จากเทรนเนอร์หนุ่มเนื้อหอม “อาร์ม-วรท มรรคดวงแก้ว” กำลังเปิดโลกใหม่ให้กับตัวเองด้วยการชิมลางงานแสดงเต็มตัวที่เขาหลงใหลในซีรี่ส์สุดฮิต “My Girl 18 มงกุฎสุดที่รัก” ช่องทรูโฟร์ยูอะไรคือที่มาที่ไป STAR ROOKIES สัปดาห์นี้ เราไม่พลาดจับหนุ่มอาร์มมานั่งพูดคุยล้วงลึกกัน
บทบาทในซีรี่ส์“My Girl 18 มงกุฎสุดที่รัก”
คาแร็กเตอร์ของมาร์คเขาเป็นหนุ่มนักเรียนนอกที่มั่นใจในตัวเองสูงเป็นเพลย์บอยหนุ่มควงสาวไม่ซ้ำหน้ากลับมาเจอนางเอกที่เรารู้สึกว่าเขาไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่น จากที่เราเป็นคนไม่ได้มีเป้าหมายในชีวิตเราก็อยากจะทำชีวิตตัวเองให้ดีขึ้นชอบเขาจริงจัง จากเพลย์บอยก็หน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ จะมีในพาร์ตที่เพลย์บอยด้วยและมีโชว์นิดดหน่อยถอดเสื้อ ซึ่งผมก็เขินนะครับ มันคือเรื่องแรกที่เราได้รับบทใหญ่ขนาดนี้และเราไม่เคยผ่านการทำงาน แต่มันไม่มีตัวเลือกก็ต้องทำ หุ่นเราก็ไม่ได้ดีมากนักแต่มันก็ใช้ได้ด้วยความที่ออกกำลังกายอยู่แล้วเลยพอจะมีกล้ามเนื้อบ้าง
แต่เชื่อว่าน่าจะมีคนฟินอยู่นะ (ยิ้ม)
ที่มาที่ไปก่อนจะมาเล่นเรื่องนี้
อยู่กับ “เฮโล โปรดักส์ชั่น” กับ “พี่เจี๊ยบ” เป็นนักแสดงในสังกัดนี้ครับ ซึ่งก็ต้องมาแคสอยู่ดีทุกเรื่องก็คือมาแคสแล้วก็ได้ ก่อนหน้านี้ก็มีผลงานเรื่องKiss Me รักล้นใจนายแกล้งจุ๊บ แต่บทบาทจะไม่เยอะ เรื่องนี้ถือเป็นการแสดงเต็มตัวเรื่องแรก ก่อนหน้านี้ผมก็มีเรียนการแสดงมาแล้ว และก็ได้มาเวิร์กช็อปดูเวอร์ชั่นเกาหลีบ้างว่าเขาเล่นยังไงเสน่ห์ของตัวละครตัวนี้คือยังไง แต่เราต้องทำให้ไม่เหมือนและนี่มันก็คือความยากตอนแรกที่เข้า ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นนักแสดงไหม คือ ยังหาตัวเองไม่เจอ ตอนนั้นยังเรียนอยู่ปี 2 แล้วเจอพี่เจี๊ยบที่ร้านอาหารเลยได้แลกเบอร์แลกไลน์กัน เขาก็ถามว่าสนใจอยากจะเล่นละครไหม เราก็ยังไม่เชื่อนะเพราะว่าใครก็พูดได้ เขาก็เลยเอาไอจีให้ดูซึ่งไอจีเพิ่งมีด้วยแต่คนฟอลพี่เจี๊ยบแปดพัน โห...เยอะนะเลื่อนรูปมาอ้าวมีรูป “พี่อนันดา” สงสัยจะจริงหลังจากนั้นก็นัดคุยกัน และความคิดมันไปในทางเดียวกัน เลยคิดว่าน่าจะได้ลองชอบไม่ชอบเดี๋ยวก็รู้ แล้วพอได้ลองจนมาถึงเรื่อง My Girl เลยรู้สึกว่าแฮปปี้กับการแสดง
ว่าด้วยเรื่องความฝันในวัยเด็ก
ไม่ได้ฝันว่าอยากเป็นอะไร ผมจบวิทยาศาสตร์การกีฬา จากจุฬาฯ ทุกวันนี้ก็เป็นเทรนเนอร์ทำพาร์ทไทม์อยู่ อยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ตอนเด็กอยากเป็นนักร้อง ชอบ “พี่เบิร์ด” พอโตมาก็เริ่มประกวดดนตรี ผมเป็นมือกลอง แต่ความฝันนั้นมันก็จบลงเมื่อวงแตก ฝันอยากเป็นนักแสดงด้วยครับคือนั่งดู “พี่เคน-ธีรเดช” เล่นละครรู้สึกว่าทำไมเขาเท่จังเลย เขาได้ขับรถหรูๆ คือ ภาพที่เราเห็นนะครับ แล้วเราก็คิดว่ามันคงง่ายแล้วมันได้เงินง่ายแต่โตมามันไม่ใช่เลย คนมองข้างนอกกับความเป็นจริงมันคนละเรื่องกัน เราก็เลยอยากรู้ว่าการแสดงมันคืออะไร อาร์มเคยเจอโมเดลลิ่งเขาชวนไปแคสงานแต่ก็ไม่เคยได้ คือเราก็ทำแหละแต่ว่าไม่ได้สนใจขนาดว่าฉันจะไปเรียน มันยังไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดในตอนนั้น แต่ว่าพอมาถึงพี่เจี๊ยบ เรารู้สึกว่านักแสดงมันไม่ใช่แค่เรามาแสดงนี่นา เราได้รู้จักตัวเองรู้จักชีวิตจริงมีมุมมองความคิดใหม่ ว่ามันเป็นศาสตร์ที่น่าสนใจ จนมาเรียนการแสดงได้เล่นเรื่องนี้จบก็เลยรู้สึกว่าอยากจะลองเป็นนักแสดงดู เพราะว่าเราได้ลองหลายแบบ ก็เลยอยากจะเรียนเพิ่มเติมทุกวันนี้ก็ลงเรียนเอง
ระหว่างเทรนเนอร์กับงานแสดง
ก็จะเลือกงานแสดงก่อน งานเทรนเนอร์ที่ทำตอนนี้เหมือนพาร์ทไทม์ คือผมมองว่าการแสดงมันไม่ได้มีเข้ามาทุกวัน เราจึงเลือกมันเป็นอันดับหนึ่ง จะว่าเป็นคนใช้โอกาสก็ได้ เราก็ตอบไม่ได้จริงๆว่าเราชอบการเทรนหรือการแสดงมากกว่ากัน แต่การแสดงไม่ได้มีเข้ามาทุกวันแต่งานเทรนคลาสมันมีทุกวันนะ หรือลูกค้าบางทีคนเดียวเราก็เลื่อนได้ แต่กองถ่ายเราไม่สามารถไปเลื่อนเขาได้เราไม่ใช่เบอร์นั้นถึงจะเป็นเบอร์นั้นเราก็ไม่ทำ แต่ก็แฮปปี้ที่จะทำทั้ง 2 อย่าง ไปคู่กันได้ตอนนี้ก็เทรนอาทิตย์ละ 3 วันวันละชั่วโมงเองครับ หลักๆ แล้วผมสอนคราส อยู่ที่The Lab เทรนเนอร์ที่นี่หน้าตาดีกันทุกคนเลยครับ เช้าไปยังอึ้งเลยเขาหล่อแบบมีกล้ามกันหมด ก็มีลูกค้าจำได้ด้วยนะว่าเล่น Kiss Me หรือเปล่า ผมนี่เขินเดินบิดในห้องน้ำเลย (ยิ้ม) คืออย่ามาทักแบบนี้ แต่ก็พยายามทำตัวให้ชินอยู่ครับ
แรงบันดาลใจในการออกกำลังกาย
ตอน ม.5 ม.6 เราเป็นคนที่ผอม แต่ดันสูงแล้วมันเหมือนตะเกียบเดินได้เก้งก้างมากมันไม่ไหวแล้วเรารู้สึกว่าทำไมเราไม่ทำตัวให้มันดูเท่กว่านี้ คืออยากหล่อ แล้วพอสอบติดคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาเราก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสรีระ และเราได้บิวท์ตัวเองขึ้นมาแล้ว 10 กิโล ตอนช่วง ม.6 ก็รู้สึกว่าเรามีน้ำมีนวลดีนะ อ้วนขึ้นดูเท่ดีงั้นเรามาสายนี้แหละ พอมาเรียนก็ทำให้เราเข้าใจหลักเข้าใจมูฟเมนท์บวกกับแม่ป่วยเป็นมะเร็งเราเลยรู้สึกว่าการดูแลตัวเองมันสำคัญมาก
อาร์มในวัยเด็ก
เป็นเด็กที่ซนและพูดมากด้วยครับ แต่จะพูดกับคนที่เราสนิทแล้วเท่านั้น ดื้อไร้เหตุผลจะเอาๆเหมือนง่องแง่งด้วยความที่โตมาในหมู่ของผู้หญิงมีพี่สาว 2 คน แม่ แล้วพ่อก็แก่แล้ว พ่อกับแม่อายุห่างกันมากเพราะฉะนั้นคนที่เราสนิทมากที่สุดก็คือแม่ และพี่สาวที่เล่นแต่บาร์บี้ เราจะโตมายังไงถ้าเราเล่นบาร์บี้ไปด้วย แล้วเวลาใช้ของกระเป๋ากล่องดินสอเราก็ใช้สีชมพูต่อจากพี่ ตอนเด็กจะไม่ค่อยมีเพื่อนเล่น เลยเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่บ้านอยากออกไปหาเพื่อนผู้ชาย เพราะว่าผู้หญิงเล่นด้วยแล้วไม่สนุก เรียกว่าเป็นเด็กที่โตมาในฐานะทางบ้านที่ดี มีโอกาสได้ทำอะไรหลายอย่าง ชอบพี่เบิร์ดก็ได้ไปเรียนร้องเพลงพ่อส่งให้ไปเรียนกับ “ครูโรจน์” ไปเรียนที่บ้านเขาเลย แต่พอเสียงแตกก็จบเลยที่เรียนมา คือเป็นเด็กที่ได้รับโอกาสที่ดีอยากทำอะไรพ่อแม่สนับสนุนทำให้กล้าคิดกล้าทำตัดสินใจเอง ผมเคยบอกแม่ว่าจะไปเมืองนอกกับเพื่อนตอนนั้นอยู่ ป.5 เขาให้ไป ไปอยู่ออสเตรเลียอยู่สองเดือนครึ่ง เขาไม่ห่วงหรอกเพราะว่ามีคนดูแลแต่เราคือแข็งมากจะไปๆ แล้วพอไปปุ๊บก็ร้องไห้คิดถึงแม่ทุกวัน
ความคาดหวังของครอบครัว
พ่อบอกว่าเป็นอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่หมอ เพราะว่าพ่อเป็นผมหมอฟันแล้วเหนื่อยมาก เรียนก็เหนื่อย จบมาทำงานก็แค่ในช่องปาก เราเคยมีความคิดว่าอยากจะเป็นเหมือนพ่อเห็นว่ามันได้เงิน และที่บ้านก็มีร้านอยู่แล้ว (หัวเราะ) แต่เราไม่ได้ฉลาดขนาดนั้นเราต้องยอมรับครับ ก็เลยมาเป็นวิศวะแล้วกัน เราก็ไม่ได้ฉลาดอีก แค่เราชอบฟิสิกส์ และเราก็ยังไม่รู้ว่าเราชอบอะไร พ่อแม่ก็ไม่เคยบอกว่าให้เราเป็นอะไร แต่เขาบอกเป็นนัยๆ ว่าอยากให้เราเรียนจุฬาฯ เพราะว่าเรียนสาธิตจุฬาฯมาตั้งแต่ประถม มัธยม แต่ความคิดของผมคือ อยากไปไกลๆ บ้านอยากทำตัวเละเทะ อยากรู้ว่าชีวิตเด็กหอเขาเป็นยังไง รู้สึกว่าเราโตแล้วอยากจะมีที่ของเรา อยู่หอเท่ มีรถอยู่คอนโดฯเท่มากจะกลับกี่โมงก็ได้ กินอะไรก็ได้แต่ต้องล้างเองอันนี้ไม่เท่ก็คิดว่าอยากไปเรียนไกลๆ ไม่ต้องสอบให้ปวดหัวที่ไหนได้ติดวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ ก็คิดว่าเราอยากเรียนจริงไหมเนี่ย ไม่เป็นไรถ้าไม่ไหวเราค่อยซิ่ว แต่พ่อเดินปรบมือมาเลย พ่อดีใจมากที่เราติดคณะนี้ซึ่งมันสำคัญและจำเป็นมาก ผมก็ไม่เข้าใจคิดว่าพ่อปลอบใจเราหรือเปล่า เราก็บอกว่าไม่เอาจะซิ่ว แต่พอเรียนเท่านั้นแหละแฮปปี้ (ยิ้ม) พ่อพูดถูกหมดเลย ตอนนี้ก็เรียนจบแล้ว แต่พ่อก็ยังเป็นห่วงเราอยู่ว่าจะดูแลตัวเองได้ไหม คือแม่ผมเสียไปแล้ว พ่อตอนนี้ท่านก็จะ 78 แล้ว ซึ่งคนวัยนี้เขามีเหลนไปอุ้มแล้วไม่ต้องมาหาเงินเลี้ยงลูก ผมก็โอเคครับอยู่ได้ด้วยตัวเองไม่ขอเงินพ่อตั้งแต่ปี 4 ที่ผมทำงานแล้วผมจะอยู่ให้ได้ด้วยเงินแค่นั้น แต่พ่อก็ถามว่าพอไหม ถ้าไม่พอจริงๆ เราถึงจะขอ
ผู้หญิงในอุดมคติ
ชอบผู้หญิงทุกแบบเลยครับ (ยิ้ม) ไม่ได้มีสเปกว่าต้องผมสั้นผมยาว ชอบผู้หญิงที่เป็นตัวของเขาเองกล้าคิดกล้าทำกล้าแสดงความคิดเห็น แล้วก็เป็นคนที่ดูแลตัวเองได้ ผมไม่ชอบคนที่ดูแลตัวเองไม่ได้ และต้องดูแลเราได้ด้วยนะ ถ้าเป็นแฟนกันมันไม่ใช่แค่ฝ่ายเดียวที่คอยดูแล แต่ทั้งคู่ต้องดูแลกันและกัน แล้วก็ต้องรักครอบครัวเราด้วย ไม่งั้นก็จะเหมือนในละคร (ยิ้ม) เดี๋ยวจะดราม่าไปกันใหญ่
“My Girl 18 มงกุฎสุดที่รัก”ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลาสี่ทุ่ม ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24สำหรับคนที่เคยดูเวอร์ชั่นเกาหลีมาแล้วก็เปิดใจและลองมาดูเวอร์ชั่นนี้นะครับเพราะว่ามันไม่เหมือนและถูกปรับให้สนุกเข้ากับคนไทย มีฉากจิ้นฉากฟินและฉากถอดเสื้อของผมด้วย ฝากคอมเมนท์ด้วยนะครับ ถ้าไม่ชอบเดี๋ยวจะรีบปั๊มมาเพิ่มเรื่องหน้า
ชื่อ-สกุล : วรท มรรคดวงแก้ว
ชื่อเล่น : อาร์ม
วัน/เดือน/ปีเกิด : 20 มีนาคม 2537
ส่วนสูง : 183 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 75 กิโลกรัม
กรุ๊ปเลือด : A
การศึกษา : จบการศึกษาจากคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
งานอดิเรก : ออกกำลังกาย, เล่นเซิร์ฟ, เล่นดนตรี, ท่องเที่ยว,ขี่มอเตอร์ไซค์
ผลงานที่ผ่านมา : Kiss Me รักล้นใจนายแกล้งจุ๊บ,Missing (ออนแอร์ที่สิงคโปร์)
ผลงานปัจจุบัน : My Girl 18 มงกุฎสุดที่รัก, มหัศจรรย์รักข้ามกระดาษ
คติประจำใจ : You only live once
IG : @armvarot
กุหลาบสีเงิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี