวัฒน์) หรือว่า “ดวล” ในเรื่องเลิกคบกับเราซะ ได้รับฉายาว่า ออกยา ครับ (ยิ้ม) สำหรับผมเองก็รู้สึกดีและรู้สึกดีใจที่เห็นฟีดแบ๊กออกมาดี เขาก็บอกว่าเราเล่นได้สมบทบาทในระดับหนึ่ง”
กว่าจะมาเป็น “เอน” ใน “ข้ามสีทันดร”
ก็ต้องผ่านการเคี่ยวมาอย่างหนักเหมือนกันครับ ต้องทำเวิร์กช็อปมีการหาเรฟเฟอเร้นเพิ่มเติม ได้มีโอกาสไปเจอไปขอคำแนะนำจากพี่ๆ ที่เขามีประสบการณ์ตรงด้วยคือเขาเลิกเสพแล้วแต่ก็มาช่วยพูดเพื่อเป็นวิทยาทาน ถือเป็นการเริ่มต้นการแสดงของไบรท์ด้วยบทที่ท้าทายมาก ซึ่งมันก็ส่งผลดีให้เรามากเพราะว่าการที่เราได้ทำอะไรที่มันยากๆ มันก็เหมือนเป็นการที่เราพิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นเห็น แล้วอีกอย่างเราก็โชคดีที่ได้ผู้กำกับเก่งและพี่ๆ ในกองคอยช่วยเรา ซึ่งพอเราได้ไปสัมผัสตรงนั้นแล้วก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมาก แล้วนอกจากมีก็ยังมีกระแสจิ้นกับพี่พีชด้วยครับ แต่ในละครคือเราหลอกเขาก็เขินๆ แปลกๆ เหมือนกันครับ คือไบรท์ยังไม่เคยทำงานในวงการมาก่อนเลย ละครเรื่องข้ามสีทันดรเป็นผลงานแสดงชิ้นแรกอาจจะเคยถ่ายแบบนิตยสารบ้าง นอกนั้นก็คือไม่มีอะไรเลย แล้วก่อนที่จะได้มาเล่นเรื่องนี้ก็ต้องไปออดิชั่น และได้รับการคัดเลือกจาก “พี่วุธ” (อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร) เป็นการออดิชั่นด้วยบทเอนเลยครับ โดยตอนนั้นอาจจะเป็นบทที่ไม่ยากมากเท่าไหร่เราก็ทำมันออกมาโอเคครับ แล้วมันก็รวดเร็วมากพอไปออดิชั่นสักแป๊บหนึ่งเขาก็ประกาศเลยว่าเราได้เล่นและมีการฟิตติ้งเริ่มถ่ายเลย ใช้ระยะเวลาไม่กี่เดือนก็ได้เล่นเลย
เมื่อโอกาสมาถึง
ตอนแรกคิดว่าการแสดงมันเป็นอะไรที่ห่างไกลตัวเรามากเลยนะครับ เมื่อก่อนไบรท์อยู่โคราชไงครับ การที่จะมาเป็นนักแสดงโอกาสมันยากมากและไม่ได้คิดใฝ่ฝันอะไรขนาดนั้น แล้วพอดีว่า “พี่พลอย-พี่แพร”ที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวของ “พี่เบลล่า-ราณี” กับ “พี่หมาก-ปริญ” ได้ไปเห็นรูปไบรท์ในอินเตอร์เนตแล้วเขาก็เลยไปหาที่โคราช ไบรท์ยังเรียนอยู่ประมาณ ม.4-ม.5 พี่เขาก็แนะนำตัวและถามเราว่าสนใจไหม ซึ่งเราก็สนใจระดับหนึ่งครับก็เลยไปปรึกษาพ่อกับแม่ก่อนพ่อกับแม่ก็บอกว่าลองดูสิในเมื่อโอกาสมันมาถึงแล้ว ทั้งพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ดันเต็มที่แต่เหมือนกับว่าถ้าลูกอยากทำอะไรก็ให้ลองทำดูครับพอเรียนจบ ม.ปลายก็ได้เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ พอดีว่าสอบติดที่ธรรมศาสตร์ พี่พลอย-พี่แพร ก็ยังคอนแท็กกับเราเรื่อยๆ และส่งให้ไปเรียนการแสดง พอได้ลองทำเราก็รู้สึกว่ามันสนุกดีท้าทายเป็นอะไรที่เราไม่เคยทำมาก่อน เริ่มซึมซับแล้วก็ชอบมันไปเรื่อยๆ เราก็ใช้เวลาพัฒนาตัวเอง เมื่อก่อนผอมมากก็ได้ไปเล่นฟิตเนส จนได้มาออดิชั่น ไม่ได้รู้สึกว่ารอนานนะครับ คือมันก็เป็นช่วงจังหวะเวลา ถ้าเกิดว่าเราทำตอนที่เรียนมัธยมเราก็ต้องโฟกัสเรื่องการเรียน แต่พอเรามาทำตอนเราเรียนจบเราก็มีเวลาได้ฝึกฝนได้เรียนรู้เรื่อยๆ
บรรยากาศในการทำงาน
รู้สึกค่อนข้างกดดันตัวเองครับ เพราะว่านักแสดงทุกคนก็เรียกว่าเป็นยอดฝีมือเก่งหมดเลย แต่ว่าพี่ๆ ในกองก็ช่วยพูดให้เราหายกดดัน ให้เราเล่นไปตามอารมณ์เลยแล้วก็มีพี่วุธพี่พีชและพี่ๆ ในกองครับที่คอยช่วยตลอดเลย พี่วุธดุเหมือนกันครับ คือ เขามีภาพในหัวแล้วก็จริงจังกับงานครับ เขาก็จะคอยบอกเราเวลาเราทำไม่ได้ ก็ช่วยเราได้เยอะเลยครับ ก่อนจะมาทำงานไบรท์คิดไว้ว่าการทำงานน่าจะสบายๆ เพราะเราเห็นแต่หน้าจอ แต่ว่าพอเรามาทำจริงๆ แล้วมันเหนื่อยมากกว่าจะได้ภาพออกมาในแต่ละฉากต้องใช้เวลา
แพลนชีวิต
ผมอยากแสดงออกมาให้ดีเรื่อยๆ สมบทบาทและเต็มที่ให้เป็นที่รักและเป็นที่จดจำของทุกคน ที่บ้านก็ไม่ได้ว่าอะไรแม้ว่าเราจะเริ่มต้นด้วยบทแรงๆ คือมันก็เป็นบทบาท ไม่ใช่ชีวิตจริง เขาก็สนับสนุน บางทีก็มีแซวเล่นร้ายมากเลยนะดูอยู่นะ สำหรับเพื่อนๆ หรือว่าคนเพื่อนบ้านที่โคราชยังไม่มีโอกาสได้กลับไปเช็คเรตติ้ง แต่คิดว่าคงจะมีแซวๆ คืออย่างเวลาที่ละครออนเขาก็จะถ่ายลงในสตอรี่ไอจีแล้วก็แท็กมาหาเรา มีแอบด่าบ้าง (ยิ้ม) เราไม่ได้รู้สึกว่ามันบั่นทอนอะไรเรานะครับ รู้สึกว่าคำติคำชมนั้นมันเป็นเหมือนแรงผลักเรามากกว่า เขาติเราก็จะได้นำจุดนั้นไปแก้มากกว่า ส่วนเรื่องการทำงานกับการเรียนตอนนี้กำลังขึ้นชั้นปีที่ 4ก็ไม่ได้ลำบากมากครับในเรื่องของการจัดสรรเวลา คือจะจัดตารางเรียนให้มันไม่ตรงกับวันที่มีละคร ก็จะมีพี่ๆ เขาคอยช่วยจัดให้อยู่แล้วครับ ถ้าเรียนจบแล้วจริงๆ ก็มองไว้บ้างว่าจะทำงานอะไร คือสาขาที่ไบรท์เรียนมันเป็นเรื่องการทำธุรกิจด้านกีฬาไบรท์ก็มีความคิดว่าอาจจะทำพวกเสื้อผ้ากีฬา
ไบรท์สไตล์
เป็นเด็กซนครับ ปีนป่ายต่อยตีตามประสาเด็กผู้ชาย รอยแผลเต็มตัวเลย (หัวเราะ) เป็นเด็กที่กล้าแสดงออกด้วยครับ ครูจะเลือกให้เป็นตัวแทนไปทำกิจกรรมเรื่อยๆ ในหมู่เพื่อนฝูง
เราก็เป็นที่รู้จักมีสาวๆ มากรี๊ดบ้างเหมือนกัน (ยิ้ม) ส่วนตอนโตถ้าเวลาอยู่กับเพื่อนที่สนิทกันเราก็จะมีแกล้งๆ ซนๆ กันเหมือนเด็กผู้ชายปกติครับ แต่ถ้าอยู่กับคนที่ไม่สนิทก็จะขรึมๆ เงียบๆ ไบรท์เป็นคนชอบเล่นกีฬาหลายประเภทมากเลยครับ เรียกว่าเห็นกีฬาแล้วอยากเล่นหมดเลย บางอย่างเราอาจจะเล่นไม่เป็นแต่ก็สนใจอยากจะเล่น กีฬาที่ไบรท์ชอบก็จะมีฟุตบอล บาสเกตบอล
ว่ายน้ำ และตอนนี้กำลังเล่นเวฟบอร์ดอยู่ครับเป็นกีฬาที่กำลังเห่อในตอนนี้คือรุ่นพี่ที่เล่นฟิตเนสด้วยกันเขาไปลองเล่นดูแล้วเขาก็มาชวนเรา ก็เลยสนใจเพราะว่าเป็นกีฬาทางน้ำ ไม่น่าเหงื่อออกมากเราก็เลยไปเล่น ก็ยังอยู่ในช่วงฝึกหัดเล่นอยู่ครับเป็นกีฬาใหม่ที่สนใจ
เรื่องของหัวใจ
ก็มีคนคุยๆ อยู่บ้างครับ (ยิ้ม) สเปกคือชอบผู้หญิงตัวเล็กๆ ขาวหน่อย เป็นคนมีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่น การที่เราจะมีแฟนไบรท์มองว่ามันเป็นเรื่องของอนาคตมากกว่าครับ ก็คุยคบกันไปเป็นเพื่อนก่อนมันน่าจะยืนยาวมากกว่า ดูกันไปเรื่อยๆ ไม่ได้เปิดตัวไม่ออกตัวว่านี่คือแฟนนะ แต่ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคต ถ้าเราคิดว่ามันใช่ก็คงจะใช่ แต่เราคุยกันไปแบบนี้รักษาความสัมพันธ์กันไปเรื่อยๆ เป็นกำลังใจคอยแชร์เรื่องราวกันบางทีเพื่อนผู้ชายอาจจะช่วยเราไม่ได้แต่พอมีเพื่อนผู้หญิงสักคนที่สนิทคอยเป็นที่ปรึกษาแชร์เรื่องราวก็น่าจะดีอีกแบบหนึ่ง
ขอฝากละครเรื่อง “ข้ามสีทันดร” ด้วยนะครับ เป็นละครเรื่องแรกของไบรท์เลย ละครเรื่องนี้ไม่ได้สอนเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องของยาเสพติด ยังให้แง่คิดเกี่ยวกับครอบครัว และเรื่องสิ่งเสพติดมันไม่ได้มีเฉพาะเรื่องการใช้ยาอย่างเดียว แต่ว่ามันยังมีเรื่องของการเสพติดศัลยกรรม เสพติดความดัง เสพติดเงินทอง ยศถาบรรดาศักดิ์มากมายครับ ดูละครแล้วก็ลองเอาแง่คิด
ไปปรับใช้ แล้วถ้าเจอไบรท์ก็เข้ามาทักทายขอถ่ายรูปได้ครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี