วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
จากประเด็นดราม่าเดือนบนโลกออนไลน์ กรณีของนักร้องหนุ่ม “ทอย ธันวา” หรือ “เดอะทอยส์” กำลังขึ้นโชว์ร้องเพลงที่ร้านแห่งหนึ่ง กลับมีชายคนหนึ่งบุกขึ้นไปบนเวที เข้าไปกอดคอเดอะทอยส์ พร้อมยื่นแก้วเหล้าเพื่อบังคับให้ดื่ม จนนักร้องหนุ่มทนไม่ไหว ตัดสินใจไม่ร้องเพลงต่อ ทิ้งกีตาร์แล้วเดินลงเวทีไป นำมาซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นาๆ มีทั้งคนเข้าใจ และมองว่านักร้องหนุ่มแก้ปัญหาไม่ถูก ไม่เป็นมืออาชีพ ล่าสุดนักร้องหนุ่ม เดอะทอยส์ ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้แล้ว ในงานแถลงข่าว “นีเวีย เมน เปิดตัว 4 พรีเซ็นเตอร์ใหม่ล่าสุด” ณ ลานหน้า Hard Rock Cafe สยามสแควร์ ซอย 11
เล่าเหตุการณ์บนเวทีให้ฟังหน่อย?
“เท่าที่เห็นคือเขาขึ้นมาบนเวที ผมจำไม่ได้ทั้งหมด แต่ฟีลคือกำลังจะร้องเพลงท่อนต่อไป รู้ตัวอีกทีคือเขาเข้ามาแล้วและผมหายใจไม่ออก ตอนนั้นไม่ได้พูดอะไรเลย ด้วยความที่บรรยากาศในร้านมันมืดๆ อยู่แล้วเลยมองอะไรไม่ค่อยเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น”
มีจังหวะที่เขวี้ยงกีต้าร์ลงพื้นด้วย ความรู้สึกคือเป็นยังไง?
“ตอนนั้นคือกลัวไม่ปลอดภัย ตกใจด้วย แต่ไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่รู้ว่าจะต้องยังไงดี ถ้าสมมุติเขามีมีดหรือมีปืนจะเป็นยังไง แล้วเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ผมแต่มันเป็นกับทุกคน ไม่ต้องเป็นศิลปินก็ได้ สมมุติถ้าผมเป็นเซลล์ขายรถกำลังคุยกับลูกค้าอยู่ แล้วมีคนเดินเข้ามาล็อกคอ คืออะไรตรงนี้มันเป็นวัฒนธรรมที่เราควรเรียนรู้ ซึ่งไม่ใช่ว่าเขาผิดนะ เพียงแค่ว่าเราได้รับวัฒนธรรมการชมดนตรีที่แตกต่างกันออกไป เลยเป็นอย่างที่เห็น”
หลังเกิดเหตุการณ์เจ้าของร้านได้มาพูดอะไรไหม?
“ได้มาคุยกับผู้จัดการครับ ผมถือว่าเขาค่อนข้างมีสปิริตเพราะเขารับผิดชอบเงินของลูกค้าทั้งหมด คืนทั้งหมด อันนี้คือเรื่องที่ดี จริงๆ เขาไม่ต้องทำก็ได้แต่ว่าเขาทำ”
หลังลงจากเวทีก็ไม่มีการเล่นต่อเลยใช่ไหม?
“ใช่ครับ คือผมไปกินข้าวต้มกับมือกลองต่อครับ ผมคุยกับมือกลองว่าแถวนี้มีร้านข้าวต้มเปิดไหม เขาก็บอกว่ามีตรงนี้ เราก็เลยไป”
หลังจากนี้จะมีการระวังไม่ให้แฟนเพลงขึ้นไปบนเวทียังไงบ้าง?
“จริงๆ เราควรรู้กันอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ดนตรี แต่มันเป็นทุกเรื่องบนโลก เราควรรู้กันอยู่แล้วว่าไม่ควรจะไปแทรกแซงในการปฏิบัติงานของใครก็ตามแต่ อันนี้มันเป็นวัฒนธรรมของการเป็นผู้ใหญ่”
พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทำให้เราระแวงในการขึ้นเวที กลัวจะซ้ำรอยอีกไหม?
“ไม่ครับ เพราะมันเป็นหน้าที่ของทีมงานแล้วครับ”
เห็นว่าทางเราก็คืนค่าตัววันนั้นให้หมดเลย?
“ใช่ครับ ตอนที่ผมไปกินข้าวต้มกับมือกลอง ผมก็บอกว่า ตายแล้ว! เราเล่นไม่ครบนี่ เพิ่งจะนึกได้ จังหวะนั้นผมเลยโทรหาผู้จัดการ ซึ่งผมเป็นคนตัดสินใจเองว่าขอคืนเงินทั้งหมด ส่วนเรื่องค่ารถต่างๆ ผมขออนุญาตออกเองนะครับ”
แสดงว่าเราก็อยากรับผิดชอบในส่วนนี้เหมือนกัน?
“ใช่ครับ เพราะถือว่าทางร้านเขารับผิดชอบกับลูกค้า อันนี้คือเรื่องที่ดีมาก”
พอทราบดราม่าที่เกิดขึ้นไหม บางคนมองว่าเราไม่เป็นมืออาชีพ?
“ผมไม่ค่อยเข้าไปอ่านครับ ผมไม่แคร์ ไม่ค่อยสนใจ เราอาจจะเป็นมืออาชีพสักหนึ่งหมื่นวัน และวันนั้นผมอาจจะใช้หมดพอดีก็เลยไปกินข้าวต้มดีกว่าครับ”
โกรธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไหม?
“ไม่โกรธครับ ทุกคนต้องเรียนรู้ ผมมองว่ามันเป็นเรื่องดีนะ แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้เหมือนกัน อย่างน้อยมันก็ทำให้เห็นว่าเป็นประสบการณ์ของทุกๆ ฝ่าย รวมถึงผมด้วย”
จากนี้ต้องเลือกรับงานมากขึ้นไหม?
“ไม่ซีเรียสอะไรเลยครับ เพราะสุดท้ายจะเป็นค่ายเท่านั้นที่รับงาน ไม่เกี่ยวกับผม”
หากมีงานติดต่อมาอีกครั้ง เราสามารถกลับไปเล่นที่สถานบันเทิงนั้นได้ไหม ?
“ได้ครับ ไม่ปัญหาอะไรเลย”
ต้องขอเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยเพิ่มไหม?
“ไม่ทราบเลยครับ เพราะทางทีมงานจะเป็นคนจัดการให้ทุกอย่าง ผมไม่รู้ ผมไม่ได้เรียกร้องอะไรเพิ่มเลยครับ”
อยากจะบอกอะไรกับแฟนคลับที่เป็นห่วงบ้างไหม?
“ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจ และไม่ต้องไปโจมตีใครเลย ไม่ว่าจะเป็นทางร้านหรืออะไรก็ตามครับ เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องเรียนรู้อยู่แล้ว เป็นก้าวเล็กๆ ที่ทำให้เรารู้จัก เรียนรู้ และแก้ปัญหา ผมคิดแค่นั้นครับ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี