จากเด็กบ้านๆ ที่ต้องการนำเสนอความเป็นตัวเองผ่าน Facebook ด้วยสไตล์และทัศนคติที่ไม่เหมือนใครจนกลายเป็นขวัญใจใครหลายคน แม้ไม่ได้สนใจในการร้องเพลงมาตั้งแต่แรกแต่จุดเปลี่ยนคืออยากลองทำในสิ่งที่ไม่ชอบจนกลายเป็นสิ่งที่ใช่จนวันนี้ทำให้เธอกลายเป็นสาวน้อยร้อยล้านวิว“เนสกาแฟ ศรีนคร” หรือ “รัตติยา อรุณศรี” ศิลปินอินดี้อีสานสังกัดค่าย “เออน่า เรคคอร์ด” ส่งตรงจาก อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งล่าสุด “สาวเนสกาแฟ” เดินสายเข้าเยี่ยม“ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” โปรโมทซิงเกิ้ลเพลงใหม่ล่าสุด “เธอมันก็แค่ของเก่า” ที่ถูกปล่อยออกมาเพียงแค่ 1 เดือน ยอดวิวก็พุ่งทะยานสู่ 30 ล้านวิว พร้อมเปิดใจเล่าถึงที่มาที่ไปกว่าจะเป็นนักร้อง 100 ล้านวิวกับเรื่องราวครบรสในชีวิตให้ทีมข่าวฟังกันว่า
โดย เนสกาแฟ เล่าว่า ตอนเด็กไม่ได้ซึมซับความเป็นหมอลำมาจากพ่อเลย ไม่ชอบและรู้สึกว่ายากมากกับการที่จะเปล่งเสียงร้องเพลงแค่เอ่ยปากคุยกับคนอื่นยังยากมาก เดิมทีเป็นคนร้องเพลงเพี้ยนและไม่ตรงจังหวะ พอมาวันหนึ่งรู้สึกว่าอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองอะไรที่ไม่ถูกใจลองดูก็ไม่เสียหาย จึงไปหันร้องเพลงก็ไม่ตรงจังหวะเหมือนเดิมแต่ก็ไม่เคยท้อ คิดว่าสักวันหนึ่งถ้ามันไม่ใช่ก็เปลี่ยนความคิดของตนทั้งแต่แรกคืออยากนำเสนอภาษาอีสานที่เป็นภาษาท้องถิ่น ไม่อยากทิ้งและอยากนำเสนอให้คนได้รู้ จริงๆ สนใจแนวเพลงอื่นแต่ตนอยากทำทุกอย่างเป็นผสมผสานอาจจะมีคำร้องเป็นภาษาอังกฤษบ้างแต่คำอีสานก็ไม่หายไปหรือไม่ว่าจะร้องเพลงอะไรก็จะสอดแทรกคำอีสานเข้าไปหรืออย่างเพลงล่าสุดเธอมันแค่ของเก่าที่มีการครีเอทใส่ท่อนแร็พมาใส่ด้วย
สิ่งที่ทำให้คนมาติดตามตนยึดความเป็นตัวของตัวเอง ไม่เคยคิดถึงความดังคิดแค่ว่าก็เล่น facebook เหมือนคนทั่วไปแต่เป็นตัวเองมากที่สุด ชอบที่จะนำเสนออะไรที่ไม่เหมือนคนอื่นอย่างคำพูดที่ยอมรับเลยว่าเป็นคนพูดตรงและแรงใช้ภาษาอีสาน แนวคิดอาจจะต่างจากคนอื่นและเลี้ยงไก่ชน ตนจะชอบเตือนวัยรุ่นว่ากำลังโตแล้วนะโดยที่พูดในภาษาของตน ทำให้คนใน Facebookให้ฉายาว่ากำนันเพราะเป็นคนที่ชอบบ่นและชอบสอนไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่งแค่คิดอย่างไรก็พูดออกไปแบบนั้นเลยทำให้มีผู้ติดตามมากขึ้น ไลฟ์สดแรกจำได้ว่านั่งแต่งหน้าไปบ่นไปคนก็จะถามว่าไปหัดแต่งหน้าจากไหน ตนก็จะบอกว่าแต่งหน้ามันไม่มีขอบเขต คิ้วไม่เท่ากันก็ช่างมันแต่งแล้วสวยในตัวเองก็พอแล้ว
ตอนแรกก็ตกใจมีคนติดตาม 8 หมื่นคนมีคนเข้ามาดูไลฟ์สด 8 พันคนก็ตกใจว่ามายังไง ตนก็บ่นว่ามานั่งฟังอะไรบ่นเป็นชั่วโมงยอดคนดูเหลือประมาณ 7 พันคน ก็ยังถามว่าไม่ทำอะไรกันหรอไม่มีงานทำหรอเลยมานั่งดู เขาก็บอกไลฟ์บ่อยๆนะขอเป็นแฟนคลับอีกอย่างตนเป็นคนไม่ค่อยสนโลกถ้ามาด่ากลับไม่กลัว ตอนนั้นเป็นแค่หมอลำธรรมดาอย่างเจ้าภาพจ้างไปงานขึ้นบ้านใหม่แล้วแฟนคลับติดตามเยอะมากถ้างานแถวบ้านก็แค่ญาติ จนเจ้าภาพต้องบอกให้หยุดร้องและให้คนอื่นร้องบ้าง แล้วคนก็เริ่มติดตามมาตั้งแต่ตอนนั้น เพราะชอบนำเสนออะไรที่ไม่เหมือนคนอื่น นั่งกาดน้ำไก่ชนบ้าง ไปนั่งเล่นสุ่มไก่บ้าง ไม่ได้ห่วงเรื่องยอดไลค์เลย แค่อยากเสนอในสิ่งที่ชอบให้คนอื่นได้เห็นไม่ได้คิดว่าต้องเป็นเนตไอดอล คนก็จะชอบคิดว่าน้องเนสเนตไอดอล จนตนงงและต้องถามคนอื่นว่าเนตไอดอลคืออะไร เป็นคนดังหรอ? จนคนแถวบ้านมาขอถ่ายรูปเพราะบอกเป็นคนดังที่ลงในเพจต่างๆ ตนก็ไปดูและก็เห็นว่ามีคนติดตาม
หมอลำก็เคยเป็นมาแล้วจึงคิดว่าฉีกแนวหน่อยดีไหม จึงนั่งคุยกับตัวเองในกระจกและก็ปรึกษาพ่อ เพราะพ่อเป็นคนที่อารมณ์ศิลปินมากๆ เวลาที่ตนโมโหพ่อก็จะเป็นคนที่บอกให้ใจเย็นและค่อยๆ คิดแก้ปัญหา ค่อนข้างทะเลาะกับแม่ แม่ก็จะบอกว่าเป็นศิลปินไม่ได้ พ่อก็จะบอกว่าให้ลูกนำเสนอในสิ่งที่ต้องการ มันไม่มีอะไรเสียหายลูกไม่ได้ฆ่าใครตาย แม่จึงใจอ่อนยอมรับในสิ่งที่ตนต้องการนำเสนอ ตอนแรกแม่ไม่ยอมรับในเรื่องไก่ชนเพราะมันเป็นแนวทางของผู้ชาย แน่อยู่แล้วว่าตนเป็นสาวห้าว
เริ่มที่จะสนใจไก่ชนมาจากความรู้สึกที่รำคาญก่อนว่ามันจะขันอะไรหนักหนาแต่พอได้ไปคลุกคลี 2-3 วัน หลังจากนั้นก็ไปอยู่กับไก่ตลอด อยากลองเช็ดน้ำไก่บ้าง ให้อาหารไก่ และก็เรียนรู้มาเรื่อยๆ จนวันหนึ่งพ่อถามว่าทำไมถึงมีคนมาจ้างให้ไปถ่ายรูปกับไก่ชน ด้วยวัยที่กำลังใสๆ น่ารักซึ่งในตอนนั้นไม่มีใครเลยที่เป็นแบบนี้ อีกอย่างเป็นคนที่คลั่งไคล้ในรอยสัก จนสักรูปไก่ชนที่หน้าขาซ้ายก็ดังมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วเป็นผู้หญิงคนเดียวที่มีรอยสักรูปไก่ที่ขา จนมามีแฟนคลับที่เห็นว่าตนเป็นไอดอลในเรื่องของความคิด เรื่องการใช้ชีวิตและมีประสบความสำเร็จบ้างก็มีคนไปสักตาม
ตนดังแค่เฉพาะกลุ่มไม่เคยออกสื่อไม่เคยให้สัมภาษณ์ใครเลย มาเริ่มดังก็คิดว่าตนเป็นศิลปินหรือยังเพลงแรก 50 ล้านวิว เพลงที่สอง 100 ล้านวิวก็ตกใจกว่าเดิมยังคิดว่าโชคช่วยและยังฟัง
คำวิจารณ์จากหลายๆ คนมาและเก็บมาเป็นแรงบันดาลใจของตัวเอง ตอนแรกเครียดมากกับคำที่คนด่า เอาไปนั่งคิดนอนคิดอยู่ 3 วัน และก็คิดว่าต้องปรับตัวแล้วนะ เป็นคนที่ชอบเก็บรายละเอียดมาคิดจนกดดันและต้องเข้าโรงพยาบาลและได้กินยาระงับความเครียด จนมาคิดว่าไม่ได้แล้วนะมาถึงจุดนี้แล้ว ยิ่งสูงยิ่งหนาวมันคือเรื่องจริง อายุยังน้อยจะคิดมากทำไม ใครจะว่าอะไรเรื่องของเขา คิดแต่ว่าตอนนี้มาหาเงินและต้องการเลี้ยงพ่อแม่หลังงานนั้นก็มีงานมาตลอดส่งเงินกลับบ้าน สร้างบ้านใหม่เลย
คอนเสิร์ตแรกในชีวิตอยู่แถวบ้าน ตอนนั้นยังแต่งตัวคล้ายๆ “แม่บัวผัน ทังโส” เพราะชอบมากเป็นหมอลำซิ่งที่วัยรุ่นชอบมาก มีคอนเสิร์ตแรกก็ไม่รู้ว่าตัวเองดัง พอมีคนดูประมาณ 1,500 คน
ค่าตัวแค่ 1 หมื่นบาท งานที่สองที่อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร ก็ยังคิดว่าไม่มีใครรู้จักเราแน่ๆ ไปถึงต้องเรียกว่า วิกแตก คนมาดูมากว่า 2,000 คนเลยรู้สึกภูมิใจว่าคนร้องเพลงของตนได้หมด
มันทำให้น้ำตาคลอบนเวทีเพราะนี่มันเพลงที่ตนลงแรงเขียนด้วยตัวเองเริ่มมีงานจ้างพอถึงช่วงหน้าฝนคิวหมอลำก็เริ่มหด จัดคอนเสิร์ตอย่างเดียวสายแรกที่โทร.เข้ามาคืออาจารย์ประจักษ์ชัย ไหทองคําก็เรียกไปทัวร์คอนเสิร์ตด้วยกันกับ “ลำไย ไหทองคำ”และ “อาร์ม ชุติมา” ตนเป็นคนที่ไม่ได้ร้องแค่เพลงลูกทุ่งอีสานและตั้งแต่เป็นหมอลำ เพราะแม่บอกว่าการร้องเพลงไม่ใช่ยึดติดแค่ว่าหมอลำอย่างเดียวต้องทำให้คนอื่นสนุกสนาน ถ้าเขาสนุกนั้นคือความสำเร็จของศิลปิน เวลาเล่นคอนเสิร์ตก็จะเน้นสนุกสนานพูดคุยเป็นกันเอง เน้นสนุกก่อน แนวดนตรีจะลูกทุ่ง สตริงต้องได้หมด การเอนเตอร์เทนคนสำคัญบนเวทีก็จะตรงๆ ใช้กูใช้มึงไปเลย และก็มีคำกลอนหรือคำโดนๆ ก่อนเข้าเพลงไปมันก็เป็นจุดสำคัญ เล่น facebook มันต้องมีประโยชน์บางวันก็ถามคนที่ติดตามว่าอยากได้กลอนหรือแคปชั่นเกี่ยวกับอะไร หรือตั้งคำถามอย่างถ้าแฟนไปมีคนใหม่จะทำอย่างไร? คนก็จะมาคอมเมนท์ตนก็เอาไปแต่งเพลง
ความดังต้องเริ่มจากป่ารอบเมืองตอนนี้งานในกรุงเทพฯตนก็เยอะบางคนไม่รู้จัก “เนสกาแฟศรีนคร” แต่คนจะเยอะตลอด ตนไม่ได้ดังออกสื่อแต่ทุกอย่างลงตัวหมด ศิลปินอินดี้ที่ยืนอยู่ได้ 3 ปีซ้อน
มันยากมากที่จะไปเล่นคอนเสิร์ตระดับจังหวัด ศิลปินทุกคนหวังว่าจะได้ขึ้นคอนเสิร์ตระดับจังหวัด ซึ่งตนเป็นหนึ่งในนั้น เพลงที่เคยโคฟเวอร์ลงคือ“ลากิ” ตอนนี้ 70 ล้านวิว ตนก็ดังมาจากเพลงนี้ และคิดว่าตนยังสามารถไปทางนี้ได้ ถ้าคนไม่ชอบตนก็จะคุยกับพวกนักดนตรีแล้วก็ปรึกษากัน ถ้าตนไปได้พวกพี่ก็ไปได้ แต่ถ้าเราไม่พูดคุยกันมันก็จะไปต่อไม่ได้
ไอดอลของตนคือ แม่บัวผัน ทังโส แต่ถ้าเป็นเพลงสตริงชอบ “ดา เอ็นโดรฟิน” ชอบในตัวตนของพี่ดาเป็นผู้หญิงที่เท่มากและตนอยากเป็นแบบนี้ และ “พี่ปาล์มมี่” ยังไม่เคยเจอตัวจริง
ถ้าพี่ๆ อ่านก็อยากจะบอกว่าวันนี้ตนเป็นอินดี้แนวอีสานแต่ใจรักพี่เขาเต็มร้อย ไม่เคยเจอแต่ดูคอนเสิร์ตพี่ๆ ตลอด เพราะชอบมากและนำมาปรับใช้กับตัวเองเพื่อที่จะให้มันเป็นอินดี้ร็อก นอกจากนั้นก็ยังชอบ“บอดี้สแลม” “กะลา” จนซื้อแผ่นซีดีและทุกอัลบั้มต้องร้องได้ ได้แรงบันดาลใจมากพวกๆ พี่เขาและมาปรับใช้กับตนเอง
หลังจากนี้วางแผนเรื่องแนวเพลงต้องคิดมากขึ้นไม่คาดหวังเรื่องยอดวิว แต่มันต้องดีมากกว่าเพลงเดิม เสียงตนก็ต้องร้องให้ดีกว่าเดิมคอนเสิร์ตต้องแปลกใหม่กว่าเดิมมีลูกเล่นมากกว่าเดิมตั้งแต่เพลงแรกจนถึงเพลงล่าสุด เหตุการณ์มันต่อกันเหมือนเป็นสตอรี่ “ถิ่มน้องไว้กลางทาง / ทานหมาอย่าหัวสากัน / ฮักกันแฮงๆ และ เธอมันแค่ของเก่า”ตนก็เลยจะบอกถึงเรื่องราวชีวิตบางคนอกหักมาไม่ต้องท้อ คนเรามันต้องมีบ้างมีหัวใจก็ต้องรักใครเป็นและเจ็บเป็น ยิ่งเจ็บประสบการณ์ยิ่งเยอะก็เหมือนกับเพลงที่ตนแต่งขึ้น อกหักแล้วไม่มีใครตายต้องกลับมาเข้มแข็งและรักตัวเองก่อนอันดับแรก บางทีคนมาดูไลฟ์สดตนก็ได้กำลังใจกลับไปในขณะที่ตนก็ได้กำลังใจกลับมาเหมือนกัน อ่านแต่คอมเมนท์ดีๆอันไหนไม่ดีก็บล็อก ไม่แคร์ ใครไม่ชอบก็แล้วแต่อย่างน้อยคนที่ชอบก็มี การให้กำลังใจคนอื่นคือเรื่องที่ดีอย่างน้อยก็ส่งต่อกำลังใจให้กัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี