เพราะความหลงใหลในเสียงดนตรี ทำให้ ออมสิน-สุธินันท์ ทางธรรม ได้เดินตามฝัน เข้าสังกัดค่ายสไปร์ซซี่ ดิสก์ (Spicy disc) พร้อมปล่อยเพลง “คืนโหดร้าย” เพื่อแนะนำตัวเองกับแฟนเพลง
Feedbackเพลง “คืนโหดร้าย”
ดีใจที่หลายๆ คนชอบกันครับ เพลงหม่นๆ แต่ย่อยง่าย เข้าใจง่าย คือแนวเพลงของผม จะเป็นดนตรีโฟล์ค (Folk music) แต่ผมบัญญัติให้เป็นโมเดิร์น-โฟล์ค คือ มีโฟล์คที่ค่อนข้างจะทันสมัยหน่อย โฟล์คก็คืออะคูสติก (Acoustics) แล้วผมก็เอามาผสมผสานกับเครื่องไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ แล้วซาวนด์ (Sound) ก็จะเปลี่ยนไปให้เรารู้สึกถึงบรรยากาศมากขึ้นครับ
แรงบันดาลใจในการแต่งเพลง
เนื้อหาของเพลง “คืนโหดร้าย” และเหตุการณ์ที่ผมแต่งเพลงนี้ คือที่บ้านไฟดับ แล้วผมก็ต้องหาเทียนแต่ผมก็หาเทียนไม่ได้ ผมก็รู้สึกว่าเทียนมีความสำคัญในวันที่เราต้องใช้นะ คือในวันที่มันไม่มีแสงสว่างเลย เสร็จปุ๊บผมก็เลยรู้สึกว่าเอาอันนี้ไปแต่งเพลงดีกว่า แล้วเอามาเบนเข้ากับความรักดีไหม ก็เลยลองดูโดยการเปรียบเหมือนตัวเราเป็นเทียน แล้วเปรียบให้ความรักเป็นเหมือนแสงสว่าง เป็นไฟดีกว่า ถ้าเทียนมีไฟมันก็จะมีคุณค่าขึ้นมา แล้วไฟก็มีทั้งข้อดีข้อเสียมันให้แสงสว่าง แต่สุดท้ายก็หลอมละลายเทียนให้หายไปพอมันดับไปปุ๊บมันก็จะอยู่ในคืนที่โหดร้าย ประมาณนี้ครับ บวกกับประสบการณ์ความรักส่วนตัวที่ก็เคยเจอกับความโหดร้ายบ้าง (หัวเราะร่วน) คือในช่วงที่แต่งเพลงนี้ผมแค่จินตนาการว่าถ้าผมเป็นคนที่ผิดหวังในความรัก ผมจะรู้สึกอะไรยังไง แต่พอแต่งเสร็จปุ๊บผมก็มีโอกาสที่จะเข้าไปสัมผัสกับความรู้สึกนั้นบ้าง มีบ้างที่ผิดหวังในเรื่องความรัก ก็เลยยิ่งอินครับ
ร่วมงานกับปรมาจารย์ชั้นครู
เนื้อเพลงนี้ที่ผมแต่ง มีทั้งหมด 5 เวอร์ชั่นครับซึ่งผมเสนอพี่ก้อ-ณฐพล ศรีจอมขวัญ เป็นโปรดิวเซอร์ให้ผมในเพลงนี้ แล้วพี่ก้อก็แนะนำให้ผมไปหาพี่บอย-ตรัย ภูมิรัตน์ ซึ่งผมโชคดีมากที่ได้ร่วมงานกับนักแต่งเพลงที่เก่งๆ มีคุณภาพของประเทศเรา แล้วพี่บอยก็ช่วยขัดเกลา ตัด เสริม เติมแต่ง ให้เป็นเพลง คืนโหดร้าย ที่ได้ปล่อยให้ทุกคนได้ฟัง ซึ่งผมรู้สึกว่าลงตัวมากครับ
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากปรมาจารย์
หูย…เยอะเลยครับ เรื่องของการทำงาน เรื่องของการทำหน้าที่ของการเป็นศิลปิน โดยหลักๆ เลยจะเป็นเรื่องของการทำงานเบื้องหลัง Production ที่เราจะเริ่มแต่งเพลงยังไงจนกระทั่งมาถึงกระบวนการของการเข้าห้องอัด ว่ามีขั้นตอนยังไงแล้วเราต้องทำอะไรบ้าง เราต้องเตรียมตัวยังไง เหมือนผมเข้าไปเรียนปริญญาใหม่เลย แม้ว่าผมจบด้านดนตรีมากก็เถอะ คือผมจบจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เอกดนตรีศึกษา ดนตรีสากล แต่ว่าความรู้ที่ผมได้จากพี่บอย พี่ก้อ ผมไม่ได้เรียนมาจากมหาวิทยาลัย เป็นการทำงานจริงของ Professional ซึ่งผมก็ได้ไปเรียนรู้จากตรงนั้นดีมากๆ เพราะสิ่งที่เราเรียนมากับการเจอประสบการณ์จริงจะแต่งต่างกันมากนะครับ เพราะจริงๆ เรื่องของดนตรีที่เราเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยทุกอย่างที่เป็นทฤษฎีไม่สามารถเอามาใช้ได้หรอก ของจริงจะมีเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึกที่เราถ่ายทอดออกไป บางทีโน้ตอาจจะไม่ต้องถูกต้องตามหลักทฤษฎี แต่ว่ามันสื่อความรู้สึกของเนื้อเพลงที่เราเขียน สิ่งที่เราจะสื่อออกไปก็ใช้ได้เหมือนกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากมากที่เราไม่สามารถเรียนรู้ได้จากการเรียนทฤษฎี ฉะนั้นเรื่องของการสั่งสมประสบการณ์ในการทำงานจริงๆ สำคัญมากกว่านะผมว่า ซึ่งผมก็ได้เรียนรู้จากคนที่มีประสบการณ์มากๆ เลยทั้งสองท่าน เรียกว่าเป็นความโชคดีมากๆ ของผมเลยครับ
กว่าจะคลอดเป็นเพลง
ใช้เวลาในห้องอัดที่เป็นพาร์ทดนตรี 1 วัน ส่วนร้องก็ 1 วัน เพราะเราอัดเครื่องดนตรีหลายชิ้น เริ่มจากกลอง กีตาร์ คีย์บอร์ด แล้วก็มาอัดร้องทีหลัง ก็เลยจะค่อนข้างใช้เวลานิดหนึ่งครับ
MV ตอกย้ำอารมณ์เพลง
MV ไปถ่ายที่จังหวัดน่าน ขึ้นไปถ่ายที่ดอยผาผึ้ง แล้ววันที่ไป 8 องศา หนาวมาก สวยมาก ซึ่งเราก็ต้องไปตั้งแต่เช้ามืดเพื่อรอถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นจะได้ความรู้สึกของการผ่านคืนโหดร้ายไปแล้วก็จะได้เจอกับแสงสว่าง ที่ที่เราไปถ่ายสวยมากแล้วนางเอก MV สวยมากนะครับ (หัวเราะร่วน) คือช้อยส์หลักอย่างแรกที่อยากได้ผู้หญิงมาเป็นคนถ่ายทอดอารมณ์เพราะหนึ่งเลยผู้หญิงเป็นเพศที่Emotional ที่ชัดเจน แล้วผู้หญิงก็จะมีความที่แบบถ่ายทออดความโหดร้ายออกมาได้ดีทำให้คนอินได้มากกว่า ถ้าเป็นผู้ชายมานั่งเศร้าคนก็อาจจะไม่ค่อยจะสงสารเท่าไหร่ (หัวเราะร่วน) ก็อยากให้ทุกคนเข้าไปดูเยอะๆ แล้วก็เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
หลงใหลในเครื่องดนตรี
ผมเล่นหลายอย่างครับ ถ้าคนที่เคยดู Performance ของผม ซึ่งผมจะเล่นเครื่องดนตรี 3 ชิ้นคนเดียว แล้วก็ร้อง ก่อนที่จะมาทำแบบนี้ ย้อนไปไม่นานครับ น่าจะ 5 ปี ที่ฝึกฝนและเอาทุกอย่างมารวมกันได้แบบนี้ คือผมจะร้องเพลงแล้วดีดกีตาร์ส่วนเท้าขวาผมจะเล่นกลองใหญ่ (Bass Drum)เท้าซ้ายผมจะเล่นเครื่องเคาะจังหวะ แทมโบริน(Tambourine) คือคนก็จะถามว่าเราแยกประสาทยังไง จริงๆ แล้วผมเป็นคนที่ชอบดนตรีมาก แล้วผมเรียนเอกกลองชุด ซึ่งผมจะได้พื้นฐานการแยกประสาทจากตรงนั้น แล้วบวกกับสมัยเด็กผมชอบร้องเพลงเล่นกีตาร์กับเพื่อนๆ ผมก็เลย เฮ้ย…ลองเอามารวมกันดูสิจะออกมาเป็นยังไง ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ (หัวเราะร่วน)
โมเม้นต์หลงรักดนตรี
ผมเริ่มเล่นกีตาร์มาตั้งแต่ตอนประถม 6 ตอนนั้นไม่ได้เล่นเก่งนะ เล่นเอาสนุก ชอบที่จะเล่น แต่พอนานๆ ไปก็เริ่มจะจริงจังหาเครื่องดนตรีสักอย่างที่จะจริงๆ จังๆ กับมันได้โดยที่เรารู้สึกเล่นกับมันแล้วจะไม่เบื่อ ซึ่งสิ่งนั้นก็คือกลอง แล้วจำความได้ว่าที่บ้านบอกตอนผมอายุ 3 ขวบ ผมเอาถังน้ำมาตั้งแล้วก็ตี คือเราเห็นจากทีวี.แล้ว เฮ้ยดูเท่จัง ก็เลยรู้สึกว่าก็ลองไปฝึกดู แล้วพอไปฝึกปุ๊บก็เรียนรู้ได้เร็วกว่าเพื่อนที่เรียนด้วยกัน ก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าเอ๊ะเราน่าจะมีอะไรสักอย่างในเครื่องดนตรีชิ้นนี้ ก็เลยเล่นมาตลอดจนกระทั่งสอบเข้ามหาวิทยาลัย แล้วก็เลยเล่นเครื่องดนตรีชิ้นนี้เป็นเครื่องมือเอก เป็นสิ่งที่ชอบที่สุด และก็อยากจะมีเพลงของตัวเองโดยที่ตัวเองร้องเพลง แต่งเอง ทำเองก็เลยต้องจับทุกอย่างมาทำเองครับ ด้วยความที่ผมเป็นคนที่ซนๆ ด้วยแหละ เวลาเห็นเครื่องดนตรีอะไรแล้วก็อยากจะเข้าไปจับไปลอง เครื่องดนตรีชิ้นไหนจะเพิ่มเติมเข้ามาก็ต้องรอดูครับ ถ้าเป็นไปได้นะครับ
งานด้านอื่นๆ
ก่อนหน้านี้ก็ทำเบื้องหลังพวกเพลงโฆษณาให้สินค้าต่างๆ มาพอสมควรแต่อาชีพหลักๆ ผม ณ ปัจจุบันคือเป็นครูสอนดนตรีที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ผมเรียนจบเอกครูดนตรี
ฝากเพลงให้แฟนๆ ติดตาม
ฝากเพลงคืนโหดร้าย ของผม ออมสิน ด้วยนะครับ เป็นศิลปินน้องใหม่จากค่าย Spicy Disc ซึ่งเพลงสามารถดาวน์โหลดได้ทุกสตรีมมิ่ง มี MV ใน YouTube Channel ของ Spicy Disc แล้วก็ติดตามอัพเดทผมได้ที่เพจ Aomsinofficial และ Spicydiscrecord สามารถเข้าไปติดตามผลงานของผมทางนี้ได้เลยครับ
ลูกหมู
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี