คุ้นหน้าคุ้นตากันดีสำหรับ ตุ๋ย-นวลปรางค์ ตรีชิต นักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือ ที่มีผลงานให้แฟนละครติดตามอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าเธอสนุกและแฮปปี้กับการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ประหนึ่งว่าทุกงานที่ทำ คือความสุขที่มาเติมเต็มชีวิตในช่วงบั้นปลายของคนวัย 60 กว่าให้สมบูรณ์แบบ มาดูกันว่าอะไรทำให้เธอฟิตปั๋งได้อย่างทุกวันนี้ รวมทั้งเรื่องราวของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ที่เธอพร้อมอวดให้แฟนๆ ได้ทำความรู้จักแบบหมดเปลือก
อัพเดทหน้าที่การงาน
ตอนนี้มีละคร คุณย่าดอทคอม ออนแอร์ทางช่อง True4U ค่ะ แล้วก็กำลังจะเปิดกล้องของ PPTV เป็นละครรีเมคของจีน “เป้-อารักษ์” เป็นพระเอก และ “โม-มนชนก” คือนางเอก ตุ๋ยเล่นเป็นแม่เป้ ส่วนธุรกิจตอนนี้ก็มีร้านทำเล็บที่เป็นเจ้าของร้านเอง At Nailชั้น M เอสพลานาด รัชดา ก็เข้าไปดูแลบ้างแล้วแต่วัน หาอะไรทำแก้เบื่อไปค่ะ
ผลงานต่อเนื่อง
ตุ๋ยเล่นละครมาตลอดต่อเนื่องเรื่อยๆ นะ แต่ไม่ได้มีเยอะ ปีหนึ่งอาจจะมี 1-2 เรื่อง บางปีไม่มีเลย หรือปี เว้นปี ไม่ใช่ว่าไม่รับเล่นนะคะ แต่เห็นเขาบอกว่าบทของตุ๋ยหายาก คือต้องเล่นเป็นไฮโซ เล่นเป็นคนรวย แล้วละครพวกนี้ก็ไม่ได้มีบ่อยๆ เล่นเป็นคนจนเขาก็ว่าไม่จน ซึ่งก็ฟังดูดีนะ เขาว่าเรารวย (หัวเราะร่วน) ส่วนในเรื่องคุณย่าดอทคอม เหมือนไมได้เล่นละคร เพราะเป็นตัวเรา คือในคุณย่าหกคน รู้สึกว่าแหม่ม-เทพยุดา จะเป็นคนหาคาแร็กเตอร์ให้แต่ละคนเข้าตัวมากๆ เล่นแล้วเหมือนไม่ได้เล่น เช่น สมมุติเราพูดว่า ฉันไม่ได้นัดผู้ชายไว้หรอก เพราะถ้านัดไว้นะฉันแต่งตัวสวยกว่านี้ย่ะ ซึ่งก็เหมือนเป็นตัวเราเอง ไม่ต้องเล่นเยอะ สนุกดี
ย้อนเส้นทาง งานบันเทิง
ตอนนั้นไปประกวดนางงาม ซึ่งเป็นนางงามที่ตกรอบ (ยิ้ม) ไม่ได้ตำแหน่งอะไร แต่พอมีแมวมองมาเห็นเรา ก็ให้ไปถ่ายปกหนังสือก่อน ตั้งแต่นิตยสารต่างๆ แล้วก็มาเป็นนางแบบเดินแฟชั่น แล้วก็มาเล่นละคร บทส่วนใหญ่ที่เล่นถ้าเป็นนางเอกก็จะได้บทนางเอกที่ไม่ได้เรียบร้อย เป็นนางเอกที่เปรี้ยว เช่น กุหลาบไร้หนาม แล้วตัวที่เล่นก็ต้องเป็นคาแร็กเตอร์นักเรียนนอกมีความเชื่อมั่นในตัวเองประมาณนั้น ก็ทำงานถ่ายหนัง ถ่ายละคร ถ่ายแบบไปสักพัก พอแต่งงานก็หายไปอยู่เมืองนอก 14 ปี แล้วก็กลับมาตอนอายุ 39 ปี แล้วก็เริ่มมีละครบ้างประปรายอย่างที่เห็น ไม่ได้หายไปไหน แต่ก็ไม่ได้มีถี่
แฮปปี้กับทุกงานที่ผ่านมา
มากนะคะบอกเลยว่าแฮปปี้ตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ ใครเขาบอกมันคือมายา แต่ตุ๋ยจะบอกนะว่าทุกวงการก็คือมายาทั้งนั้นแหละ อยู่ที่ว่าวงการนี้เป็นวงการที่คนสนใจ เป็นพระเอกนางเอกหรือเป็นตัวไหนๆ ก็เป็นเรื่องที่คนอยากขุดคุ้ย แต่ทุกวงการก็เหมือนละครนั่นแหละ คนจริงใจและไม่จริงใจก็มีปะปนกันไป
ความทรงจำกับอาชีพที่ภาคภูมิใจ
ทุกวันนี้ตุ๋ยมีความรู้สึกว่าประชาชนเขาจำเราได้ เขาก็จะเวลคัมเรากับวงการอื่นๆ ด้วยนะ สมมุติว่าคุณไปเป็นซีอีโอของบริษัทนี้ คุณก็จะใหญ่เฉพาะในออฟฟิศของคุณ แต่ถ้าเป็นดารานักแสดง อยู่ตรงไหนคนก็จะเปิดรับ ให้โอกาส เดี๋ยวทำให้ก่อน เหมือนเขาปลื้มเรา ตุ๋ยชอบน่ะ แฮปปี้ แต่ไม่ใช่ในเชิงว่าได้สิทธิพิเศษอะไรนะคะ แต่มันเป็นความรู้สึกดีที่แบบไปไหนมีคนจำเราได้เรามีความรู้สึกว่าเราภูมิใจนะ อย่างบางทีตุ๋ยไปไหนก็จะลืมไปว่าเราเป็นดารา ก็แหกปากทำกิริยาไม่งาม (หัวเราะ) ก็ต้องสำรวมระมัดระวัง วางตัวให้ดี ไปไหนมาไหนก็ต้องแต่งตัวให้คนเขามองว่า นวลปรางค์ยังดูดีนะ นอกจากว่าบางวันที่เราขี้เกียจจริงๆ ก็ใส่หมวกปิดแมส คือก็อยากให้เขาเห็นเราในสภาพสวยๆ น่ะ เห็นเราแล้วดูดี เขาจะได้ไม่ผิดหวัง ซึ่งทุกวันแฟนละครเขาก็จำเรา
ได้ตลอด ก็เข้ามาทักทายบ้าง อย่างคนกรุงเทพฯ เขาก็จะมีท่านิดหนึ่ง มองๆ ยิ้มๆ แต่ถ้าไปต่างจังหวัดเขาก็จะซื่อๆ เข้ามาหา จับตัว โอ้ย..สวยจังเลย ยังเคยดูละครหนูอยู่เลย เราก็แซวขำๆ พี่ดูหนูก็คงใกล้ๆหนูแล้วล่ะ (หัวเราะ)
งานทุกอย่างตอนนี้ถือว่าเป็นงานอดิเรก
ใช่ค่ะ เพราะตุ๋ยจะไม่ค่อยทำงานหนักๆ แล้ว คิดว่าน่าจะรีไทน์แล้วล่ะ ทำน้อยหน่อย ให้มีสังคม ได้เจอเพื่อนฝูง มีอินคัมเข้ามาเป็นแบบเอ็กซ์ตร้าอะไรก็ว่าไป เพราะตอนนี้วางแพลนชีวิตไว้ว่า จากวันนี้จนถึงตายถ้าเราใช้เงินเป็น เราจะมีพอใช้จนจบชีวิตนะ กะไว้หมดแล้วชีวิตก็จะไม่กระเสือกกระสน ถ้าต้องมาทำงานหนักๆตอนอายุ 60 ปี ไม่ไหวมั้ง ฉะนั้นต้องวางแพลนตั้งแต่ต้นว่า ต้องสุขภาพดี มีเงินเก็บ แล้ว ณ วันนี้อยู่ไปได้สบายๆ ลูกชายเรียนจบอยู่เมืองนอก ไม่มีภาระอะไรให้ต้องห่วง
ทุ่มเทดูแลตัวเอง
ชีวิตต่อจากนี้ก็จะเป็นอะไรที่สบายๆ ดูแลตัวเองออกกำลังกาย มีละครก็เล่น ไม่มีก็ออกมาเจอเพื่อนกินข้าวกับเพื่อนฝูง แล้วก็ต้องเลือกเพื่อนว่าให้อยู่ในระดับเดียวกับเรา เพราะว่าบางคนไปวัดตื่นตีห้า ตุ๋ยก็ไม่เอานะ แต่คนนี้ชอบกิน โอเคไป คนนี้ไม่คุยเรื่องหนักสมองฉันชอบ ไปออกกำลังกาย แต่งตัวสวย กินข้าว ไปส่วนไปวัดนี่ก็รองลงมานิดหนึ่ง ไปได้เหมือนกันค่ะ (หัวเราะ) หรือวันไหนก็แวะเข้าร้านทำเล็บบ้าง ไปเสนอหน้าวันละชั่วโมงเพราะก็อยู่แถวบ้าน คนวัยนี้แล้วน่ะก็พักผ่อนหาความสุขให้ตัวเองให้มากที่สุด
ชีวิตครอบครัว
อดีตสามีเสียชีวิตแล้วค่ะ ลูกชายก็อยู่ซิดนีย์ อายุ 30 ปี กำลังจะแต่งงาน ส่วนตอนนี้ตุ๋ยอยู่กับครอบครัวของตุ๋ยที่บ้าน ซึ่งคุณแม่อยู่ชั้น 1 ตุ๋ยอยู่ชั้น 2 น้องชายอยู่ชั้น 3 น้องสาวอยู่ชั้น 4 ซึ่งบ้านมี 5 ชั้น ก็แบ่งกันอยู่ เหมือนอยู่คอนโด แต่ก็อยู่ด้วยกันค่ะ แฮปปี้ดี
ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
เขาก็มีแพลนที่จะกลับมาอยู่เมืองไทยในอีก 2 ปีนะคะ ตอนนี้เขาก็ทำงานไปเรื่อยๆ ก่อน เป็นวิศวกรอยู่ที่นู่น เราก็บอกเขาแหละว่ายังไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องกลับมา เพราะม่ามี้กับคุณยายยังแข็งแรง ยังเดินทางไปหาลูกได้ ถ้าลูกอยู่ที่นี่ ลูกจะเหนื่อยในการที่ยูจะต้องตื่นตีห้า เพื่อที่จะต้องไปถึงที่ทำงาน 8 โมง รถติดเสียเวลา แต่ถ้าจะให้กลับมาแล้วพาเข้าวงการบันเทิง ลูกตุ๋ยก็คงไม่ได้หล่อพอ (หัวเราะร่วน) งั้นก็เลยคิดว่าไปเป็นวิศวะอยู่เมืองนอกก็โอเคแล้ว เพราะถ้าอยู่ในวงการบันเทิง ถ้าดังก็รอด แต่ถ้าเข้ามาครึ่งๆ กลางๆ ก็ไม่เอาดีกว่า และใช่ว่าจะเมคมันนี่ได้เท่าไหร่ แล้วเขาเรียนจบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งปริญญาตรี ปริญญาโท ด้านวิศวกร ที่ซิดนีย์เลยนะก็เลยบอกเป็นวิศวะอยู่ที่นู่นละดีแล้ว เงินเดือนตกเดือนละสองแสน แฮปปี้ แต่มันก็มีโมเม้นท์เคยคิดนะว่าอยากให้เข้ามา แต่แค่อยากอวดลูกเฉยๆ ว่าลูกชายฉันก็หน้าตาดีระดับหนึ่งนะ (หัวเราะ) เท่านั้นแหละ แล้วถ้าเขากลับมาก็อยากให้คนไปสัมภาษณ์บ้าง ฉันอยากอวดแค่นี้ (หัวเราะ)
แม่ในแบบฉบับแม่ตุ๋ย
ตอนนี้ก็แก่เกินที่จะเป็นแม่แล้วล่ะ ก็เหมือนเป็นเพื่อนกันแล้ว คุยกันแบบตรงๆ ซึ่งตอนเด็กก็เป็นคุณแม่อีกแบบหนึ่งนะ พอโตขึ้นแล้วเรารู้ว่าเขาเอาตัวรอดได้แล้ว ก็จะไม่เข้าไปจุกจิก แต่ตอนนี้ที่เป็นห่วง ก็คือสุขภาพ ออกกำลังกายบ้างนะ กินอาหารที่มีประโยชน์ ทุกวันนี้ก็เลยเหมือนเพื่อนเขาค่ะ เพราะเขาก็มีแฟนที่คอยดูแลแล้ว เดี๋ยวก็กลับมาแต่งงานกัน หายห่วง ไม่มีภาระอะไรแล้วค่ะ
พอแล้วกับชีวิตบั้นปลาย
ไม่อยากทำอะไรแล้วค่ะ ไม่อยากเครียด อยู่เฉยๆไม่เครียดดีกว่า เพราะเราแก่แล้วถ้าล้มก็จะรับไม่ค่อยได้ ฉะนั้นก็ไม่ทำเลยดีกว่า ส่วนงานเบื้องหลังการทำละครก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะทำ เพราะไม่น่าจะใช่ทางของเรา แล้วอีกอย่างเรามีความรู้สึกว่าศักยภาพของคนที่มาทำละคร หนึ่งเลยนะยูต้องแบบทนแรงกดดันได้นะ แล้วถ้าทำมาเกิดไม่ดังคนอื่นทำมาดังก็เสียความรู้สึก และต้องใช้เงินเยอะควักเยอะๆ ก็ไม่ไหวนะ (ยิ้ม) ก็เลยเลือกที่จะไม่ทำอะไรเกินตัว แล้วหันกลับมาดูวัยตัวเองด้วยว่าเราทำได้แค่ไหน ถ้าเราไปหวังในสิ่งที่ทำไม่ได้ก็ทุกข์เปล่าๆ เราก็หวังในสิ่งที่เราทำได้ เราก็จะมีความสุข อยากจะไปไหนก็ไปเลย อยากจะไปหาลูกก็ซื้อตั๋วบินไปเลย ละครนานๆมีเล่นก็แฮปปี้ ไม่มีอะไรต้องทุกข์ใจ แต่จะทุกข์เรื่องไร้สาระ โดนภาษีเยอะจังทำไมคิดฉันเยอะขนาดนั้น เงินก็ไม่ได้เยอะมากมาย คิดซะเยอะเลย เสียดายตังค์ค่ะ(หัวเราะ)
อุปสรรคชีวิต ที่ก้าวข้ามผ่าน
คือจะมาบอกว่าชีวิตนี้ฉันเพอร์เฟกท์ไปหมดก็เป็นไปได้หรอก คนรวยเขายังมีสารพัดปัญหาเลย ตุ๋ยก็มีเหมือนกัน ปัญหาใหญ่สุดในชีวิตก็เจอมาแล้ว เมื่อก่อนมีความกังวลเยอะมาก ตอนนั้นคือคิดว่าเจอปัญหาหนักแล้วนะ ตอนโดนสามีทิ้ง เสียใจมาก ไม่คิดว่าจะต้องขายบ้าน ขายทุกอย่างแล้วกลับมาไทย แต่โชคดีกลับมาก็มีละครติดต่อมาให้เล่นเรื่อยๆ พอย้อนกลับไปคิดนะ ตอนนี้สบายจะตาย รู้แบบนี้ทิ้งเขาก่อนตั้งนานแล้ว ไม่ต้องรอให้เขาทิ้ง ถ้ารู้ว่าชีวิตมันดีแบบนี้ (หัวเราะ)แต่อย่างที่บอก แต่ละช่วงวัย ความคิดมันก็จะคิดไม่เหมือนกัน แล้วพอตอนนี้ย้อนกลับไปก็ตลกดีเออไปนั่งทุกข์อยู่ทำไม (ยิ้ม)
สิ่งที่ขับเคลื่อนให้เดินต่อ
เวลาค่ะ เวลาจะทำให้เราดีขึ้น และเรามีลูก ฉะนั้นถ้าเราหาเงินไม่ได้ ลูกเราจะทำยังไง ก็เหมือนเป็นการผลักดันให้เราต้องสู้ไปโดยปริยาย ก็ต้องเอาชีวิตให้รอด ซึ่งวิธีคิดของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ตุ๋ยก็เลือกที่จะพาลูกกลับมาไทยตั้งแต่เขาอายุ 7 ขวบ จนตอนนี้เขา 30 ปีละ ก็ถือว่ารอด และรอดแบบดีด้วย เลยมองย้อนกลับไปว่า ตอนนั้นจะไปทุกข์ทำไม กินข้าวไม่ลงจะบ้าหรือเปล่า ตอนนี้เวลาเจอใครที่มีปัญหา ตุ๋ยจะสอนให้เขาสู้นะ เพราะทุกคนต้องใช้เวลา เพียงแต่ว่าถ้าคุณล้มแล้วคุณใช้เวลานานเท่าไหร่ในการที่จะลุกถ้าลุกช้าก็เริ่มใหม่ช้า ก็อยู่ที่เรา อยากจะลุกเร็วเราก็ต้องทำให้เร็ว ขึ้นอยู่ที่เราทำตัวเอง บางคนไม่มีกะจิตกะใจเงินน้อยเงินมากทำไว้ก่อน ไม่มีใครหรอกที่จะแฮปปี้กับชีวิตได้ตลอด
สุขภาพแข็งแรงฟิตปั๋ง
ตุ๋ยเป็นคนที่เห็นแก่กินมาก เพราะฉะนั้นถ้าเห็นแก่กินก็ต้องออกกำลังกาย ถ้าไม่ออกกำลังกายก็จะกินแบบไม่มีความสุข โรคภัยก็มีอยู่แล้วตามวัยของคนแก่ เช่น คอเลสเตอรอล น้ำตาล ก็ดูแลเท่าที่ดูแลได้ ไม่ต้องถึงกลับเครียดมาก ไอ้นั่นก็กินไม่ได้ ไอ้นี่ก็กินไม่ได้ ซึ่งตุ๋ยจะออกกำลังกายทุกเช้า โยคะหนึ่งชั่วโมงเย็นเดินอีกหนึ่งชั่วโมงจะได้กินได้สามมื้อ ส่วนโรคที่มากับกรรมพันธุ์หรือความแก่ก็ต้องทำใจ แต่เรื่องออกกำลังกายของตุ๋ยจะติดเป็นนิสัยมาเกือบ 20 กว่าปีแล้ว ถ้าวันไหนไม่ได้ออกกำลังกายก็เหมือนตื่นมาไม่ได้กินข้าวน่ะ
แฟชั่นสุดแซ่บของวัย60
ตุ๋ยเป็นคนไม่ยอมแกนะ อยากนุ่งขาสั้นก็จะนุ่งแต่ก็จะโดนลูกว่า ทำไมม่ามี้แก่แล้วยังนุ่งขาสั้นอยู่ คือฉันออกกำลังกายมาก็อยากจะแต่งตัวสวยๆ บ้าง ลูกชายก็จะบอกว่าแต่งตัวไม่เรียบร้อย (หัวเราะร่วน) แต่เราก็จะแต่งในสไตล์เราที่ไม่ได้น่าเกลียด ก็ต้องดูแลตัวเอง เอาที่เราแฮปปี้ ตุ๋ยเป็นคนที่การพนันไม่เล่น บุหรี่ไม่สูบ สามทุ่มนอน เที่ยวกลางคืนก็ไม่ แล้วจะให้ฉันเอาตังค์ไปใช้อะไร ถ้าไม่กินกับช็อปปิ้ง ชีวิตโอเคแล้ว
อัพเดทสเตตัสหัวใจ
ตอนนี้ก็ไม่ได้ปิดกั้นอะไรนะคะ แต่เวลาคนมาจีบ ฉันคิดว่าฉันเก่งกว่า เงินฉันก็มีมากกว่า แล้วฉันก็คิดว่าฉันฉลาดกว่า เวลาคุยอะไรแล้วไม่เข้าท่า คบแล้วก็ไม่ใช่ ก็อยู่กับเพื่อนดีกว่า แฮปปี้ดีทุกอย่าง ไม่ได้รู้สึกว่าขาด อยู่กับแก๊งเพื่อน กิน เที่ยวเล่น คุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่เอาใครมาด่า เรียกว่าเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย แล้วสี่คนมีสามีแค่คนเดียวคือ แหม่ม-เทพยุดา นอกนั้นโสด เลยได้คุยกันแบบไม่ต้องรีบกลับบ้าน นั่งกันไปเรื่อยๆ ชิล ซึ่งเป็นชีวิตที่ไม่ต้องตะเกียกตะกายที่จะมีนู่นมีนี่มีนั่นนี่ คือพอแล้วสมบูรณ์แบบละชีวิตนี้ เพราะถ้าให้คะแนนชีวิต ณ วันนี้ ก็ เก้าเต็มสิบค่ะ (ยิ้ม)
ทิ้งท้ายถึงแฟนๆ ที่ติดตาม
อยากขอบคุณแฟนๆ ทุกคน ที่เข้ามาทักทาย คุยด้วย บางคนก็จะเข้ามาทัก บางทีเราก็งงๆ เคยเจอที่ไหนนะ ก็ต้องเข้าใจนะคะ เราหกสิบแล้ว ก็หลงลืมไปบ้างเพราะเราเจอผู้คนเยอะ หรือถ้าเข้ามาบอกว่าเจอที่ไหน ก็ดีใจมากแทบจะก้มลงกราบ เพราะเขาย้อนให้เรานึกได้ ไม่งั้นต้องคิดไปอีก 4 ชั่วโมงถึงจะคิดออกค่ะ(หัวเราะ)
การได้นั่งคุยกับเธอ ทำให้เราทราบถึงข้อดีหลายๆ อย่าง ของการใส่ใจสุขภาพ และการวางรากฐานทางการเงินให้กับชีวิต เพราะเมื่อถึงวัย 60 ใบหน้าก็จะอิ่มไปด้วยความสดใสร่าเริง เหมือนเธอคนนี้ ตุ๋ย-นวลปรางค์ ตรีชิต!!
กุหลาบสีเงิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี